จี-เฮิร์บ แตกไลน์ธุรกิจสมุนไพรชิงเค้กตลาดสุขภาพหมี่นล้าน

24 พ.ค. 2565 | 16:58 น.
อัปเดตล่าสุด :25 พ.ค. 2565 | 00:37 น.

จี-เฮิร์บ แตกไลน์ธุรกิจอาหารเสริม ประเดิมเปิดตัว จี-เฮิร์บ พลัส ชิมลางตลาดสมุนไพร ก่อนส่งสินค้าสมุนไพร-อาหารเสริมสุขภาพ กว่า 10 ชนิด ลุยหนักตลาดในประเทศ ดันยอดขายโต 10%

จี-เฮิร์บ บุกตลาดสมุนไพร ผุดไลน์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม จี-เฮิร์บ พลัส เจาะกลุ่มคนนอนหลับยาก เตรียมส่งสินค้าสมุนไพร-อาหารเสริมสุขภาพ กว่า 10 ชนิด รุกหนักตลาดในประเทศ พร้อมลุยการตลาดออนไลน์ขยายฐานลูกค้ากลุ่มรักสุขภาพดันยอดขายโต 10%

จี-เฮิร์บ แตกไลน์ธุรกิจสมุนไพรชิงเค้กตลาดสุขภาพหมี่นล้าน

นายอัศวิน ทองประเสริฐ ประธาน บริษัท จี-เฮิร์บ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรแผนโบราณ ภายใต้แบรนด์ G-HERB เปิดเผยว่าปัจจุบันประเทศไทยมีมูลค่าการบริโภคสมุนไพรกว่า 1.48 พันล้านดอลลาห์สหรัฐ จัดเป็นลำดับที่ 8 ของตลาดสมุนไพรโลก สะท้อนได้ว่าภาพรวมบริโภคในไทยขยายตัว

จากปัจจัยบวกของสถานการณ์โควิด-19 ผนวกกับเทรนด์สุขภาพเข้ามามีอิทธิพลสำคัญต่อการเลือกซื้อสินค้าสมุนไพร ดังนั้น กลยุทธ์สำคัญในการรองรับการเติบโตตลาดสมุนไพรของจี-เฮิร์บในปี 2565 จึงเน้นไปที่การออกผลิตภัณฑ์เพิ่มราว 10 ชิ้น

 

เน้นไปที่สินค้า 2 ประเภท ได้แก่ สินค้าสมุนไพร และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจากสมุนไพร  โดยการพัฒนาสินค้าใหม่จะเป็นการต่อยอด และการแตกไลน์ออกเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่เคยทำมาก่อน เช่น สมุนไพรเชิงเดี่ยว เวชสำอางค์

ล่าสุดบริษัทฯ พร้อมทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านการแพทย์และเภสัชกรรม ได้ร่วมกันคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ภายใต้ชื่อ G-HERB PLUS ขึ้นมาเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับ อันเนื่องมาจากภาวะเครียด พิษเศรษฐกิจ โรคระบาด รวมไปถึงกลุ่มที่พักผ่อนน้อย วิตกกังวล ส่งผลเสียต่อระบบต่างๆในร่างกาย ด้วยสรรพคุณของสมุนไพรใน G-HERB PLUS ไม่ว่าจะเป็น เห็ดหลินจือ ช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันดี พลูคาว ยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัสชนิดต่างๆ เป็นต้น จะช่วยการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สร้างความพร้อมให้กับร่างกาย กลับมาสดชื่น นอนหลับได้ง่ายขึ้น

 

 

ขณะเดียวกันยังมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครีมอาบน้ำ (SHOWER GEL) สำหรับผู้ป่วยมะเร็งผิวหนัง คนแพ้ง่าย สะเก็ดเงิน รวมไปจนถึงผลิตภัณฑ์สมุนไพรเดี่ยว เช่น เปลือกมังคุด พุทธรักษา เหงือกปลาหมอ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์และเพิ่มยอดขาย ด้วยทางบริษัทฯ มีโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน และมีสถานที่ปลูกสมุนไพรเป็นตัวเอง สามารถควบคุมคุณภาพ ปริมาณได้ ขณะเดียวกันได้มีการเก็บรวบรวมสมุนไพรไทยสำคัญไว้อย่างมากมาย สามารถนำมาผลิตและต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ ช่วยแก้ปัญหา รวมถึงการดูแลป้องกันสุขภาพได้แบบยั่งยืน

 

ส่วนการทำตลาดในปัจจุบันจะเน้นไปที่ช่องทางออนไลน์ เน้นการทำคอนเท้นท์ที่มีคุณภาพ ซึ่งผู้บริโภคมีแนวโน้มหันมาดูแลสุขภาพ ผ่านการให้ความรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสมุนไพร และอีมาร์เก็ตเพลซอย่างช็อปปี้และลาซาด้า ควบคู่กับการสร้างโมเดลการจัดจำหน่ายในรูปแบบตัวแทนจำหน่ายเพื่อกระจายสินค้าไปสู่กลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น ขณะเดียวกันเพื่อเจาะอินไซต์ลูกค้าได้ดีขึ้น


สำหรับโปรดักต์ฮีโร่อย่างจีเฮิร์บ แคปซูลวัน (G-HERB) โดยนายแพทย์สมหมาย ทองประเสิรฐ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสมุนไพรหลายชนิด ผ่านงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ จนได้รับการยอมรับไปทั่วโลกในเรื่องของการช่วยบำรุงน้ำเหลือง สร้างภูมิคุ้มกัน เหมาะสำหรับผู้ป่วยมะเร็งนั้นก็ยังได้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

ในปี 2564 ที่ผ่านมา ทางบริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 100 ล้านบาท จากการใช้สมุนไพรในการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อการรักษาและยับยั้งมะเร็งเป็นหลัก โดยในปี 2565 นี้จากกลยุทธ์การทำตลาดเน้นการเข้าถึงผู้บริโภคและการพัฒนาสินค้าใหม่ตอบโจทย์ตลาดมากขึ้น ผ่านการสร้างจุดแข็งในด้านผลิตภัณฑ์สมุนไพร จะส่งผลให้บริษัทฯ เติบโตไปในกลุ่มของการป้องกันในโรคอื่นๆ ทั้งนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตจากปีก่อน 10% ได้อย่างแน่นอน