ดุสิตธานี ขยาย 2 ธุรกิจโรงแรมไทยในญี่ปุ่น

26 ก.พ. 2566 | 08:00 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ก.พ. 2566 | 08:25 น.
672

ดุสิตธานี ส่ง 2 แบรนด์โรงแรมใหม่ ‘ดุสิตธานี เกียวโต’ และ “อาศัย เกียวโต ชิโจ’ ปักธงแดนอาทิตย์อุทัยเล็งขยายพอร์ตเพิ่มในอีกหลายเมืองสำคัญกรุยทางสร้างโอกาสเติบโตในอนาคตหลังอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการทั่วโลกกลับมาฟื้นตัวอย่างคึกคัก

กลุ่ม “ดุสิตธานี” เตรียมเปิดตัว 2โรงแรมภายใต้แบรนด์ “ดุสิตธานี” ในประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก นำร่อง“อาศัย เกียวโต ชิโจ” ที่พักแนวไลฟ์สไตล์ในเดือนมิถุนายน และ “ดุสิตธานี เกียวโต” โรงแรมระดับลักซ์ชูรี ภายในเดือนกันยายนนี้ พร้อมมองหาโอกาสในการขยายพอร์ตโฟลิโอโรงแรมในอีกหลายเมืองสำคัญในญี่ปุ่น เพื่อวางรากฐานที่มั่นคงในการสร้างเติบโตให้กับการลงทุนของ “กลุ่มดุสิตธานี” ในต่างประเทศในอนาคต

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เปิดเผยว่า  กลุ่มดุสิตธานีได้เปิดตัวโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตภายใต้แบรนด์ “ดุสิตธานี”ที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการครั้งแรก 2 แห่งคือโรงแรม อาศัย เกียวโต ชิโจ (ASAI Kyoto Shijo) และ ดุสิตธานี เกียวโต (Dusit Thani Kyoto) ที่จะเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายนและเดือนกันยายนปีนี้  หลังจากก่อนหน้านี้ได้ขยายการให้บริการเช่าวิลล่าหรู ในหมู่บ้านนิเซโกะและฮิราฟุ ของฮอกไกโด ภายใต้แบรนด์อีลิธ เฮเวนส์มาแล้ว 

 

“การเปิดตัวโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตที่ประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้ เป็นการปักหมุดหมายสำคัญเพื่อส่งมอบประสบการณ์การบริการ 4 ประการของ Dusit Graciousness ได้แก่ การบริการ (Service) ที่มุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการของผู้เข้าพักอย่างสง่างาม, การกินดีอยู่ดี (Well-Being) เพื่อส่งมอบประสบการณ์ด้านสุขภาพที่เหนือระดับ, การเชื่อมโยงกับท้องถิ่น (Locality) เพื่อให้ลูกค้าของดุสิตธานีได้สัมผัสและเข้าถึงชุมชนท้องถิ่นอันมีเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศ และ ความยั่งยืน (Sustainability) ทั้งมิติทางสังคม และสิ่งแวดล้อม” 

โรงแรมดุสิตธานี เกียวโต (Dusit Thani Kyoto)  สำหรับ โรงแรมดุสิตธานี เกียวโต (Dusit Thani Kyoto)  ภายใต้แบรนด์ดุสิตธานี จะให้บริการที่พักระดับลักซ์ชูรีในย่าน ฮังกันจิ มอนเซ็น-มาจิ (Hanganji Monzen-machi) อยู่ห่างจากสถานีรถไฟเกียวโต (Kyoto Station)  850 เมตรใกล้กับวัดนิชิ ฮอนกันจิ (Nishi Honganji) ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกที่ได้รับคัดเลือกจากยูเนสโก (UNESCO) และยังแวดล้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอื่นๆ อีกหลายแห่ง โดยดีไซน์ของที่พักได้รับแรงบันดาลใจจากมรดกทางวัฒนธรรมอันยาวนานและสถาปัตยกรรมของ 2 เมืองหลวงเก่าแก่ ทั้ง เกียวโต ประเทศญี่ปุ่น และอยุธยา ประเทศไทย

นอกจากห้องพักที่ตกแต่งอย่างเหนือระดับจำนวน 150 ห้องซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ทั้ง 4 ชั้น โรงแรมแห่งนี้ยังมีพื้นที่จัดงานขนาดใหญ่ ฟิตเนสเซ็นเตอร์ และเทวารัณย์ เวลเนส (Devarana Wellness) ที่ให้บริการการนวดบำบัดแบบไทยโบราณและแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม รวมถึงทรีทเมนท์เพื่อสุขภาพ กิจกรรม และเป้าหมายในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม

 

นอกจากนี้ประสบการณ์ด้านอาหารและเครื่องดื่มยังเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของ ดุสิตธานี เกียวโต ที่มีตัวเลือกหลากหลายที่จะทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของผู้ที่ชื่นชอบการรับประทาน เช่นอาหารไทยแบบต้นตำรับที่ใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลและอยู่บนฐานความยั่งยืน 


ขณะที่ โรงแรมอาศัย เกียวโต ชิโจ (ASAI Kyoto Shijo) จะเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายนนี้ จะกลายเป็นหนึ่งหมุดหมายของเมือง โดยโรงแรมแห่งนี้บริหารภายใต้ อาศัย โฮเท็ลส์ (ASAI Hotels) แบรนด์โรงแรมแนวไลฟ์สไตล์ภายในเครือดุสิตธานี   มีจำนวนห้องพักทั้งหมด 114 ห้อง ตั้งอยู่ในย่านชิโจ-คาราสุมะ (Shijo-Karasuma) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตลาดนิชิกิ (Nishiki Markaet) ใจกลางเมือง  ที่นี่จะให้บริการห้องพักในขนาดที่ออกแบบพื้นที่ได้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น อาทิ เตียงนอนคุณภาพเยี่ยม และฝักบัวอาบน้ำแรงดันสูง มีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ซึ่งทำหน้าที่เป็นสถานที่อเนกประสงค์ทั้งการทำงาน พักผ่อนอิริยาบถ รวมถึงทำกิจกรรมต่างๆ 

โรงแรมอาศัย เกียวโต ชิโจ (ASAI Kyoto Shijo) " เป้าหมายของเราไม่ไช่แค่ให้บริการที่พักระดับลักซ์ชูรีที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบัน แต่ยังรวมถึงการมีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่นอย่างมีความหมายและยั่งยืน การเชื่อมโยงจุดเด่นของกลุ่มดุสิตธานี ทั้งด้านโรงแรมและรีสอร์ท ด้านการศึกษา ด้านอาหารและด้านอสังหาริมทรัพย์ทำให้เรามั่นใจว่าแนวทางนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานะของเราและวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการเติบโตที่ประเทศญี่ปุ่นในอนาคต

 

ตอนนี้เรากำลังวิเคราะห์ทางเลือกเพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอโรงแรมในอีกหลายเมืองที่น่าสนใจ เช่น ฟุกุโอกะ โอซาก้า และโตเกียว และยังคงแสวงหาโอกาสในการขยายหน่วยธุรกิจอื่นๆ ของเราในอุตสาหกรรมใกล้เคียง”