นางอุสรา ยงปิยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจค้าปลีก บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหาร สยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์, สยามดิสคัฟเวอรี่, ไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยมเอาท์เล็ต เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า สยามพิวรรธน์ ร่วมกับวีซ่า ประเทศไทย เปิดให้บริการ “VISA POP-UP” พร้อมกัน 3 สาขา ที่สยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์และสยามดิสคัฟเวอรี่
ในรูปแบบ Cashless Retail Store สมบูรณ์แบบครั้งแรกในไทย เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์สังคมไร้เงินสด ให้เลือกช้อปสินค้าพร้อมระบบชำระค่าสินค้าด้วยตนเองด้วยเครดิตการ์ด เดบิตการ์ด และ พรีเพดการ์ด สแกนจ่าย ง่าย สะดวก ปลอดภัย ตอบโจทย์ชีวิตวิถีใหม่ของคนรุ่นใหม่
แนวคิดในการทำ Visa Pop Up คือ การคัดสรรสินค้าคุณภาพที่ผ่านการ Curate สินค้าให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายของแต่ละศูนย์การค้า แม้ว่าจะเปิดบริการพร้อมกันทั้ง3 แห่ง แต่สินค้าจะมีความแตกต่างกัน โดยร้านที่สยามพารากอน ตั้งอยู่บนชั้น 3 จะมีสินค้าจาก ECOTOPIA เป็นพื้นที่สร้างสรรค์จากกลุ่มคนรักษ์โลกตัวจริง ภายใต้คอนเซ็ปท์ GREEN ON THE GO แบ่งเป็น 3 ส่วนด้วยกันคือ Go Green From Home To Work สินค้าตอบสนองสำหรับคนวัยทำงาน, Go Green Eco Lifestyle ยกระดับวิถีรักษ์โลกของคนรุ่นใหม่ และ Home Friendly สินค้าของใช้ดูแลบ้านในชีวิตประจำวัน
ส่วนร้านที่สยามเซ็นเตอร์ ตั้งอยู่บนชั้น 2 ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ จึงนำสินค้าจากร้าน Loft ที่คัดไอเท็มฮอตที่อยู่ในกระแสเทรนด์มานำเสนอ ทั้งประเภทสเตชั่นแนรี่ อุปกรณ์ไอทีแก็ตเจ็ต และจะมีสินค้าหมุนเวียนต่อเนื่องตามกระแสเทรนด์ที่เปลี่ยนไป อาทิ สินค้าจาก Absolute Siam Store เป็นต้น ขณะที่ร้านที่สยามดิสคัฟเวอรี่ ตั้งอยู่บนชั้น 2 เป็นสินค้าที่รวบรวมได้ทั้งจาก ECOTOPIA และ สินค้าจาก Digital Lab แบ่งเป็นสินค้า Eco Innovative, Eco Lifestyle, Healthcare & Hygiene, และ Lifestyle & Gadget
ในการเป็น Pop Up นี้ ยังเป็นโอกาสในการปรับเปลี่ยนสินค้าให้เข้ากับช่วงเวลาต่างๆ อาทิ ช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา ร้านที่สยามเซ็นเตอร์ ก็ได้นำเสนอสินค้ารับเทศกาลตรุษจีน เลือกสินค้าที่เป็นสีแดง มีความเป็นสิริมงคล รวมทั้งมีซองอั่งเปาดีไซน์เก๋จากร้าน Loft มาจำหน่าย และในเดือนกุมภาพันธ์นี้
ก็จะมีสินค้าที่เหมาะสำหรับเป็นของขวัญสำหรับเทศกาลวาเลนไทน์ ให้เลือกหลากหลาย สำหรับคู่รักทุกประเภท ได้อีกด้วย ที่สำคัญ คอนเซ็ปท์ Cashless Payment ที่เรานำมาใช้ เป็นรูปแบบรีเทลที่อำนวยความสะดวกทั้งกลุ่มลูกค้าชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่กำลังจะกลับเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นในเร็วๆ นี้
“ไฮไลท์สำคัญของ VISA POP-UP คือ การที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เยี่ยมชม เลือกช้อป เลือกซื้อสินค้าได้ตามความพอใจ และสามารถชำระเงินด้วยตนเอง ได้โดยใช้บัตรเครดิต เดบิตการ์ด และ พรีเพดการ์ด หรือการสแกน QR ชำระเงิน แบบไร้สัมผัส ซึ่งเป็นคอนเซ็ปท์หลักของร้านรีเทลในรูปแบบ Cashless Retail Store ดังนั้น ที่ร้านจะไม่มีพนักงานแคชเชียร์ ช่วยลดการสัมผัส
โดยมีวิธีการที่ง่ายไม่ซับซ้อน สะดวกและปลอดภัย เป็นรูปแบบการจับจ่ายในอนาคต ที่สยามพิวรรธน์จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องต่อไปโดยขยายการบริการในรูปแบบ Cashless Payment ไปในร้านค้า และพื้นที่รีเทลในส่วนต่างๆ โดยเริ่มที่ร้านค้าและพื้นที่รีเทลภายในสยามดิสคัฟเวอรี่อีกด้วย”
ด้านนายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ผลสำรวจเกี่ยวกับการศึกษาเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภคฉบับล่าสุดของวีซ่า (Visa Consumer Payment Attitudes Study) ชี้ให้เห็นว่า 81% ของผู้บริโภคในประเทศไทยสนใจที่จะช้อปปิ้งกับร้านที่รับชำระผ่านดิจิทัลเป็นทางเลือกให้กับพวกเขามากกว่าร้านที่รับแค่เงินสดเท่านั้น นอกจากนี้ 39% เลือกที่จะใช้จ่ายแบบไร้เงินสดเมื่อการแพร่ระบาดนี้สิ้นสุดลง
สำหรับ Visa POP-UP คือ ร้านค้ารีเทลในรูปแบบ Cashless Retail Store ที่จะตอบสนองรูปแบบการใช้ชีวิตและการจับจ่ายที่ไร้เงินสดอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีสินค้าคุณภาพที่ผ่านการคัดสรรสินค้าให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายของแต่ละศูนย์การค้า ซึ่งเปิดบริการพร้อมกันทั้ง 3 แห่ง
ได้แก่ สยามพารากอน ตั้งอยู่บนชั้น 3 จะมีสินค้าจาก ECOTOPIA เป็นพื้นที่สร้างสรรค์จากกลุ่มคนรักษ์โลกตัวจริง สยามเซ็นเตอร์ ตั้งอยู่บนชั้น 2 ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ จึงนำสินค้าจากร้าน Loft ที่คัดไอเท็มฮอตที่อยู่ในกระแสเทรนด์มานำเสนอ และ สยามดิสคัฟเวอรี่ ตั้งอยู่บนชั้น 2 เป็นสินค้าที่รวบรวมได้ทั้งจาก ECOTOPIA และ สินค้าจาก Digital Lab
หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,755 วันที่ 6 - 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565