ททท.ปั้น‘เคาท์ดาวน์’ คิกออฟปีท่องเที่ยวไทย เซ็นทรัล-ไอคอนฯจัดเต็ม

03 ธ.ค. 2564 | 13:24 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ธ.ค. 2564 | 21:04 น.
2.7 k

ททท.รุกจัด 2 งานใหญ่คิกออฟ Visit Thailand Year 2022 ผุดเคาท์ดาวน์ 5 จังหวัด บิ๊กศูนย์การค้าเซ็นทรัล-ไอคอนสยาม จัดเต็มปั้นกรุงเทพฯเป็นโกลบอล เคานต์ดาวน์ติดอันดับโลก ทั้งปิดสวนลุมฯ จัดเทศกาลเที่ยวเมืองไทย กระตุ้นท่องเที่ยวปลายปีนี้ต่อต้นปีหน้า ปั้นไทยเที่ยวไทย

การแพร่ระบาดของโควิดกลายพันธุ์ “โอไมครอน” ทำให้รัฐบาลต้องทบทวนแผนจากเดิมที่อนุมัติให้ผู้เดินทางจาก 63 ประเทศในรูปแบบTest & Go เปลี่ยนวิธีตรวจหาเชื้อโควิด-19 ครั้งแรกที่เดินทางมาถึงไทยจาก RT-PCR มาใช้ ATK โดยสถานพยาบาลที่กำหนด ซึ่งเดิมวางไว้ว่าจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.64 ต้องเลื่อนออกไปและกลับมาใช้การตรวจแบบRT-PCR เท่านั้น  

 

ขณะที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก็อยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์เป็นระยะๆ และมองว่าขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินว่าจะมีผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่หรือไม่ และการจัดกิจกรรมใหญ่ทั้งเคาท์ดาวน์ปลายปีนี้และต้นปีหน้า  

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ททท.จะจัด 2 งานใหญ่ คือเคาท์ดาวน์ และเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ซึ่งจะเป็นกิจกรรมไฮไลท์ เพื่อคิกออฟการส่งเสริมปีท่องเที่ยวไทย 2565 ภายใต้แคมเปญ Visit Thailand Year 2022 : Amazing New Chapter ที่จะตอกย้ำคุณค่าการท่องเที่ยวที่โดดเด่นทำให้ประเทศไทย เป็น Preferred Destination  

 

จัดงานเคาท์ดาวน์ 5 จังหวัด 5 ภาค จะเน้นเรื่องของการพลิกโฉมประเทศไทยผ่านมิติด้านวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงาม และความสวยงามของธรรมชาติ มาประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรม นอกจากนี้ในช่วงต้นปีหน้า ททท. จะจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ระหว่างวันที่ 19-23 มกราคม 65 ณ สวมลุมพินี ซึ่งการจัดงานอยู่ภายใต้มาตรการเว้นระยะห่าง คาดว่าจะมีคนร่วมงานวันละ 1 หมื่นคน เดิมก่อนเกิดโควิดที่จะมีผู้เข้าร่วมงานวันละ 1 แสนคน และการจัดงานในปีนี้จะเป็นครั้งแรกที่มีการเปิดให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวมาออกบู้ธขายสินค้าและบริการท่องเที่ยวได้ 

จากสถานการณ์โควิดทั่วโลก ไทยเที่ยวไทยก็เป็นตลาดความหวังของผู้ประกอบการไทย ในช่วงที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมีความผันผวนจากโควิด ททท. ได้วางแนวโน้มการเติบโตของการท่องเที่ยวในปีหน้า กรณี Best Case ต่างชาติเที่ยวไทย 18 ล้านคน สร้างรายได้ 1 ล้านล้านบาท Base case อยู่ที่ 13 ล้านคน สร้างรายได้ 8 แสนล้านบาท Worst Case อยู่ที่ 10 ล้านคน สร้างรายได้ 6.2 แสนล้านบาท ส่วนการเดินทางเที่ยวในประเทศกรณี Best Case จะอยู่ที่ 160 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ 8.8 แสนล้านบาท Base case อยู่ที่ 140 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ 7.7 แสนล้านบาท และ Worst Case อยู่ที่ 122 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ 6.8 แสนล้านบาท  

 

นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การจัดงานเคานท์ดาวน์ในปลายปีนี้ ภายใต้แคมเปญ วิสิท ไทยแลนด์ เยียร์ อะเมซิ่ง เคาท์ดาวน์ 2022 จะใช้งบประมาณราว 100-120 ล้านบาท ในการจัดกิจกรรมเคาท์ดาวน์ใน 5 จังหวัด 5 ภูมิภาค ได้แก่ เชียงใหม่ นครราชสีมา พระนครศรี อยุธยา ระยอง และ ภูเก็ต วันที่ 27-31 ธันวาคมนี้  

 

การจัดงานใน 5 จังหวัดนี้ททท. จะเป็นเจ้าภาพหลักเน้นการนำเสนอศิลปะวัฒนธรรมประจำภาค และการส่งเสริมศิลปินในพื้นที่ แต่จะมีที่ภูเก็ตซึ่งจะมีการแสดงคอนเสิร์ตโดยศิลปินจากต่างประเทศ รวมถึงการประดับไฟเพื่อสร้างให้เป็นแลนด์มาร์กและจุดถ่ายรูป  

 

ททท. ยังให้การสนับสนุนการจัดงานเคานท์ดาวน์ของภาคเอกชนด้วย ซึ่งจะมีการจัดงานในหลายพื้นที่ อาทิ พัทยา ซึ่งเมืองพัทยาจะมีการจัดเคานท์ดาวน์ที่แหลมบาลีฮาย ส่วนในกรุงเทพฯก็จะมีการจัดงานเคานท์ดาวน์ใหญ่ที่เซ็นทรัล เวิล์ด, ไอคอนสยาม เป็นต้น  

 

เคาท์ดาวน์2022

 

นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น กล่าวว่า บริษัทเตรียมพร้อมจัดงานเคานท์ดาวน์ในปีนี้อย่างเต็มที่ โดยจะมีการจัดงานใน 3 พื้นที่ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัล โคราช และเซ็นทรัล ภูเก็ต ขณะเดียวกันจะสนับสนุนการจัดเคานท์ดาวน์ในแต่ละจังหวัดที่มีศูนย์การค้าเซ็นทรัลตั้งอยู่ด้วย เช่น การสนับสนุนจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในการจัดงานเคานท์ดาวน์ เพื้อส่งเสริมภาพลักษณ์ความเป็นเมืองมรดกโลก เป็นต้น

 

“เคาท์ดาวน์ในปีนี้งานหลักจะยังอยู่ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเป็นโกลบอล เคาท์ดาวน์ เดสติเนช้่น ที่ติดอันดับโลก จะมีการแถลงเปิดความพร้อมการจัดงานเคาท์ดาวน์ในวันที่ 10 ธ.ค.”

 

นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า ไอคอนสยามมีความพร้อมเต็มที่ในการจัดงานเคาท์ดาวน์ นับถอยหลังส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นซิกเนอเจอร์ของประเทศไทย และเป็นโกลบอล เคาท์ดาวน์ที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก โดยอีเว้นท์เคานท์ดาวน์ถือเป็น 1 ใน 4 ไฮไลท์ของอีเว้นท์ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้  

 

“ขณะนี้ทุกอย่างเตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว แต่การจัดงานดังกล่าวต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของภาครัฐว่าจะให้ดำเนินการได้หรือไม่ โดยไฮไลท์ของงานเคาท์ดาวน์ ไอคอนสยามคือ การจุดพุลจากข้าวเหนียว ที่งดงามเหนือน่านน้ำเจ้าพระยา ที่ไม่เพียงสร้างปรากฏการณ์ให้กับคนไทยยังสร้างความประทับใจให้กับชาวต่างชาติที่ได้รับชมผ่านการถ่ายทอดไปทั่วโลกด้วย