เปิดผลประกอบการ อาร์เอส กรุ๊ป 2565 รายได้รวม 3,533 ล้านบาท กำไรสุทธิ 137 ล้านบาทเติบโต 8% จากการฟื้นตัวของคอนเสิร์ต สปอนเซอร์อีเวนต์ และการเติบโตของรายได้ลิขสิทธิ์คอนเทนต์ (Content licensing)เชื่อปี 2566เติบโตทุกมิติทั้งธุรกิจคอมเมิร์ซ ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ผ่านการลงทุนเชิงกลยุทธ์ผ่านการควบรวมกิจการ (Merger & Acquisition: M&A) และความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศเพื่อขยาย Ecosystem ภายใต้โมเดล Entertainmerce ดันรายได้ทั้งปีเข้าเป้า 5,500 ล้านบาท
พร้อมกับตั้ง บริษัท อาร์เอส เพ็ท ออล์ จำกัด เพื่อสร้าง Petconomy ผลิต จัดจำหน่ายสินค้า และบริการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงอย่างครบวงจร ควบคู่ไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพกว่า 71 SKUs ภายใต้ 4 แบรนด์หลัก ได้แก่ เวลยู, คามูซี, ไวตาเนเจอร์พลัส และไลฟ์เมต
ส่วนปี 2566นี้คาดว่าจะเป็นปีแห่งการขยายธุรกิจในทุกมิติทั้งธุรกิจคอมเมิร์ซและธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ รวมถึงการลงทุนกับพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อขยาย Ecosystem ของ อาร์เอส กรุ๊ป ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยเริ่มที่การปรับโครงสร้างองค์กรใหม่เพื่อเตรียมความพร้อมของบริษัทในเครือเพื่อ Spin-off เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยจุดมุ่งหมายสำคัญ คือทำให้ อาร์เอส กรุ๊ป เป็น “Life Enriching” ที่จะยกระดับทุกมิติของการใช้ชีวิตของลูกค้าและสัตว์เลี้ยงผ่านทุกกลุ่มธุรกิจในเครือ”
ด้านนายวิทวัส เวชชบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ยังเป็นกลไกขับเคลื่อนที่สำคัญของ อาร์เอส กรุ๊ป ในปีที่ผ่านมา ซึ่งรายได้เอ็นเตอร์เทนเมนต์เติบโต 39% จากปีก่อนหน้า โดยเป็นผลจากทั้งกิจกรรม คอนเสิร์ต และการเติบโตของรายได้การขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์
“อาร์เอส กรุ๊ป วางรากฐานไว้ทั้งการสร้างแบรนด์ และการปูพรมช่องทางจำหน่ายให้แข็งแรงในปีที่ผ่านมา ประกอบกับตลาดและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ฟื้นตัว จึงเป็นโอกาสของ อาร์เอส ทั้งในส่วนธุรกิจคอมเมิร์ซที่ประกอบด้วย RS Livewell และ RS Connect ที่จะสร้างยอดขายให้เติบโตด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 45 SKUs รวมถึงขยายตลาดด้วยช่องทางและพันธมิตรใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดที่กว้างขึ้น
ด้านธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เราจะกลับมาลงทุนในธุรกิจเพลงอีกครั้งร่วมกับพันธมิตรระดับโลก ซึ่งจะช่วยทั้งเพิ่มรายได้จากทรัพย์สินเพลงเดิมและสร้างฐานทรัพย์สินเพลงใหม่ นอกจากนี้ เรายังเดินหน้าสร้างรายได้จากอีเวนท์ และคอนเสิร์ตอย่างเต็มรูปแบบตลอดปีซึ่งจะสามารถสร้างรายได้มากกว่า 550 ล้านบาท โดยล่าสุด COOLive (คูลไลฟ์) ภายใต้กลุ่มธุรกิจ RS Multimedia ในเครือ อาร์เอส กรุ๊ป ประกาศแผน Showbiz ปี 2566 ภายใต้คอนเซปต์ #inCOOLsiveExperience สร้างประสบการณ์ร่วมที่คูลกว่าสำหรับทุกเจเนอเรชัน กับ 4 คอนเสิร์ตใหญ่ที่รวมทุกความออริจินัลของ อาร์เอส ที่ทุกคนคิดถึง ได้แก่ RS Hits Journey 2023, D2B 22nd Anniversary Concert 2023, Kamikaze Party Reunion และ RS Meeting Danceventure Concert 2023 และจะจัด Music Festival 4 ฤดู ใน 4 พื้นที่ ได้แก่ ชะอำ, สวนผึ้ง กรุงเทพฯ และเขาใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าชมคอนเสิร์ตใหญ่และ Music Festival กว่า 1 แสนคน
และอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จของอาร์เอส กรุ๊ป คือการลงทุนผ่าน M&A อย่างต่อเนื่องเพื่อต่อยอด Ecosystem ของโมเดลธุรกิจ Entertainmerce ให้เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยจะเฟ้นหาพันธมิตรที่เราจะร่วมลงทุนและเติบโตไปพร้อมกันในรูปแบบ Strategic Investment คาดว่าปีนี้จะใช้เงินลงทุนประมาณ 300-600 ล้านบาทต่อดีล
"ที่ผ่านมาเราผลักดัน บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ CHASE ให้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และได้เข้าทำการซื้อ-ขายเป็นวันแรกเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และมีรายรับจากการขายหุ้นบางส่วนของ CHASE ก่อนเข้าตลาดเป็นเงินสด 420 ล้านบาท และรับรู้กำไรพิเศษจากธุรกรรมนี้ทันทีในไตรมาส 1 ปี 2566 กว่า 100 ล้านบาท เราตั้งใจคงหุ้น CHASE จำนวน 20.35% ไว้ในระยะยาว”