ESG เริ่มลงแปลงปลูกกัญชง 768,000 ต้น คาดส่งพร้อมCBDล็อตแรกมีนาคมนี้

24 ม.ค. 2565 | 16:22 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ม.ค. 2565 | 23:45 น.

ESG เริ่มลงแปลงเพาะปลูกพืชกัญชงกลางแจ้งเชิงพาณิชย์ครั้งแรกในราชบุรี 768,000 ต้น บนพื้นที่ขนาด 200 ไร่ คาดสามารถเก็บเกี่ยว สกัดและส่งมอบสารสกัดจากกัญชงคุณภาพระดับอุตสาหกรรมภายในเดือนมีนาคมนี้

อีสเทิร์น สเปคตรัม กรุ๊ป (Eastern Spectrum Group) หรือ อีเอสจี  ถือฤกษ์12 มกราคม 2565 เริ่มทำการเพาะปลูกพืชกัญชงจำนวน 768,000 ต้น บนพื้นที่ขนาด 200 ไร่ ซึ่งถือเป็นรอบเก็บเกี่ยวแรกในพื้นที่จังหวัดราชบุรี ความสำเร็จของรอบการเพาะปลูกในครั้งนี้จะทำให้อีเอสจีก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำด้านการเพาะปลูกและแปรรูปผลิตภัณฑ์สารสกัดจากกัญชงเชิงพาณิชย์ที่สามารถจัดจำหน่ายสินค้าสู่ภาคเอกชนเป็นรายแรก

 

นายธนิสร บุญสูง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อีสเทิร์น สเปคตรัม กรุ๊ป กล่าวว่าโดยทั่วไปแล้วผู้เพาะปลูกในอุตสาหกรรมท้องถิ่นต้องอาศัยวิธีการเพาะเมล็ดแล้วย้ายไปปลูกในกระถาง หรือเพาะต้นกล้าในเรือนกระจกแล้วจึงย้ายลงดินเพื่อให้เกิดการเจริญเติบโตต่อไป แต่ด้วยการเพาะปลูกในพื้นที่กลางแจ้งเพียงอย่างเดียว ทำให้ อีเอสจี ได้ก้าวข้ามข้อจำกัดของการเพาะปลูกในที่ร่ม และสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมผลผลิตที่มีมากขึ้น

 ด้วยขนาดกำลังการผลิตที่สูงกว่า ห่วงโซ่อุปทานที่น่าเชื่อถือ และวิธีการเพาะปลูกที่เป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะของอีเอสจี ลูกค้าจะสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยสารแคนนาบินอยด์บริสุทธิ์ และมีคุณภาพสูงได้อย่างเต็มที่ อันเป็นการสร้างมูลค่ามหาศาลให้แก่ผู้ประกอบการด้านอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์สุขภาพ ที่มีแผนจะนำผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดแคนนาบินอยด์ และผลิตภัณฑ์จากกัญชงออกสู่ตลาด

 

“ในฐานะผู้เพาะปลูกชั้นนำระดับประเทศ เราเลือกใช้วิธีการเพาะเมล็ดลงดินโดยตรง บริษัทของเรามีจุดยืนที่ไม่เหมือนใครในฐานะผู้นำด้านการเพาะปลูกกลางแจ้งแต่เพียงผู้เดียว เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ผลิตในท้องถิ่นให้สามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น มีความสามารถในการส่งออกมากยิ่งขึ้น ในขณะที่อุตสาหกรรมกัญชง/กัญชาของประเทศไทยก็สามารถเติบโตได้อย่างเต็มที่” 

หลังจากเสร็จสิ้นการเพาะปลูกในรอบแรกเป็นที่เรียบร้อยอีเอสจีจะ อีเอสจี พร้อมที่จะรับประกันความสามารถในการส่งมอบสินค้าสารสกัดจากกัญชงคุณภาพสูงอย่างต่อเนื่องในระดับอุตสาหกรรมภายในเดือนมีนาคม 2565 โดยเมื่อการเก็บเกี่ยวเสร็จสิ้น พืชกัญชงที่ได้จะถูกนำเข้าสู่กระบวนการตากแห้งแบบพิเศษ จากนั้นจะถูกส่งไปยังโรงงานสกัดของ อีเอสจี ภายในปี 2565 อีเอสจี จะสามารถรับคำสั่งซื้อสาร CBD Isolate, Water Soluble CBD, CBD Distillates ในปริมาณมาก (โดยเฉพาะโรงพยาบาล บริษัทยา และผู้ผลิตยา), น้ำมัน CBD และเทอร์พีนที่สกัดจากกัญชงได้ ความสำเร็จในกำลังการผลิตขนาดใหญ่โดยไม่มีการลดทอนคุณภาพของสินค้า ถือเป็นจุดเด่นในการดำเนินงานของอีเอสจี ด้วยห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่ง และการเพาะปลูกที่มีประสิทธิภาพ บริษัทให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอนการผลิต เพื่อส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพสูงไปยังลูกค้า

 

ในปัจจุบันนี้ สารสกัดจากกัญชงสามารถนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย เช่น ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณและเครื่องสำอาง อาหารและเครื่องดื่ม ตลอดจนยาแผนโบราณและแผนปัจจุบัน ซึ่งในอุตสาหกรรมเหล่านี้ ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ขี้ผึ้ง มอยส์เจอไรเซอร์ อาหารเสริมสำหรับรับประทาน และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ผสมสารสกัดจากกัญชง นอกจากดูแลสุขภาพโดยทั่วไปแล้ว ยังมีโอกาสที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อต่อสู้กับอาการเจ็บป่วย เช่น การอักเสบของผิวหนัง ความวิตกกังวล หรือความผิดปกติในการนอนได้อีกด้วย

 

“ที่ อีเอสจี เรายึดมั่นในความเชื่อของเราที่มีต่อศักยภาพทางเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมกัญชงและกัญชาในประเทศไทย เราได้ส่งเสริมและผลักดันผู้ซื้อ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการชั้นนำในตลาดที่กำลังสร้างคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์จากสารสกัดจากกัญชาและกัญชง รวมถึงสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคจำนวนมากได้ เพื่อให้พวกเขาก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วและได้เป็นเจ้าแรกในไตรมาสที่ 1 ของ ปี 2565”