นายกฯ มั่นใจเศรษฐกิจไทย 2566 ท่องเที่ยว-ลงทุนหนุน GDP โต 4%

08 ก.พ. 2566 | 08:56 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ก.พ. 2566 | 09:12 น.

นายกฯ มั่นใจเศรษฐกิจไทย 2566 ตัวเลข GDP โต 4% หลังทีมเศรษฐกิจรัฐบาลรายงานสถานการณ์มีแนวโน้มสดใส เชื่อท่องเที่ยว และการลงทุนช่วยหนุนเศรษฐกิจ

สถานการณ์เศรษฐกิจไทย เริ่มกลับมาฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด หลังจากผ่านช่วงเวลายากลำบาก จากการเกิดการแพร่ระบาดของสถานการณ์โควิด-19 มายาวนานกว่า 3 ปี ล่าสุด สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยขยายตัว 3-4% 

ล่าสุด นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับทราบแผนการ และการทำงานของหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ และรู้สึกยินดีที่ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ของไทยในปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตมากถึง 4 % 

ขณะที่ดัชนีตัวเลขทางเศรษฐกิจดีขึ้นอย่างมาก ซึ่งล้วนเป็นผลจากการดำเนินนโยบายของรัฐบาล ที่ดูแล ให้ความช่วยเหลือ ลดผลกระทบที่เกิดกับประชาชน ออกนโยบายให้ความช่วยเหลือทุกด้าน จนทำให้ระบบเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลการันตีโต 4%

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2566 อาจขยายตัวถึง 4% เป็นผลมาจากประเทศไทย รักษาวินัยการเงินการคลังได้ดี มีอันดับความน่าเชื่อถือไม่ได้ปรับตัวลดลง ขณะที่ต่างประเทศและนักวิเคราะห์ยังประเมินว่า ประเทศไทยจัดการกับสถานการณ์ที่วิกฤตได้ดีด้วย 

รวมไปถึงการที่รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนในด้านต่าง ๆ และได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเปิดรับอุตสาหกรรม และเทคโนโลยีใหม่ โดยเฉพาะการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV รวมถึง นโยบายฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตกับ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ในรอบ 32 ปี ก็ถือเป็นผลงานของรัฐบาล สามารถขยายเขตการค้า เข้าสู่ตะวันออกกลางและแอฟริกาได้ง่ายขึ้น  

ประเมินลงทุนแนวโน้มแตะ 1 ล้านล้าน

สำหรับในปีนี้ เศรษฐกิจประเทศไทยมีแนวโน้มจะดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว จากการประเมิน ยังพบว่า การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มดีขึ้น เช่นเดียวกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้คาดว่าจะมีมากกว่า 20 ล้าน ส่วนการส่งเสริมการลงทุนในปี 2565 มีมูลค่ามากถึง 700,000 ล้านบาท และคาดว่ามูลค่าการส่งเสริมการลงทุนในอนาคต มีมากถึง 1 ล้านล้านบาท 

โฆษกรัฐบาล ระบุว่า นายกรัฐมนตรีรับทราบตัวเลขการประเมินดังกล่าวแล้ง และขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแรงร่วมใจในการทำงานอย่างต่อเนื้อ เชื่อว่าส่งผลเป็นความสำเร็จร่วมกันในการดำเนินนโยบายของรัฐบาล ทำให้ไทยผ่านพ้นวิกฤตมาได้ พร้อมทั้งขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลเป็นอย่างดีในช่วงเวลาที่ผ่านมา จึงอยากให้ประชาชนทุกคนเชื่อมั่น รัฐบาลพร้อมที่จะทำงานเพื่อให้ประชาชนทุกคนอยู่ดีกินดี