บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไทย ฮิตในเกาหลี ยอดส่งออกพุ่ง

จากกระแสความนิยมอาหารไทยที่แผ่ขยายไปยังทั่วโลก โดยจากการจัดอับดับทางด้านอาหารและเครื่องดื่ม ในปี 2565 มีทั้งเมนูอาหาร เครื่องดื่ม หรือขนมของไทย ติดอันดับความนิยมอยู่เสมอ 

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าความนิยมอาหารไทยในรูปแบบอาหารแห้ง เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ได้รับอานิสงส์จากความนิยมอาหารไทยไปด้วย โดยเฉพาะประเทศเกาหลีใต้ ใต้ เนื่องจากมีความหลากหลายของรูปแบบผลิตภัณฑ์ มีรสชาติของอาหารไทยที่หลากหลาย เช่น รสต้มยำกุ้ง รสผัดไทย รสปูผัดผงกะหรี่ และ รสชาติเผ็ด

ส่งผลให้ภาพรวมตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของไทยมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 เกาหลีใต้นำเข้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากไทย มูลค่าประมาณ 1.92 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 57.1 % และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากกระแสความนิยมอาหารไทย 

ถือเป็นโอกาสสำคัญในการขยายการส่งออกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของไทยในทวีปเอเชีย ให้มากขึ้น เนื่องจากในปี 2565-2567 มูลค่าตลาดอุตสาหกรรมอาหารพร้อมทานจะยังมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง จากการบริโภคภายในภูมิภาค และ นอกภูมิภาค

ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ พบว่าปี 2565 มียอดการส่งออก บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไปยังต่างประเทศใน 15 อันดับแรก สามารถทำรายได้กว่า 8,700 ล้านบาท 

15 อันดับแรก ส่งออกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

1. เนเธอร์แลนด์  มูลค่าการส่งออกปี 2565 อยู่ที่ 1,078 ล้านบาท

2. กัมพูชา  มูลค่าการส่งออกปี 2565 อยู่ที่ 1,801 ล้านบาท

3. เมียนมา มูลค่าการส่งออกปี 2565 อยู่ที่ 928 ล้านบาท

4. ลาว มูลค่าการส่งออกปี 2565 อยู่ที่ 716 ล้านบาท

5. สหรัฐอเมริกา มูลค่าการส่งออกปี 2565 อยู่ที่ 640 ล้านบาท

6. ออสเตรเลีย    มูลค่าการส่งออกปี 2565 อยู่ที่ 513 ล้านบาท

7. ฟินแลนด์    มูลค่าการส่งออกปี 2565 อยู่ที่ 324 ล้านบาท

8. ฝรั่งเศส    มูลค่าการส่งออกปี 2565 อยู่ที่ 320 ล้านบาท

9. สหราชอาณาจักร มูลค่าการส่งออกปี 2565 อยู่ที่ 133 ล้านบาท        

10. อิสราเอล    มูลค่าการส่งออกปี 2565 อยู่ที่ 306 ล้านบาท

11. แคนาดา    มูลค่าการส่งออกปี 2565 อยู่ที่ 274 ล้านบาท

12. จีน    มูลค่าการส่งออกปี 2565 อยู่ที่ 180 ล้านบาท

13. สิงคโปร์    มูลค่าการส่งออกปี 2565 อยู่ที่ 146 ล้านบาท

14. ไต้หวัน    มูลค่าการส่งออกปี 2565 อยู่ที่ 133 ล้านบาท

15. นิวซีแลนด์ มูลค่าการส่งออกปี 2565 อยู่ที่ 130 ล้านบาท