เปิดรายชื่อ 10 สปอนเซอร์ "แดงเดือดในไทย“ แมนยูฯ ปะทะ ลิเวอร์พูล
10 บิ๊กเนมร่วมเป็นสปอนเซอร์ จัดศึกแดงเดือดในไทย “แมนยูฯ-ลิเวอร์พูล” แมตซ์ฟาดแข้งประวัติศาสตร์ หวังชูไทยฮับท่องเที่ยงเชิงกีฬา แต่ไร้เงา กกท. ร่วมสนับสนุน
แมตช์ฟุตบอลครั้งประวัติศาสตร์ในทวีปเอเชียกับ “ศึกแดงเดือดในไทย” ของ 2 สุดยอดทีมฟุตบอลแห่งพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ระหว่างสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปะทะสโมสร ลิเวอร์พูล ที่จะมีขึ้นในวันที่ 12 ก.ค. นี้
พร้อมการถ่ายทอดสดไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โชว์ศักยภาพประเทศไทยที่พร้อมเป็นฮับการท่องเที่ยวเชิงกีฬา โดยมีสปอนเซอร์ 10 รายร่วมสนับสนุน แต่ไม่มีชื่อ “กกท.”
โดยศึกแดงเดือดในไทย “แมนยูฯ-ลิเวอร์พูล” THE MATCH Bangkok Century Cup 2022 จัดโดยบริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด ณ ราชมังคลากีฬาสถาน มีผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ 10 รายได้แก่
- บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด
- บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ยูโรเปี้ยนฟู้ด จำกัด (มหาชน)
- บริษัท สยามพารากอนดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
- บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด
- CARRO
- กลุ่มวังขนาย
- บริษัท มิทธิคอล เฮ้าส์ จำกัด
- บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
- บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
นายวินิจ เลิศรัตนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด กล่าวว่า การดึงสองทีมยักษ์ใหญ่ขวัญใจแฟนบอลทั่วโลก ทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล มาฟาดแข้งในเมืองไทยไม่ใช่เรื่องง่าย เฟรชแอร์พิสูจน์แล้วว่าประเทศไทยทำได้ไม่แพ้ชาติใดในโลก
จากผลงานอีเว้นท์ขนาดใหญ่ระดับประเทศ ไปจนถึงระดับเวิลด์คลาสต่างๆ ที่เฟรชแอร์ได้สะสมมา สามารถสร้างทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ให้กับประเทศมากมาย ส่งผลให้ทั้ง 2 สโมสรมีความมั่นใจ และเชื่อมั่นว่า เฟรชแอร์ จะสามารถออแกไนซ์งานศึกแดงเดือดได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด
ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในระดับเอเชียที่มีความพร้อมครบทุกมิติในการเป็นเจ้าบ้านต้อนรับทั้งสองสโมสร และแฟนๆ ที่เดินทางมาจากทั่วโลก ทั้งที่พักโรงแรมระดับเวิลด์คลาส อาหารอร่อย ศูนย์การค้าที่ยอดเยี่ยม
รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ตอกย้ำความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวพร้อมยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงกีฬาระดับโลก นำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งทางตรง และทางอ้อม
โดยการประชาสัมพันธ์ประเทศผ่านฐานแฟนคลับของทั้ง 2 สโมสรยักษ์ใหญ่กว่าพันล้านคนทั่วโลก จะสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนภายในประเทศราว 6,000 ล้านบาท โดยได้เนรมิตราชมังคลากีฬาสถานโฉมใหม่ที่ได้มาตรฐานสากล
ซึ่งจะมีการแบ่งครึ่งสนาม สร้างบรรยากาศให้ใกล้เคียงกับสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด และสนาม แอนฟิลด์ ประเทศอังกฤษ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนให้สมบูรณ์ที่สุด
สามารถจุผู้ชมได้สูงสุด 59,000 ที่นั่ง เพื่อต้อนรับการระเบิดศึกแดงเดือดในไทย ที่กำลังจะสร้างตำนานหน้าใหม่ในวันอังคารที่ 12 กรกฎาคม 2565 เวลา 2 ทุ่มตรง โดยจะมีการถ่ายทอดสดไปใน 100 กว่าประเทศทั่วโลก
“THE MATCH Bangkok Century Cup 2022 เกิดขึ้นเพื่อให้แฟนบอลชาวไทยและแฟนบอลทั่วเอเชีย ได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้ชมศึกแดงเดือด เกมการแข่งขันระดับโลกนอกเกาะอังกฤษ ติดขอบสนามในประเทศไทย นับเป็นการยกระดับภาพลักษณ์ และสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการจัดงานอีเว้นท์ระดับโลก”
นายแอนดี้ โคล ฑูตสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า มั่นใจว่าจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเช่นเคยในเดือนกรกฎาคมนี้อย่างแน่นอน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจอลิเวอร์พูลเป็นแมตช์ที่ห้ามพลาด ไม่ว่าจะเป็นแมตช์กระชับมิตรหรือไม่ก็ตาม และผมก็มักจะรอคอยที่จะเล่นแมตช์นี้เสมอๆ การมาดวลแข้งพร้อมกันในประเทศไทยที่มีฐานแฟนคลับเหนียวแน่นรับรองได้เลยว่าจะสนุกและน่าตื่นเต้นแน่นอน
เช่นเดียวกับนายฟิล บ๊าบบ์ อดีตกองหลังสโมสรลิเวอร์พูล กล่าวว่า การวางแผน match ล่วงหน้าในแต่ละฤดูกาลเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากๆ และการที่ได้มาประเดิมแมตช์แรกของ pre-season 2022/23 ที่กรุงเทพฯ ก็ยอดเยี่ยมสุดๆ แฟนหงส์ในประเทศไทยเหนียวแน่นมาก และเราตื่นเต้นมากที่จะได้เตะกับสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รับรองว่า สนุกแน่นอน
สำหรับบัตรเข้าชมการแข่งขัน มีทั้งหมด 7 ราคา คือ 5,000 / 7,000 / 12,000 / 15,000 / 20,000 / 22,000 และ 25,000 บาท
ทั้งนี้ สำหรับผู้สนใจสามารถซื้อตั๋วเข้าชมการแข่งขัน THE MATCH Bangkok Century Cup 2022 ได้ทาง ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา หรือผ่านช่องทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.thaiticketmajor.com โดยเปิดจำหน่ายให้บุคคลทั่วไปพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 2 เมษายน 2565 เวลา 10.00น. (จำกัดการซื้อตั๋วไม่เกินคนละ 4 ใบ)
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ออกมากล่าวว่า เฟรชแอร์ฯ ผู้จัดศึกแดงเดือดในไทย ได้ทำหนังสือมายังการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)เพื่อขอรับการสนับสนุนการจัดการแข่งขันศึกแดงเดือดในไทยในวงเงินราว 400 ล้านบาท
โดยมอบหมายให้ผู้ว่าการกกท. ศึกษาดูความเป็นไปได้ และวิเคราะห์ถึงความคุ้มค่าทางด้านเศรษฐกิจให้ชัดเจนก่อน ว่าหากจัดแล้วสิ่งที่ประเทศไทยจะได้ประโยชน์คืออะไรบ้าง