บ้านด่านนอกหวั่น”ตกงาน-เมืองร้าง”จับเจ้าของ”เอ็มบีไอกรุ๊ป”ขอให้ชัดเจน

05 ส.ค. 2565 | 16:52 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ส.ค. 2565 | 00:37 น.

 ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลาชี้ การจับกุมเจ้าของ “เอ็มบีไอ กรุ๊ป” ไม่กระทบความเชื่อมั่นการลงทุนในพื้นที่ หากเจ้าหน้าที่อธิบายได้ว่าไม่ใช่เป็นการกลั่นแกล้ง พื้นที่บ้านด่านนอกห่วง กระทบต่อการจ้างงานหลายร้อยคน หากธุรกิจเดินต่อไม่ได้ ฉุดบรรยากาศเป็นเมืองร้าง

หลังการจับกุมนายเตียว วุย ฮวด หรือ เสี่ยวจาง อายุ 52 ปี เจ้าของอาณาจักร เอ็มบีไอ กรุ๊ป ที่มีบริษัทในเครือประกอบธุรกิจโรงแรม สถานบันเทิง สวนสนุก อสังหาริมทรัพย์ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท  ตั้งอยู่ในบ้านด่านนอก ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา จนหวั่นเกิดผลกระทบทางธุรกิจตามมา   

 

นายธนวัตน์ พูนศิลป์ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หากจะถามว่าจะมีผลกระทบกับภาพลักษณ์ การลงทุน การค้า การท่องเที่ยวในพื้นที่หรือไม่นั้น  ก็ต้องบอกว่ามีผลกระทบ เพราะเป็นรายใหญ่ที่มีการลงทุนครอบคลุม  มีการจ้างงานค่อนข้างเยอะ มีคนงานไทยก็ทำงานอยู่เยอะ หลายร้อยคน ตรงนี้มีผลกระทบแน่นอน

นายธนวัตน์ พูนศิลป์ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา

 

 ส่วนความเชื่อมั่นต่อการลงทุน สำหรับนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุน ไม่น่าจะมีผลกระทบ หากนำเสนอได้ชัดเจนว่าเป็นเพราะอะไร มีหลักฐานอะไร ไปเกี่ยวโยงกับอะไรตรงไหน ต้องให้ชัด ๆ ตรงนั้นก็คิดว่าคงจะรับได้ ข่าวที่ออกไปจึงต้องระมัดระวัง อย่าให้รู้สึกไปในลักษณะเหมือนกับไปกลั่นแกล้งนักลงทุน หรือว่าไปทำลายการลงทุนท่องเที่ยว

 

“ในแง่ของความเชื่อมั่นถ้าเกิดว่าเราอธิบายได้ ว่ามีความผิดเรื่องอะไร อย่างไร ก็จะไม่มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุน แต่ถ้าอึมครึม ไม่กล้าบอกความจริง ไม่มีความชัดเจน ถ้าเป็นอย่างนั้นทุกคนก็จะมองว่า ต่อไปอย่าไปลงทุนในพื้นที่นี้เลย”

บรรยากาศบริเวนหน้าด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย

บรรยากาศบ้านด่านนอกช่วงล็อกดาวน์โควิด-191

นายธนวัตน์ กล่าวและว่า ฉะนั้นผลกระทบที่จะเกิดขึ้นก็คือ หลังจากนี้การดำเนินการธุรกิจยังมีต่อไปหรือไม่อย่างไร  หากธุรกิจยังสามารถดำเนินการต่อไปได้ ผลกระทบกับการจ้างงานก็อาจจะยังไม่เกิดขึ้นทันที แต่หากธุรกิจทั้งหมดไม่สามารถดำเนินต่อไปต้องหยุด ผลกระทบก็จะเกิดขึ้นทันทีคือการจ้างงาน

 

“ย้อนหลังไปสัก 5 ปีที่แล้ว เขาเป็นคนนำนักท่องเที่ยวจากจีนเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก  ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนเหล่านั้นได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่อื่น ๆ เช่น ไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ  มาจับจ่าย ใช้สอยในหาดใหญ่ สงขลา พัทลุง และจังหวัดใกล้เคียงเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ” 

 

แต่หากกรณีนี้เป็นเจ้าหน้าที่สามารถอธิบายได้ว่าการจับกุมเป็นเรื่องอะไร มีหลักฐาน มีความผิด ก็จะทำให้การเข้ามาลงทุนในรูปแบบนี้ไม่เกิดขึ้น ซึ่งก็จะเป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ของการลงทุนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เนื่องจากเป็นการลงทุนที่เกิดขึ้นจริง เป็นการลงทุนระยะยาว  

 

ฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นสำหรับพื้นที่ด่านนอก หากธุรกิจของกลุ่มนี้ประสบปัญหาหรือมีปัญหาไม่สามารถดำเนินการต่อไป ก็จะเป็นโอกาสของผู้ประกอบการในพื้นที่ในท้องถิ่นที่  เนื่องจากที่ผ่านมาอาจจะไม่สามารถแข่งขันได้ เนื่องจากเสียเปรียบในเรื่องทุนและการให้บริการที่ครบวงจร

บ้านด่านนอกหวั่น”ตกงาน-เมืองร้าง”จับเจ้าของ”เอ็มบีไอกรุ๊ป”ขอให้ชัดเจน

ในขณะที่นักลงทุนในพื้นที่รายหนึ่ง ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า การค้าการลงทุนและบรรยากาศการท่องเที่ยวในพื้นที่ด่านนอก มันก็มีผลกระทบ  เพราะว่าอาณาจักรตรงนี้ มันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวไปแล้วของเมืองด่านนอก 

 

สมมุติว่าทรัพย์สินโดนอายัด สิ่งที่เกิดก่อนเลย คือ 1.คนตกงานเป็นร้อยแน่ เพราะตึกมันย้ายไปไหนไม่ได้ ซึ่งมีทั้งที่เปิดแล้วและกำลังจะเปิด ก็ต้องปิดไปทั้งหมด แล้วเวิ้งนั้นมันก็จะมืดหมด สิ่งที่ลงทุนไปแล้ว ก็จะทำให้กลายเป็นว่าแหล่งท่องเที่ยวย่านนั้นก็มืดไปอันนี้ก็อยู่ที่ลูกค้าเขา ว่าจะไหลกลับไปในเมือง หรือว่าจะหลุดออกไปเลย เพราะฉะนั้นตอนนี้ผลกระทบการเมืองก็ไม่รู้จะไปถึงไหน แต่ในมุมของการท่องเที่ยว การค้า การลงทุน ก็มีผลแน่นอน

 

2. คือถ้าเกิดมันมืดทั้งหมด มันก็จะทำให้จุดขายส่วนหนึ่งของเมืองด่านนอกหายไป

            

แหล่งข่าวยังให้ข้อมูลอีกว่า หลังการจับกุมในพื้นที่มีความเห็นเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งบอกเขามาทำคุณประโยชน์ในพื้นที่ เยอะแยะ สร้างนู่น สร้างนี้ สร้างให้คนมีงานทำ เกิดธุรกิจเกี่ยวเนื่องคึกคักขึ้น ก็ว่าไม่น่าไปจับเขา จะเห็นแบบนี้กันเยอะอีกกลุ่มก็บอกว่า มันผิดกฎหมายนะ ถ้าไม่ถูกต้องไม่ว่าจะมาอย่างไรก็ต้องเจออย่างนี้ ซึ่งมีน้อยกว่า

 

พอเกิดเรื่องนี้ขึ้น คนในพื้นที่กลุ่มที่ทำงานอยู่ตรงนี้ ก็กังวลว่าจะตกงาน  อีกกลุ่มทำเรื่องการท่องเที่ยว เขาก็กลัวว่าด่านนอกจะเป็นเมืองร้างไป เพราะกิจการของเครือนี้เขาเยอะมาก มีห้องพักถึง 4,000-5,000 ห้อง ทั้งที่เป็นโรงแรมและไม่ใช่โรงแรม เทียบได้กับเมือง ๆ หนึ่งเลย และในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โรงแรมในเครือของกลุ่มนี้เขาก็ยังเปิดให้บริการธุรกิจเครือของกลุ่มนี้ก็กลับมาเปิดให้บริการในส่วนที่เหลือในหลาย ๆ ธุรกิจ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในพื้นที่

 

“ถามว่าผมเป็นห่วงอะไร เป็นห่วงพวกคนงานที่ตกงาน แรงงานที่อยู่ในวงจรธุรกิจ ไม่ใช่แค่ร้อยคน แต่มีหลายร้อยคนนะ ไม่รวมที่กำลังจะรับเข้ามาใหม่ ในการขับเคลื่อนธุรกิจก็เพิ่งเปิดใหม่ ก็เพิ่งจ้างคนมา เป็นร้านอาหารอยู่ข้าง ๆโรงแรม เขามีครบเลย ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร นวด สปา รีสอร์ท สวนสนุก สวนน้ำ เยอะมาก” แหล่งข่าวกล่าว

 

https://medias.thansettakij.com/uploads/images/contents/w1024/2022/03/AynfBFZRmM6i3c9Tt0jJ.webp

 

https://medias.thansettakij.com/uploads/images/contents/w1024/2022/03/JZo2KaEHKFGtLtiyMwh7.webp

 

https://medias.thansettakij.com/uploads/images/contents/w1024/2022/03/CyVcDf5jl2FCZTQJ1kBC.webp