"ประกันรายได้" ยาง-ปาล์ม "จุรินทร์"ชูตลาดนำการผลิตหวังเพิ่มรายได้

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีมอบใบรับรองการจัดการหนี้ให้กับเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ที่สนามที่ว่าการอำเภอคุระบุรี จ.พังงาและติดตามความคืบหน้าโครงการประกันรายได้ ว่า โครงการประกันรายได้  โครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน และกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินการดูแลเกษตรกรทั้งประเทศ

โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งที่นี่ส่วนใหญ่ทำเกษตรปลูกปาล์มน้ำมัน ปลูกยางพารา ตอนนี้กระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นรัฐมนตรี จับมือภายใต้ เกษตรผลิตพานิชย์ตลาด โดยยุทธศาสตร์ ตลาดนำการผลิต ช่วยให้ขายยางและปาล์มได้ราคาขึ้น

ต้องยอมรับว่าก่อนเป็นรัฐบาล ราคายางพาราสามโลร้อย แต่ตอนนี้ดีขึ้นมาก ยางแผ่นดิบจาก 30 กว่าบาทเป็น 40-60 บาท/กก. และในบางช่วง ขี้ยางสมัยก่อน 7-10 บาท/กก. แต่ปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯได้เข้ามาแก้ปัญหาทำงานร่วมกับรองผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย ทำโครงการประกันรายได้ส่งผลให้ทั้งยางพารา ขี้ยางกิโลกรัมละ 20-25 บาท บางช่วงเกือบ 30 บาท/กก. ซึ่งถือว่าสถานการณ์ดีกว่าก่อน แม้ว่าตอนนี้ที่ราคาลดลงบ้างจากปัญหาเศรษฐกิจโลกไม่ดี คนซื้อรถน้อยลง

 ส่วนปาล์มน้ำมันสมัยก่อน กิโลกรัมละ 2 บาทกว่า วันนี้กิโลกรัม 6-7 บาท เคยขึ้นสูงสุดถึง 12 บาท/กก. เพราะนโยบายกระทรวงพาณิชย์ รัฐบาล และกระทรวงเกษตรฯ ที่ช่วยกัน ไม่ให้มีการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์ม วันนี้กระทรวงพาณิชย์ห้ามนำเข้าน้ำมันปาล์มทางบก และได้พาเอกชนไปขายน้ำมันปาล์มที่อินเดียเปิดตลาดน้ำมันปาล์ม และที่ยกเลิกไปแล้ว คือ การปรับน้ำมันดีเซลจาก B5 เป็น  B10 ตอนหลังราคาแพงจึงเหลือ B5 ตอนนี้จะเพิ่มจาก B5 เป็น B7 ซึ่งต้องรอมติคณะรัฐมนตรี เพื่อใช้น้ำมันปาล์มมากขึ้น จะให้ราคาน้ำมันปาล์มขึ้น

“ผมเกิดที่พังงานอนอยู่ในสวนปาล์ม เข้าใจเกษตรกร ดังนั้นไม่ต้องกังวลเพราะถ้าวันไหนปาล์มตกหนักยางตกหนัก ก็มีนโยบายสำคัญของรัฐบาลนี้ คือ นโยบายประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเงื่อนไขก่อนร่วมรัฐบาล ถ้าราคาต่ำกว่ารายได้ที่ประกันจะมีเงินส่วนต่างโอนเข้าบัญชี ธ.ก.ส.โดยตรง ทำให้มีรายได้ 2 ทางจากที่ขายในตลาดและส่วนต่างจากรายได้ที่ประกัน ช่วยเหลือเกษตรกร”

ส่วนเรื่องราคาปุ๋ยที่แพงมากต้องบอกว่าขณะนี้ราคาปุ๋ยแม้ว่าจะแพงและ แพงมาประมาณ 2 ปีนั้น เป็นเพราะประเทศไทยทำปุ๋ยเองไม่ได้ต้องนำเข้า 100% ปุ๋ยเคมีทุกสูตรทุกแบบ เพราะปุ๋ยทำจากก๊าซธรรมชาติ ซึ่งราคาแพงขึ้นช่วงสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ก๊าซในโลกราคาพุ่ง ทำให้ปุ๋ยโลกแพง เวลานำเข้าจากต่างประเทศ ก็ต้องใช้น้ำมัน ค่าขนส่งจึงแพง ทำให้ปุ๋ยในประเทศไทยราคาแพง มี 2 เรื่องที่ต้องแก้ คือ 1.ไม่ให้ปุ๋ยขาดแคลน ซึ่งตนเจรจากับแหล่งผลิตปุ๋ยสำคัญอย่างซาอุดิอาระเบียซื้อปุ๋ยราคาพิเศษ

สามารถนำเข้าจากซาอุฯ ได้แล้ว 400,000 ตัน แก้ปัญหาปุ๋ยขาดแคลนได้ และคุยกับคาซัคสถานและรัสเซีย ยังติดขัดระบบแลกเปลี่ยนเงินตรา และตนจะถือโอกาสเจรจากับจีนตอนประชุมเอเปก เพื่อขอนำเข้าปุ๋ยลดราคาพิเศษจากจีน 2.ปุ๋ยแพง เรามาควบคุมราคากำหนดโครงสร้างราคาใหม่ ให้ผู้นำเข้าได้กำไรน้อยลง ให้พอนำเข้าได้ ในอนาคตถ้าสงครามรัสเซีย-ยูเครน คลี่คลายแล้ว ราคาปุ๋ยก็จะลดลง