แห่ซื้อกระเป๋าแบรนด์พุ่ง หนุน "ศุลกากร" รีดภาษีทะลุ 6 หมื่นล้าน

นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากร รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้ของกรมในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ2566 (ตุลาคม 2565 - มีนาคม 2566) กรมศุลกากรจัดเก็บรายได้รวม 60,416 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 274 ล้านบาท

ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการชำระอากรตามคำพิพากษาคดี  และมูลค่าการนำเข้าขยายตัว โดยสินค้านำเข้าหลักที่จัดเก็บอากรได้สูง ได้แก่ 

• กระเป๋าแบรนด์เนม จัดเก็บได้กว่า 1,991 ล้านบาท คิดเป็น 21.5% 
• รถยนต์นั่ง จัดเก็บได้กว่า 7,772 ล้านบาท คิดเป็น 18.6% 
• ส่วนประกอบยานยนต์ จัดเก็บได้กว่า 4,201 ล้านบาท คิดเป็น 25.3% 
• ยารักษาโรค จัดเก็บได้กว่า 2,818 ล้านบาท คิดเป็น 26.7% 
• เครื่องสำอาง จัดเก็บได้กว่า 1,685 ล้านบาท คิดเป็น 32.4% 

จากการติดตามข้อมูลสินค้านำเข้าที่มีการขยายตัวมากที่สุดในช่วง 2-3 ปี คือ กระเป๋าแบรนด์เนม เครื่องสำอาง และยารักษาโรค เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัว ผู้ประกอบการจึงมีการนำเข้าสินค้าแบรนด์เนมเพื่อมาจำหน่ายในประเทศรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเข้าแถวรอคิวซื้อกระเป๋า และปัจจุบันเทรนด์การให้ความสำคัญกับสุขภาพ และความสวยความงาม จึงมีการนำเข้ายารักษาโรค โบท็อกซ์ และฟีลเลอร์ขยายตัวมากขึ้น"นายพันธ์ทองกล่าว               

ขณะที่ผลการตรวจพบการกระทำความผิดทางกฎหมายศุลกากรในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2566 กรมมีนโยบายในการเร่งรัดปราบปรามการลักลอบและหลีกเลี่ยงการนำเข้าและส่งออกสินค้าจากราชอาณาจักร เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อมจึงให้หน่วยงานในสังกัดพร้อมหน่วยปฏิบัติการวางแผนตรวจค้นจับกุมอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษ ซึ่งมีการจับกุมจำนวน 16,529 คดี คิดเป็นมูลค่ารวม 1,777 ล้านบาท 

ทั้งนี้ ในส่วนการจับกุมคดีหมูเถื่อนนั้น พบทั้งหมด 13 คดี นำหนัก 4.6 ล้านกิโลกรัม มูลค่ากว่า 240 ล้านบาทเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาหมูในประเทศมีราคาสูงขึ้น จึงพบการพยายามลักลอบนำเข้ามามากกว่าปกติ อย่างไรก็ดี กรณีจับพบหมูเถื่อนนั้น กรมมีการส่งต่อให้กรมปศุสัตว์ไปฝังกลบและทำลาย เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อ