เชียงใหม่วิกฤตหนัก ยกระดับรับมือฝุ่นควันพิษ’ 

31 มี.ค. 2566 | 11:13 น.
อัปเดตล่าสุด :31 มี.ค. 2566 | 11:31 น.

เชียงใหม่ไม่รอประกาศเขตภัยพิบัติฝุ่นควัน  ผู้ว่าฯสั่งยกระดับดูแลผู้ได้รับผลกระทบทันที ลั่นหน้ากากเทียบเคียง N95 มีพร้อมแจกจ่าย จัดห้องปลอดฝุ่นทุกพื้นที่

 ไฟเขียวพื้นที่ร่วมกับสาธารณสุขออกคำสั่งได้ตามสถานการณ์แต่ละจุด

 นายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ ประธานสภาลมหายใจเชียงใหม่ กล่าวว่า เชียงใหม่เจอมลพิษทางอากาศ จนมีค่าสูงต่อเนื่องเข้าขั้นวิกฤตและสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของเมืองหลักที่คุณภาพอากาศแย่ที่สุดติดต่อกัน 3 วันแล้ว จนคนเชียงใหม่รู้สึกอึดอัด จึงเชิญชวนกันออกมาเขียนเรียกร้องรัฐบาล อยากให้ช่วยเหลืออะไรอย่างไร 

เชียงใหม่วิกฤตหนัก ยกระดับรับมือฝุ่นควันพิษ’ 

เชียงใหม่วิกฤตหนัก ยกระดับรับมือฝุ่นควันพิษ’ 

“ทำให้เหมือนโควิด-19 ได้ไหม รัฐมนตรีสาธารณสุขหรือโฆษกสถานการณ์ ออกมาประกาศมาชี้แจง ทำให้สถานการณ์ชัดเจน ผมอยากเห็นภาพอย่างนั้น เพราะปัญหาครั้งนี้รุนแรงมาก เราอยู่กันเฉยๆ แบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว”

นายชัชวาลย์กล่าวอีกว่า ควรต้องประกาศวิกฤตทางสุขภาพ อย่างน้อยจะได้มีสวัสดิการในเรื่องหน้ากาก PM2.5 ที่มีคุณภาพ มีค่ารักษาพยาบาล รวมทั้งเครื่องฟอกอากาศ  ไม่ใช่ปล่อยให้ภาระตกอยู่แก่ประชาชน ให้ต้องดูแลรับผิดชอบตัวเองหมด และควรต้องทำอย่างรวดเร็วให้เป็นรูปธรรม 

เชียงใหม่วิกฤตหนัก ยกระดับรับมือฝุ่นควันพิษ’ 

เชียงใหม่วิกฤตหนัก ยกระดับรับมือฝุ่นควันพิษ’ 

ด้านนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. 2566 ที่ผ่านมาจุดความร้อนมีจำนวนที่สูง สอดคล้องกับจังหวัดและประเทศข้างเคียงที่สูงขึ้น เช่นเดียวกัน ได้กำชับให้ทุกหน่วยควบคุมจุดความร้อนให้น้อยลง และดับจุดความร้อนให้ได้ภายใน 1 วัน ซึ่งส่วนใหญ่สามารถดำเนินการได้ ขณะนี้เชียงใหม่รับมือการเผาอยู่ในเกณฑ์ที่ดี พยายามควบ คุมไม่ให้เกิน 50 จุดต่อวัน  

จังหวัดเชียงใหม่ได้ยกระดับการดูแลพี่น้องประชาชน โดยการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับผล กระทบจากวิกฤตการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กจังหวัดเชียงใหม่ (ศชฝ.ชม.) ระดมคณะทำงานจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน วิชาการ และภาคประชาชน ให้ชัดเจน เข้มข้น เพื่อดูแลสุขภาพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างดีที่สุด

เชียงใหม่วิกฤตหนัก ยกระดับรับมือฝุ่นควันพิษ’   

โดยเฉพาะการจัดหาและกระจายหน้ากากอนามัยที่จะดำเนินการอย่างเร่งด่วนและครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม ซึ่งมาตรฐาน ของหน้ากากอนามัยที่แจกจ่ายให้ประชาชนในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นสูง จะเน้นให้เป็นหน้ากากที่มีมาตรฐานใกล้เคียง N95 พร้อมแจกจ่ายลงไปในทุกพื้นที่ และได้จัดหาเพิ่มเติมพื่อกระจายให้ถึงประชาชนทุกกลุ่มให้มากที่สุด

นอกจากนี้ยังได้เน้นยํ้าถึงการเปิดให้ประชาชน เข้าถึงห้องปลอดฝุ่นที่ได้มาตรฐานในทุกพื้นที่ของจังหวัด โดย ศชฝ.ชม. จะได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ หากพื้นที่ใดในจังหวัดเชียงใหม่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน ศชฝ.ชม. จะต้องเข้าถึงในทันที 

รวมถึงการออกประกาศแจ้งเตือน ให้ข้อมูลข่าวสาร และการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ หรือขอความร่วมมือต่างๆ หากพื้นที่ไหนสถานการณ์รุนแรง เช่น อำเภอที่ใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้าน ก็สามารถออกประกาศคำเตือน การห้ามออกนอกพื้นที่ ขอความร่วมมือให้ประชาชนอยู่แต่บ้าน ให้โรงเรียนหยุดการเรียนการสอนในช่วงเวลาดังกล่าวได้ เป็นการยกระดับความช่วยเหลือให้ทันท่วงที โดยปัจจัยในการพิจารณาคือ การให้พื้นที่ประเมินร่วมกับสาธารณสุข และจะพิจารณาตามแต่ละสถานที่ที่มีความจำเป็น ซึ่งจะเฝ้าดูสถานการณ์ 24 ชั่วโมง

เชียงใหม่วิกฤตหนัก ยกระดับรับมือฝุ่นควันพิษ’ 

ผู้ว่าฯนิรัตน์ยํ้าด้วยว่า เหตุที่ไม่ประกาศภาวะฉุกเฉิน หรือเขตภัยพิบัติฝุ่นควัน เพราะเชียงใหม่เป็นเมืองพหุสังคมอยู่กันหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว ไม่แน่ใจว่าถ้าประกาศภาวะฉุกเฉินออกไป จะทำให้นักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางหรือไม่ “ผมไม่อยากให้กระทบตรงนี้ แต่ไม่มีการละเลยความเดือดร้อน หรือสุขภาพของพี่น้องประชาชน ซึ่งได้ให้ยกระดับแล้ว ผมยืนยันว่าการช่วยเหลือทำได้โดยไม่ต้องรอประกาศภาวะ ฉุกเฉิน”

ส่วนการจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวในช่วงประเพณีสงกรานต์ ต้องให้คำแนะนำที่ถูกต้อง เนื่องจากปัญหาฝุ่นควันเชียงใหม่มีสูงตํ่า ไม่ได้สูงต่อเนื่องเป็นเดือนๆ เหมือนประเทศที่มีพายุทะเลทราย ซึ่งนักท่องเที่ยวเขาจะรู้และติดตามข้อมูลอยู่เพื่อปรับตัวรับ

โดยเวลานี้นักท่องเที่ยวลดลงนิดหนึ่งจากช่วงฤดูหนาว เฉลี่ยอยู่ที่ 70-75% ถือว่าอยู่ในช่วงที่สูงอยู่ อยากรักษาระดับตัวเลขนักท่องเที่ยวแบบนี้ไว้ด้วย ควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชนอย่างทั่วถึงและทันท่วงที 

นภาพร ขัติยะ/รายงาน
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,875 วันที่ 2-5 เมษายน พ.ศ.2566