ไอเทล ครึ่งปีแรกกำไรเพิ่ม พร้อมเปิดขายหุ้น IPO กว่า660 ล้านหุ้น

20 ก.ย. 2565 | 09:14 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ก.ย. 2565 | 16:32 น.

ไอเทล คอร์ปอเรชั่น ครึ่งปีแรกรายได้โต 38% เตรียมขายหุ้นไอพีโอ จำนวนไม่เกิน 660 ล้านหุ้น หลัง ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง หวังระดมทุนขยายโครงสร้างการผลิต-ปรับกรุงโรงงาน ขยายตลาดต่างประเทศและชำระหนี้

บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC บริษัท Flagship ในการประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงของกลุ่มไทยยูเนี่ยน โชว์ผลงานครึ่งแรกของปี 2565 เติบโตแข็งแกร่ง โดยในครึ่งปีแรกของปี 2565 บริษัทมีรายได้เสมือน 9,707 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเสมือน 2,257 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% และ 40% ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ไอเทล ครึ่งปีแรกกำไรเพิ่ม พร้อมเปิดขายหุ้น IPO กว่า660 ล้านหุ้น

ตอกย้ำศักยภาพในฐานะผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ในเอเชีย และอยู่ใน 10 อันดับแรกของโลก ประกาศความพร้อมเดินหน้าเข้าเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เริ่มนับหนึ่งไฟลิ่ง

 

นายพิชิตชัย วงศ์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การเติบโตของเราในช่วงครึ่งปีแรกตอกย้ำว่าความมุ่งมั่นของบริษัท ที่ยึดแนวการให้บริการแบบร่วมสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ร่วมกับลูกค้า (Co-Creation) ด้วยนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ทำให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากคู่ค้ารายใหญ่ทั่วโลก ส่งผลต่อยอดขายที่สูงขึ้น พร้อมเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังจากที่สำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบไฟลิ่งแล้วในวันที่ 19 กันยายน 2565”

นายพิชิตชัย วงศ์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

“ในครึ่งปีแรก ไอ-เทล มียอดขายที่เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่องจากการขยายฐานลูกค้าของบริษัท ไปยังเครือซูเปอร์มาร์เก็ตในประเทศสหรัฐอเมริกา ยอดสั่งผลิตที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของลูกค้ารายใหญ่ทั้งในกลุ่มอาหารแมวและอาหารสุนัข รวมไปถึงการปรับขึ้นราคาขายเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์ตามต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีสัดส่วนของผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมเพิ่มมากขึ้น ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรได้เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งการที่ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังส่งผลบวกต่อธุรกิจของบริษัท” 

 

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า “ปัจจุบัน สำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ และแบบไฟลิ่งของ ไอ-เทล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2565 โดยบริษัทมีแผนในการไอพีโอจำนวนไม่เกิน 660 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 22% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด ประกอบด้วยการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 600 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย TU จำนวนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น และเมื่อได้รับอนุมัติให้เสนอขายหุ้นไอพีโอ และแบบไฟลิ่งมีผลใช้บังคับ จะกำหนดวันที่เสนอขายหุ้นไอพีโอ และ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในลำดับต่อไป”

 

สำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไอ-เทล มีเป้าหมายในการระดมทุนเพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในการขยายกำลังการผลิตปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และขยายโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนการผลิต รวมไปถึงการปรับปรุงโรงงานให้ทันสมัยด้วยระบบและเครื่องจักรอัตโนมัติ และระบบคลังสินค้าและติดฉลากอัตโนมัติ (Automated Warehousing and Labelling System) ตลอดจนการใช้เพื่อขยายธุรกิจในต่างประเทศ รวมถึงการชำระหนี้เพื่อลดภาระต้นทุนทางการเงิน พร้อมใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจในอนาคต

 

“ไอ-เทล มุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจ เพื่อผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีคุณค่าทางโภชนาการด้วยหลักวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมที่ก้าวล้ำกว่าผลิตภัณฑ์อาหารทั่วไป ผ่านการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Pet Humanization ยกระดับอาหารสัตว์เลี้ยงให้เป็นอาหารระดับพรีเมียมโดยคำนึงถึงความต้องการของสัตว์เลี้ยงเป็นหัวใจสำคัญ เพื่อสุขภาพที่ดีของสัตว์เลี้ยง ครอบครัว และโลกของเรา”