ราคากัญชง ควรจะอยู่ที่กี่บาท เช็คข้อมูลได้ที่นี่

28 ก.พ. 2565 | 16:10 น.
อัปเดตล่าสุด :10 มี.ค. 2565 | 00:26 น.
7.5 k

TIHTA เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นการกำหนด "ราคากัญชง" Public Hearing ครั้งที่ 2 เสนอราคารับซื้อช่อดอกแห้งสูงสุดกิโลกรัมละ 50,000 บาท ชี้ราคาขายต้องสะท้อนคุณภาพ

อุตสาหกรรมกัญชงยังวุ่น ราคารับได้ของผู้ซื้อ-ผู้ขาย ไม่ตรงกัน TIHTA เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นการ กำหนดราคากัญชง Public Hearing ครั้งที่ 2 แนะ 2 ฝ่าย กำหนดเกณฑ์ตรวจสอบคุณภาพก่อนตกลงราคาซื้อขาย พร้อมเสนอราคาชี้แนะมาตรฐานสูงสุด 50,000 บาท/กิโลกรัม

TIHTA เสนอเงื่อนไขการรับซื้อช่อดอกแห้ง

นายพรชัย ปัทมินทร นายกสมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย เปิดเผยว่า หลังจากการเปิดเวที Public Hearing ครั้งที่ 1 เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา TIHTAได้ติดตามและรับฟังความเห็นจากกลุ่มต้นน้ำทุกๆกลุ่ม เนื่องจากต้องการความชัดเจนเรื่องโครงสร้างต้นทุนของการปลูกแต่ละแบบเพื่อหาบทสรุปของข้อเสนอแนะ

 

และใน Public Hearing ครั้งที่ 2นี้จะเป็นติดตามผลและรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อสร้างความมั่นใจว่าทั้งผู้ปลูก ผู้สกัดและคนที่นำสินค้าไปทำต่ออยู่กันรอดทั้งซัพพลายเชน 

“ทุกๆอุตสาหกรรมที่เป็นอุตสาหกรรมใหม่จะต้องใช้เวลาในการหาสมดุลซึ่งทางสมาคมฯจะลงไปดูแลตั้งแต่ฝั่งผู้ปลูกซึ่งจะต้องมีต้นทุนโครงสร้างในการลงทุน จากนั้นคนที่ทำกลางน้ำหรือโรงสกัดก็ต้องรอดเหมือนกัน TIHTAไม่สนับสนุนการซื้อช่อดอกบนราคาซึ่งผู้ปลูกอยู่ไม่ได้ และตามกฎหมายกำหนดให้ต้องใช้กัญชงที่ปลูกในประเทศไทยและได้รับการอนุญาตที่ถูกต้องเท่านั้น 

 

เพราะฉะนั้นก็ต้องอยู่บนโครงสร้างต้นทุนราคาที่เป็นอยู่ณปัจจุบัน ซึ่งต้นทุนเป็นสิ่งที่สะท้อนออกมาจากต้นทุนเมื่อต้องรับซื้อช่อดอกเข้า  เพราะฉะนั้นถ้าคาดหวังให้ผู้ปลูกต้องเติบโตได้อย่างยั่งยืน ผู้สกัดก็ต้องสร้างผลกำไรบ้างได้แต่ก็คงไม่ใช่กำไรที่ออกมาเวอร์วัง จนกระทั่งผู้ที่จะนำไปทำผลิตภัณฑ์ต่อจับต้องไม่ได้ของทุกอย่างมันจะมีสมดุลและสมการของมันสิ่งที่เราทำวันนี้ก็คือการรับฟังจากทุกๆมุมมอง”

 

ทางด้านนาย ปรนันท์ เกิดอุดม อุปนายกฝ่ายธุรกิจสัมพันธ์สมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในการPublic Hearing ครั้งที่ 1 ที่ผ่านมาทางสมาคมฯได้ฟังเสียงของผู้ประกอบการต้นน้ำและพยายามรวบรวมราคาที่เป็นไปได้จากต้นทุนเท่าที่จะเป็นไปได้ในการประกอบการจริงเพื่อนำมาช่วยกำหนดราคาที่ควรซื้อ-ขาย

TIHTAเสนอราคาซื้อขายชี้แนะช่อดอกกัญชงแห้ง

โดยราคาที่ชี้แนะจากTIHTA แบ่งเป็น

 

ราคาช่อดอกกัญชงแห้ง ที่ปลูกในระบบ Indoor 

  • CBD 14% ขึ้นไปราคา 45,000 – 50,000บาท
  • CBD 12 - 13.9% ราคา40,000 – 42,000 บาท
  • CBD 10 - 11.9% ราคา35,000 – 38,000บาท
  • CBD 8 - 9.9% ราคา30,000 – 33,000 บาท

 

ราคาช่อดอกกัญชงแห้ง ที่ปลูกในระบบ Outdoor

  • CBD 12% ขึ้นไปราคา  22,000บาท
  • CBD 10-11.9%ราคา 15,000 – 18,000บาท
  • CBD 8 - 9.9%ราคา  10,000 – 13,000 บาท
  • CBD6 - 7.9% ราคา 7,000 – 9,000 บาท

 

ราคาใบกัญชงแห้ง 

  • ปลูกแบบ Indoor ราคา3,000 – 15,000บาท/กิโลกรัม 
  • ปลูกแบบGreen House ราคา1,000 – 10,000บาท/กิโลกรัม
  • ปลูกแบบ Outdoor ราคา300 – 2,000บาท/กิโลกรัม

TIHTAเสนอราคาซื้อขายชี้แนะใบกัญชงแห้ง

โดยเงื่อนไขการซื้อต้องขึ้นอยู่กับ

  • ระยะเวลาในการเก็บเกี่ยว (อายุของใบ)
  • ปริมาณสารสำคัญที่ตรวจพบ
  • ชนิดของใบ อาทิ sugar leaf / fan leaf
  • หรือใช้เกณฑ์ของการตรวจวิเคราะห์มาตรฐานของฟาร์มร่วมด้วย อาทิเช่น gap organic thailand etc
  • และปริมาณสารปนเปื้อนควรเป็นไปตามมาตรฐานแบบเดียวกับช่อดอกแห้ง คืออยู่ในเกณฑ์ของ thai herbal pharmacopoeia (THP)

TIHTAเสนอราคา ต้นสด ต้นแห้ง เส้นใย แกนที่ปลูกในระบบ Outdoor และราคา ต้นสด ต้นแห้ง เส้นใย แกนที่ปลูกในระบบ Outdoor ต้นสด ราคา 20บาท/กิโลกรัม ต้นแห้ง ราคา80-100 บาท/กิโลกรัม ใย ราคา1,000 บาท/กิโลกรัม และแกนราคา 300 บาท/กิโลกรัม

 

ราคารากกัญชงรากสด

  • Organic700-1,200 บาท
  • Non-Organic250-500บาท
  • รากแห้งOrganic 2,500-4,000 บาท
  • Non-Organic1,000-2,000
  • ราคา เมล็ดกัญชงปลูกในระบบOutdoor 800-1,500

 

อย่างไรก็ตามทางTIHTAไม่สามารถบอกได้ว่ากัญชง ควรมีราคาเท่าไหร่  ทำได้เพียงแค่เสนอราคาชี้แนะซื้อ-ขายจากการเก็บข้อมูลจากผู้ปลูก ผู้รับซื้อ เพื่อให้ผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมสามารถทำราคาได้ตามที่เสนอไป

 

ซึ่งท้ายที่สุดจะย้อนกลับไปที่ประเด็นเดิมคือ คนอยากขายแพง คนซื้ออยากซื้อถูก จึงทำให้เกิดการแข่งขันขึ้นและมีโอกาสในการทำกำไรและพัฒนาเศรษฐกิจ เมื่อเกิดการตั้งเกณฑ์ในการรับซื้อขายก็จะทำให้เกิดการแข่งขันเพื่อให้คุณภาพกัญชงดีขึ้นและสามารถขายผลิตภัณฑ์ในราคาที่สูง

 

แต่ราคาขายที่สูงนั้นจะต้องสะท้อนภาพของคุณภาพที่สูงจริงผู้บริโภคถึงจะได้ประโยชน์และในท้ายที่สุดประเทศชาติก็จะได้ผลประโยชน์ในฐานะที่ขายสินค้าออกไปสู่ตลาดโลกด้วยคุณภาพที่ดีจริง

 

“TIHTAเราพยายามที่จะบอกว่าอย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องราคากันเยอะ เพราะราคาจะสะท้อนกับคุณภาพในท้ายที่สุด  ซึ่งเราเองพยายามที่จะสนับสนุนให้ผู้ซื้อกับผู้ขายทำการตกลงกันก่อนจะซื้อขาย ว่าจะตรวจคุณภาพกันที่ไหน ใช้เกณฑ์อะไรในการตรวจบ้าง โรงสกัดก็จะเห็นภาพชัดขึ้นว่าแหล่งที่มาของผลผลิตที่รับซื้อมีคุณภาพระดับไหน ควรจะซื้อไปทำอะไร นี่เป็นโจทย์หนึ่งที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการที่เป็นฝ่ายต้นน้ำและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ผู้ขายเองก็จะได้รู้ว่าคุณภาพที่ตัวเองขายออกไปควรได้รับราคาตามนั้นจริงไหมถ้าถูกไปหรือคุณภาพมันตกต่ำไปก็จะได้พัฒนาการปลูกเพื่อให้เหมาะสมกับราคาที่โรงสกัดรับซื้อ”