2.4หมื่นโรงแรมระส่ำวอนรัฐผ่อนผันภาษีที่ดิน10%อีก2ปี

16 ก.พ. 2565 | 09:50 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ก.พ. 2565 | 16:58 น.
2.3 k

โรงแรม 2.4 หมื่นแห่งอ่วมรัฐจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 100% ทำธุรกิจไปต่อไม่ไหว ผนึกสภาหอการค้าไทย-สทท. วอนอย่าเพิ่งเหมารวมธุรกิจโรงแรม ขอผ่อนผันจ่ายภาษี 10% ออกไปอีก 2 ปี หรือจัดเก็บแบบขั้นบันได เพื่อให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวยังหายใจได้อยู่

โรงแรม 2.4 หมื่นแห่งอ่วมรัฐจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 100% ทำธุรกิจไปต่อไม่ไหว กระทบหนักจากโควิดทำขาดทุนมาร่วม 2 ปีแล้ว นักท่องเที่ยวหายฮวบ 90% ผนึกสภาหอการค้าไทย-สทท. วอนอย่าเพิ่งเหมารวมธุรกิจโรงแรม ขอผ่อนผันจ่ายภาษี 10% ออกไปอีก 2 ปี หรือจัดเก็บแบบขั้นบันได เพื่อให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวยังหายใจได้อยู่

 

จากนโยบายที่กระทรวงการคลังมีนโยบายจะจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2565 ในอัตรา 100% ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมอย่างหนัก เนื่องจากโรงแรมไม่มีรายได้เข้ามาเพียงพอที่จะสามารถชำระภาษีดังกล่าวได้เต็มอัตรา เพราะจากโควิด-19 ที่ยืดเยื้อมาร่วม 2 ปีกว่าแล้ว ทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงไปกว่า 90% และโรงแรมประสบปัญหาการขาดทุนมาต่อเนื่อง

ดังนั้นสมาคมโรงแรมไทย(ทีเอชเอ) จึงอยู่ระหว่างผลักดันผ่านสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และสภาหอการค้าไทย เพื่อยื่นเรียกร้องต่อรัฐบาลขอเพิ่งเหมารวมธุรกิจโรงแรม อยู่ในข่ายที่ต้องชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในอัตรา 100% เพราะเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากโควิด- 19 จึงอยากขอให้ขอผ่อนผันจ่ายภาษีที่ดิน 10% ต่อไปอีก 2 ปี หรือปรับอัตราภาษีเก็บแบบเป็นขั้นบันได เพื่อให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและโรงแรมยังหายใจได้อยู่ ซึ่งจากสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่ามีจำนวน 24,269 แห่งในปี 2563

 

มาริสา สุโกศล หนุนภักดี

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าสมาคมโรงแรมได้สำรวจสมาชิกถึงผลกระทบของภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างหากมีการจัดเก็บ 100% ซึ่งพบว่าผู้ประกอบการได้รับผลกระทบมาก โดยเฉพาะในภาวะเช่นนี้ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่หนักมาก เมื่อโรงแรมยังไม่มีรายได้กลับเข้ามาเหมือนช่วงก่อนเกิดโควิด-19 เนื่องจากปริมาณนักท่องเที่ยวลดลงกว่า 90% ประกอบกับโรงแรมต้องแบกภาระการขาดทุนมากว่า 2 ปีแล้ว รายได้ทุกวันนี้หลายโรงแรมก็กู้ยืมเงินมาเพื่อใช้เป็นกระแสเงินในการจ่ายเงินเดือนให้พนักงาน เพราะรายได้ของโรงแรมอย่างเดียวยังไม่สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นได้ แม้ว่าในขณะนี้พนักงานโรงแรมส่วนใหญ่ก็ยังอาจได้รับเงินเดือนไม่เต็มที่เหมือนในอดีตก็ตาม

2.4หมื่นโรงแรมระส่ำวอนรัฐผ่อนผันภาษีที่ดิน10%อีก2ปี

หากผู้ประกอบการมีภาระต้องจ่ายภาษีที่ดินเต็ม 100% คงไม่ไหว ซึ่งโรงแรมจัดว่าเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากโควิด-19 หากเทียบกับธุรกิจอื่นๆ อย่างอุตสาหกรรม หรือ อสังหาริมทรัพย์ จึงอยากขอให้รัฐบาลให้ความเห็นใจในการขอผ่อนผันจ่ายภาษีที่ดิน 10% ต่อไปอีก 2 ปี คือในปี 2565-2566 หรือปรับอัตราภาษีเก็บแบบเป็นขั้นบันได อย่าเพิ่งเหมารวมธุรกิจโรงแรมเข้าไปอยู่ในอัตราการจัดเก็บภาษีที่ดิน 100% เพราะถ้าโรงแรมมีรายได้เหมือนเดิมก็พอมีกำลังจะจ่ายภาษีดินได้

 

แต่วันนี้ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเหลือแค่ 4.2 แสนคน จากเดิมที่เคยมีเข้ามามากถึง 40 ล้านคน การเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบ Test & Go ก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามาราว 2-3 แสนคนต่อเดือน เทียบไม่ได้กับปกติที่ไทยจะมีนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 3.3 ล้านคนต่อเดือน และการพึ่งเพียงการเข้าพักของคนไทยอย่างเดียวจึงยังไม่เพียงพอ

 

ทั้งการลงทุนโรงแรมส่วนใหญ่จะต้องใช้พื้นที่มาก และส่วนใหญ่อยู่ในเมืองท่องเที่ยวหลัก และหลายแห่งอยู่ติดทะเล ขณะที่การดำเนินธุรกิจกลับมีรายได้ไม่มากนัก หากเทียบกับโรงงานต่างๆ ซึ่งใช้พื้นที่น้อยกว่า แต่สามารถผลิตสินค้าได้เป็นหลักหมื่นล้านบาท การจัดเก็บภาษีที่ดินจึงเห็นว่ายังมีความไม่เสมอภาคกันอยู่ และธุรกิจเหล่านี้ก็ไม่ได้รับผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษีที่ดิน 100%

 

แตกต่างจากธุรกิจโรงแรมที่กระทบมาตั้งแต่รัฐปรับรูปแบบการจัดเก็บภาษีโรงเรือน ที่คำนวณตามรายได้ มาเป็นภาษีที่ดิน โรงแรมก็ต้องจ่ายภาษีที่หนักกว่าเดิม อาทิ รีสอร์ทขนาด 80-100 ห้อง เมื่อก่อนจ่ายภาษีโรงเรือนราว 6 แสนบาทต่อปี พอเป็นภาษีที่ดินต้องจ่าย 1.3-1.4 ล้านบาท แต่ที่ผ่านมารัฐช่วยผ่อนผันให้จ่าย 10% ผ่อนจ่าย 3 งวดมากว่า 2 ปี ก็ทำให้โรงแรมยังประคองไปได้ และอยากจะร้องขอให้ก็ภาครัฐจะยังให้การช่วยเหลือธุรกิจโรงแรมต่อไป ซึ่งปัจจุบันธุรกิจโรงแรมไทยที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฏหมายมีอยู่ราว 16,000 แห่ง แต่ถ้ารวมโรงแรมที่ไม่จดทะเบียนถูกต้องก็จะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว และมีจำนวนห้องพักทั้งหมดประมาณ 7-8 แสนห้อง