ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ได้ที่ไหน อัพเดทวิธีลงทะเบียนได้ที่นี่

16 ต.ค. 2565 | 17:00 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ต.ค. 2565 | 23:27 น.
2.0 k

ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ได้ที่ไหน หลัง กระทรวงการคลัง ขยายระยะเวลาลงทะเบียนตรวจสอบวิธีลงทะเบียนที่นี่

วันที่ 16  ตุลาคม 2565   ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ได้ที่ไหน  จากกรณีที่ ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. เห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565  หลังพบว่า มีประชาชนที่ประสงค์จะลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ แต่มีปัญหาในการลงทะเบียน โดยเฉพาะในกรณีที่มีคู่สมรสแต่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสลงนามในแบบฟอร์มการลงทะเบียนตามโครงการฯ ซึ่งมีประชาชนอยู่ในข่ายนี้ประมาณ 1 แสนราย โดยขยายระยะเวลาลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2565

 

ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ได้ที่ไหน  

 

ลงทะเบียนผ่านออนไลน์มีด้วยกัน 4 ขั้นตอน

 

ขั้นตอนที่หนึ่ง

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

ขั้นตอนที่สอง

  • กรอกข้อมูลผู้ลงทะเบียน

ขั้นตอนที่สาม

  • ยืนยันข้อมูล

ขั้นตอนที่สี่

  • บันทึกข้อมูลในแบบฟอร์มเสร็จสิ้น

 

ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ได้ที่ไหน

 

ลงทะเบียนหน่วยงานที่ลงทะเบียน

 

  • สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
  • ธนาคารออมสิน
  • ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ)
  • สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ สังกัดกรมบัญชีกลาง
  •  ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ ภายใต้กระทรวงมหาดไทย
  • สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต
  •  และศาลาว่าการเมืองพัทยา เมืองพัทยา

 

ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565

ก่อนหน้านี้ นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาสำหรับผู้ลงทะเบียนที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสได้ ตามที่คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม (คณะกรรมการฯ) ในฐานะหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 (โครงการฯ) เสนอ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. กลุ่มของผู้ลงทะเบียนที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรส แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่

1.1 ผู้ลงทะเบียนกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ ผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป นับถึงวันที่ 19 ตุลาคม 2565) ผู้พิการ และผู้ป่วยติดเตียง ที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสมาเพื่อดำเนินการหย่าตามกฎหมายได้

1.2 ผู้ลงทะเบียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ผู้ลงทะเบียนที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี ที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสได้

2. แนวปฏิบัติสำหรับผู้ลงทะเบียนที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสได้

2.1 ผู้ลงทะเบียนกลุ่มเปราะบาง จะต้องดำเนินการโดยยื่นแบบฟอร์มลงทะเบียน พร้อมหนังสือประกอบการพิจารณาเข้าร่วมโครงการฯ โดยต้องลายมือชื่อของผู้ลงทะเบียน ลายมือชื่อของพยานรับรองจำนวน 2 คน รวมถึงต้องมีการลงนามรับรองจากเจ้าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยในพื้นที่เป็นผู้รับรองว่า ผู้ลงทะเบียนเป็นบุคคลที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสมาเพื่อดำเนินการหย่าตามกฎหมายได้ และเอกสารประกอบการลงทะเบียนอื่น ๆ (กรณีมีบุตรอายุต่ำกว่า 18 ปี) และผู้ลงทะเบียนจะต้องนำเอกสารทั้งหมดไปยื่น ณ หน่วยงานรับลงทะเบียน โดยเจ้าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยในพื้นที่ ได้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอหรือผู้ที่นายอำเภอมอบหมาย รวมถึงพนักงานเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองและเทศบาลนครในพื้นที่ เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตที่ผู้อำนวยการเขตมอบหมาย เจ้าหน้าที่สำนักทะเบียนท้องถิ่นเมืองพัทยาทั้งนี้ หากผู้ลงทะเบียนกลุ่มเปราะบางผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติซึ่งกระทรวงการคลังจะประกาศให้ทราบต่อไปผู้ลงทะเบียนจะสามารถใช้สิทธิ์ตามโครงการฯ ได้ โดยต้องไปยืนยันตัวตน ณ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสินได้ตั้งแต่วันที่ประกาศผลผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ (ภายในระยะเวลา 180 วัน)และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) (ไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุด)

2.2 ผู้ลงทะเบียนกลุ่มทั่วไป จะต้องดำเนินการโดยยื่นแบบฟอร์มการลงทะเบียน พร้อมหนังสือประกอบการพิจารณาเข้าร่วมโครงการฯ โดยต้องลายมือชื่อของผู้ลงทะเบียน ลายมือชื่อของพยานรับรองจำนวน 2 คน และเอกสารประกอบการลงทะเบียนอื่น ๆ (กรณีที่มีบุตรอายุต่ำกว่า 18 ปี) และผู้ลงทะเบียนจะต้องนำเอกสารทั้งหมดไปยื่นณ หน่วยงานรับลงทะเบียน ทั้งนี้ หากผู้ลงทะเบียนกลุ่มทั่วไปผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ ผู้ลงทะเบียนจะต้องนำใบสำคัญการหย่าหรือเอกสารอื่นใดที่คณะกรรมการฯ กำหนดมาแสดงและยืนยันตัวตน ณ ธ.ก.ส. และธนาคารออมสิน ได้ตั้งแต่วันที่ประกาศผลผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ (ภายในระยะเวลา 180 วัน) และธนาคารกรุงไทยฯ (ไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุด) จึงจะสามารถใช้สิทธิ์ตามโครงการฯ ได้ โดยผู้ลงทะเบียนกลุ่มทั่วไปจะต้องนำใบสำคัญการหย่าหรือเอกสารอื่นใดที่คณะกรรมการฯ กำหนดมาแสดงให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปีนับตั้งแต่วันที่ประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติจึงจะสามารถใช้สิทธิ์ตามโครงการฯ ได้

 

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถดาวน์โหลดหนังสือประกอบการพิจารณาเข้าร่วมโครงการฯ ได้จากเว็บไซต์ของโครงการฯ ได้ที่ https://xn--12cm1ane3a8dcb9a6abq9eehm8a4u7e.mof.go.th/ หรือ https://welfare.mof.go.th หรือติดต่อขอรับจากหน่วยงานรับลงทะเบียนทุกหน่วยทั่วประทศ

โฆษกกระทรวงการคลังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินการสำหรับผู้ลงทะเบียนโครงการฯ ที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสได้ และเป็นประโยชน์แก่ผู้ลงทะเบียนที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการฯ คณะกรรมการฯ ได้เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการลงทะเบียนจาก “วันที่ 5 กันยายน – 19 ตุลาคม 2565” เป็น “วันที่ 5 กันยายน – 31 ตุลาคม 2565” และผู้ลงทะเบียนจะสามารถตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน โดยมีรายละเอียดการประกาศผลการลงทะเบียนตามตารางนี้

 

ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ได้ที่ไหน

 

ทั้งนี้ ประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถศึกษารายละเอียดการดำเนินโครงการฯ เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://xn--12cm1ane3a8dcb9a6abq9eehm8a4u7e.mof.go.th/ หรือ https://welfare.mof.go.th

  • สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง โทร. 094-858-9794 (เวลาทำการ 08.30 – 16.30 น.)
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 02 273 9020 ต่อ 3502 3503 3506 3536 3542 3518 หรือโทร. 08-5842-7102 , 08-5842-7103, 08-5842-7104 ,08-5842-7105, 08-5842-7106, 08-5842-7107 (เวลาทำการ 08.30 – 16.30 น.)
  • ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 02-109-2345 (เวลาทำการ 08.30 – 17.30 น.)