G-BEAT โดดร่วมวงตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง เจาะกลุ่ม "อีสปอร์ตและเกมเมอร์"

G-BEAT โดดชิงแชร์ตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง พัฒนาเอนเนอร์จีดริ๊งก์ล้อกับเทรนด์สุขภาพด้วยสูตรน้ำตาล 0% (ZERO Sugar) ใช้คาเฟอีนธรรมชาติสกัดจากชาเขียว พร้อมทั้งวิตามินจากแหล่งที่มีคุณภาพสูง ประเดิม 2 รสชาติ ได้แก่ รส Bubble Gum (บับเบิ้ล กัม)และ Apple Booster (แอปเปิ้ลและลูกแพร์)

 

นายเอกชัย ขจรบุญถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีท เดอะ เวิลด์ จำกัด กล่าวถึงเทรนด์ในตลาด และกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ว่า “จากผลการสำรวจนวัตกรรมของเครื่องดื่มเอนเนอร์จีดริ๊งก์ของเมืองไทย ส่วนใหญ่ยังพัฒนาช้ากว่าตลาดโลกเกือบ 20 ปี

โดยสาเหตุมาจากการเน้นการแข่งขันด้านราคาและการชิงโชคมากกว่าการใส่ใจในคุณภาพของสินค้าและความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภครุ่นใหม่ ซึ่งให้ความใส่ใจเรื่องสุขภาพ ส่วนผสมที่มาจากแหล่งธรรมชาติ และต้องการสินค้าที่มีความเข้าใจใน “ไลฟ์สไตล์” ที่เปลี่ยนไป”

 

“และอีก “ไลฟ์สไตล์” ที่ถือเป็น ธุรกิจแห่งอนาคต นั่นคือเทรนด์ของอีสปอร์ตและกลุ่มคนที่ชื่นชอบในการเล่นเกมหรือที่เรียกกันว่า “เกมเมอร์” ไม่ว่าจะเล่นเกมเพื่อความบันเทิง หรือเล่นเป็นอาชีพ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องใช้พลังของสมองและต้องการตัวช่วยที่ลดความอ่อนล้าของสายตา แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องดื่มง่ายและดีต่อสุขภาพ”

“เป้าหมายของเครื่องดื่ม จี บีท เอนเนอร์จีดริ๊งก์ คือการสร้างเอนเนอร์จีดริ๊งก์เพื่อ “ผู้บริโภคแห่งอนาคต“ ซึ่งกลุ่มคนที่หลงไหลในอีสปอร์ตและกลุ่มคนที่มีการเล่นเกมเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน คือคนกลุ่มที่เราต้องการจะสื่อสารด้วยเป็นหลัก ปัจจุบันในไทยมีผู้เล่นเกมเป็นประจำ (Active Gamer) ถึง 28 ล้านคน ถือเป็นอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงเงินหมุนเวียนในธุรกิจนี้มากกว่า 27,000 ล้านบาท

 

แต่สินค้าที่ตอบสนองต่อคนกลุ่มนี้ยังไม่เด่นชัดและหายากในตลาด ทาง จี บีท จึงเน้นทำการตลาดที่สนุกโดยเน้นไปที่สื่อออนไลน์ ที่จะช่วยตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ที่รักการเล่นเกมและอีสปอร์ต”

 

นายณพมนัส สังขทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท บีท เดอะ เวิลด์ จำกัด กล่าวเสริมถึง ทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม รวมถึงจุดเริ่มต้นของการทำแบรนด์ว่า “ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังปัจจุบันมีมูลค่าโดยรวมกว่า 22,000 ล้านบาท แต่ไม่สามารถดึงดูด (Recruit) ผู้บริโภคกลุ่มใหม่ ที่สนใจคุณภาพของสินค้ามากกว่าการแข่งขันเรื่องราคาหรือการชิงโชค

 

นั่นคือสาเหตุให้ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะตกลงอย่างต่อเนื่องโดยจากรายงานของ Euromonitor International ล่าสุด เครื่องดื่มชนิดนี้ เมื่อปี 2021 มีการหดตัวต่ำสุดถึง 6% โดยมีผลพวงมาจากการปิดตัวของไซต์งานก่อสร้างและลูกค้ากลุ่ม Blue Collar ที่เป็นตลาดหลักของเครื่องดื่มชูกำลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ Covid 19”

 

“เราเลือกที่จะลงเล่นในกลุ่มของ พรีเมี่ยม เอนเนอร์จีดริ๊งก์ ที่มีราคาตั้งแต่ 25 บาทขึ้นไป ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดของเครื่องดื่มชูกำลังอยู่ที่ประมาณ 5% หรือประมาณ 1,100 ล้านบาท ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ และดื่มโดยใช้เป็นมิกซ์เซอร์ ซึ่งสาเหตุหลักที่เครื่องดื่มในกลุ่มนี้ยังมีส่วนผสมที่ไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ที่เป็นคนไทย

 

เนื่องจากถูกมองว่าไม่ดีต่อสุขภาพ เพราะมีส่วนผสมที่เป็นคาเฟอีนสังเคราะห์ และมีส่วนผสมของน้ำตาลสูง รวมถึงรสชาติที่ดื่มยาก ทำให้ผู้บริโภคกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่หันมาใส่ใจในการดูแลสุขภาพ หันไปซื้อหรือพึ่งสินค้าประเภทเครื่องดื่มวิตามินแทน”

 

“ซึ่งเครื่องดื่มกลุ่มวิตามิน เป็นอีกเซ็กเมนต์หนึ่งที่ จี บีท สามารถที่จะไปแชร์ส่วนแบ่งตลาดมาได้ ด้วยส่วนผสมที่ใส่ใจในสุขภาพและเมื่อเทียบปริมาตรของวิตามินที่ได้ เครื่องดื่ม จี บีท 1 กระป๋อง สามารถทดแทนเครื่องดื่มวิตามินได้ 2 ขวด และผู้บริโภคยังได้เครื่องดื่มที่อร่อย มีคาเฟอีนจากธรรมชาติและน้ำตาล 0% ซึ่งถือเป็นเครื่องดื่มเอนเนอร์จีดริ๊งก์ เพื่อสุขภาพ ตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่”

 

“จี บีท ต้องการปลดล็อกโจทย์ของเอนเนอร์จีดริ๊งก์ในประเทศไทย โดยใช้นวัตกรรมในการพัฒนาให้เป็นเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ รสชาติอร่อย ดื่มง่าย ใช้คาเฟอีนจากธรรมชาติสกัดจากชาเขียว มีวิตามินเอ บำรุงสายตาที่มีคุณภาพสูงนำเข้าจากยุโรป วิตามินบีรวมสูง และสูตรน้ำตาล 0% เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่า เป็นเอนเนอร์จีดริ๊งก์ยี่ห้อแรกที่ใส่ใจในส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพ และ พลังงานที่ได้จาก จี บีท จะไม่ใช่พลังงานหลอกจากการใส่น้ำตาลเป็นปริมาณมากเหมือนเครื่องดื่มชูกำลังทั่วไป”

 

“และในส่วนของการเข้าถึงผู้บริโภคแห่งอนาคต จี บีท เน้นย้ำจุดยืนของการสนับสนุนอีสปอร์ตและผู้ชื่นชอบในการเล่นเกม แบรนด์จี บีท ได้เซ็นสัญญาเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการในส่วนของเครื่องดื่มเอนเนอร์จีดริ๊งก์ ทีม Talon Esports และมีแพลนการทำกิจกรรมสนุก ๆ อีกมากมาย ภายใต้คอนเซปต์ #จีบีทสายซัพ ซึ่งผลงานล่าสุด สมาชิก 5 คนของทีม Talon Esports ได้เป็นตัวแทนประเทศไทย และคว้าเหรียญทองของการแข่งขันเกม Arena of Valor (Mobile) หรือ RoV ใน “ซีเกมส์ 2022” หรือ SEA Games HANOI 2021 ครั้งที่ 31 ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม รวมถึงการเป็นหนึ่งในทีมจากประเทศไทยที่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน RoV Pro League AIC 2022 ระดับโลกที่ผ่านมา”