"กนอ." ผนึก "คปภ." นำร่อง 3 นิคมฯต้นแบบด้ายความปลอดภัย

13 ก.พ. 2566 | 14:17 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ก.พ. 2566 | 14:17 น.

"กนอ." ผนึก "คปภ." นำร่อง 3 นิคมฯต้นแบบด้ายความปลอดภัย พร้อมส่งเสริมความรู้ สิทธิประโยชน์ ด้านการประกันภัย พ.ร.บ. ให้ผู้ประกอบการ พนักงานโรงงาน ชุมชน

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สร้างความรู้ ความเข้าใจ และสิทธิประโยชน์ ด้านการประกันภัย พ.ร.บ. ให้กับผู้ประกอบการ พนักงานโรงงาน และชุมชนโดยรอบนิคมอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ กนอ. จะนำร่องในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม 3 แห่ง ประกอบด้วย นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ,นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ โดยจากการสำรวจข้อมูลการจราจรในนิคมนำร่องฯ ทั้ง 3 แห่ง พบว่า มีจำนวนการใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ประมาณ 72,965 คัน แบ่งออกเป็น 

  • นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด 32,965 คัน 
  • นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน 8,000 คัน 
  • นิคมอุตสาหกรรมบางปู 32,000 คัน 
     

โดยนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน มีจำนวนรถจักรยานยนต์ 3,500 คัน สำหรับสถิติการเกิดอุบัติเหตุ พบว่าภายหลังจากที่ได้ดำเนินโครงการ จำนวนอุบัติเหตุเกิดอุบัติเหตุมีแนวโน้มลดลง

"กนอ." ผนึก "คปภ." นำร่อง 3 นิคมฯต้นแบบด้ายความปลอดภัย นายวีริศ กล่าวอีกว่า กนอ.ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของผู้ประกอบการ พนักงานโรงงาน ตลอดจนชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งสอดรับกับภารกิจของ กนอ.ในการกำกับดูแลบริหารจัดการด้านความปลอดภัยของนิคมอุตสาหกรรมให้เป็นไปตามกฎหมาย สร้างความเชื่อมั่นต่อสาธารณชน 

"จะผลักดันให้เกิดความรู้ความเข้าใจถึงสิทธิประโยชน์ และตระหนักถึงความสำคัญของการทำประกันภัย พ.ร.บ.ว่า เป็นสิ่งที่กฎหมายกำหนดให้ผู้ขับขี่รถจำเป็นต้องทำ รวมถึงสร้างการรับรู้ถึงบทบาทหน้าที่ของกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยให้กับผู้ประกอบการ พนักงานโรงงาน ตลอดจนชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กนอ. เพื่อบรรลุเป้าหมายให้พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเป็นต้นแบบด้านความปลอดภัย” 

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า ที่ผ่านมา คปภ.ขับเคลื่อนด้านประกันภัย พ.ร.บ.ในหลากหลายมิติอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย 

  • การปรับเพิ่มวงเงินความคุ้มครองตามประกันภัย พ.ร.บ.อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ประสบภัยจากรถได้รับความช่วยเหลือที่เหมาะสม 
  • การขยายช่องทางการจำหน่ายประกันภัย พ.ร.บ. ให้ประชาชนสามารถซื้อหรือต่อประกันภัย พ.ร.บ.สะดวกยิ่งขึ้น 
  • การพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัย พ.ร.บ.สำหรับรถจักรยานยนต์ที่มีระยะเวลาความคุ้มครองระยะยาว 3 – 5 ปี เพื่ออำนวยความสะดวกและเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชน 
  • บูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประกันภัย พ.ร.บ.

"ความร่วมมือดังกล่าวเพื่อต่อยอดการบูรณาการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ด้านประกันภัย พ.ร.บ. ตลอดจนสร้างความร่วมมือด้านเทคโนโลยีข้อมูลข่าวสาร และการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อสนับสนุนงานวิชาการด้านประกันภัย พ.ร.บ. โดยมีผลใช้บังคับเป็นระยะเวลา 3 ปี"