GITดันสินค้าท้องถิ่นชูโรง ดึงนักท่องเที่ยวไทย-เทศรับเปิดประเทศ

18 ต.ค. 2565 | 13:01 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ต.ค. 2565 | 20:10 น.

GITดันสินค้าท้องถิ่นชูโรงดึงนักท่องเที่ยวไทย-เทศ รับเปิดประเทศ ลงพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการท้องถิ่น หวังตอบโจทย์ความต้องการของตลาด ช่วยผลักดันให้แหล่งผลิตเป็นสถานที่ท่องเที่ยว

นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT เปิดเผยว่า GTIมีแผนที่จะผลักดันให้แหล่งผลิตสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับใน 4 จังหวัดเป้าหมาย เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และดึงดูดให้นักท่องเที่ยว ที่ต้องการซื้อสินค้าเข้ามาเยี่ยมชมและซื้อสินค้า หลังจากที่ไทยได้เปิดประเทศเต็มรูปแบบ

นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ

ส่งผลให้การท่องเที่ยวเติบโตอย่างรวดเร็ว และคาดว่าในปี 2565 นี้ จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในไทยไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน และสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ยังเป็นหนึ่งในสินค้าที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทยนิยมซื้อเป็นอันดับต้น ๆ

 

 

โดยขณะนี้ GIT ได้กำหนดจังหวัดเป้าหมายในการนำคณะผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ เพื่อช่วยพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการและสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในภาคใต้แล้วจำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช พังงา สตูล และ ภูเก็ต ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเครื่องประดับที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์และมีอัตลักษณ์ท้องถิ่นเฉพาะตัว

GITดันสินค้าท้องถิ่นชูโรง ดึงนักท่องเที่ยวไทย-เทศรับเปิดประเทศ

 “GIT จะเข้าไปช่วยพัฒนารูปแบบสินค้าให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดโลก ที่เน้นความทันสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ของท้องถิ่น ลดการสูญเสียในระบบการผลิต โดยการใช้นวัตกรรมจากงานวิจัยมาผสมผสาน ซึ่งจะทำให้สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในท้องถิ่นภาคใต้ เปิดตัวออกสู่ตลาด ไม่เพียงแค่ในประเทศ แต่เชื่อว่าจะเปิดตัวออกสู่ตลาดต่างประเทศได้เพิ่มขึ้นด้วย”

GITดันสินค้าท้องถิ่นชูโรง ดึงนักท่องเที่ยวไทย-เทศรับเปิดประเทศ

  อย่างไรก็ตาม GIT จะเดินหน้าประชาสัมพันธ์โครงการซื้อด้วยความมั่นใจ (Buy with Confidence – BWC) ให้กับนักท่องเที่ยวและผู้บริโภคได้รับทราบ หากซื้อสินค้าจากร้านค้าที่ผ่านการรับรองและได้รับตราสัญลักษณ์ BWC เป็นร้านที่เชื่อถือได้ ขายสินค้าดี มีคุณภาพถูกต้องครบถ้วน ซึ่งปัจจุบันมีร้านค้าเข้าร่วมแล้วกว่า 500 รายทั่วประเทศ โดยในการตรวจสอบสินค้า สามารถสแกน QR Code ที่แนบมากับสินค้า ก็จะสามารถตรวจสอบข้อมูลสินค้าได้อย่างครบถ้วน