“อภัยภูเบศร”ลุยพัฒนายาสมุนไพรสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ

13 พ.ค. 2565 | 16:36 น.
อัปเดตล่าสุด :13 พ.ค. 2565 | 23:40 น.

“อภัยภูเบศร” ลุยพัฒนายาสมุนไพรสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ หวังเพิ่มการใช้ในผู้ป่วย หลังน้ำมันกัญชาผ่านฉลุยไปก่อนหน้า

ตามที่ประเทศไทยมีนโยบายบูรณาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรเข้าสู่บริการสุขภาพ  จึงมีการกำหนดบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร เพื่อเป็นกรอบยาที่จำเป็นที่ตอบสนองต่อปัญหาทางสุขภาพขึ้น ปัจจุบันมีรายการยาในบัญชีจำนวน 94 รายการนั้น


เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมามูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้เข้าร่วมจัดนิทรรศการนำเสนอยาสมุนไพรที่ได้เข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติสมุนไพร ร่วมกับองค์การเภสัชกรรมและภาคีเครือข่าย โดยนำสมุนไพรที่ได้ถูกคัดเลือกเพิ่มเติมเข้าสู่ บัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพรมาแสดง เพื่อเป็นการขับเคลื่อนการใช้ยาสมุนไพรอย่างเป็นวงกว้าง และใช้ในระบบบริการสาธารณสุขอย่างมีประสิทธิภาพ 

พญ.โศรยา ธรรมรักษ์ ประธานมูลนิธิรพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า มูลนิธิรพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นหนึ่งในองค์กรที่พัฒนายาสมุนไพร ได้รับคัดเลือกผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรที่เข้าสู้บัญชียาหลักเพิ่มเติม ได้แก่ ตำรับยากัญชา ยาศุขไสยาศน์ ยาแก้ลมแก้เส้น ยาสารสกัดฟ้าทะลายโจรที่ใช้ในสรรพคุณรักษาโควิด-19  

 

รวมถึง ยามัสคูลสเปรย์ เป็นยาใช้ภายนอกแก้ปวด ที่ได้จากภูมิปัญญาการใช้พื้นบ้านด้วยต้นกระดูกไก่ดำ นำมาพัฒนาเป็นยารูปแบบสเปรย์ และมีการเก็บข้อมูล ทำการวิจัยอย่างเป็นระบบ 

                                      “อภัยภูเบศร”ลุยพัฒนายาสมุนไพรสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ

พบว่า มีผลแก้ปวด ลดอักเสบ ไม่แตกต่างจากยาแผนปัจจุบัน และทดสอบแล้วในผู้ป่วยที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อ ในโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร พบว่า 90% หลังจากใช้สเปรย์กระดูกไก่ดำระบุว่าหายปวดหลังใช้สเปรย์กระดูกไก่ดำเพียงครั้งเดียว และได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์สมุนไพรดีเด่นระดับชาติ (Prime Minister Herbal Awards : PMHA) ในปี 2561 


นับได้ว่า เป็นรายการยาจากสมุนไพรเจ้าแรกที่เข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพรในครั้งนี้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเข้าถึงยาและเพิ่มการใช้ในผู้ป่วยด้วย