รวมถึงครึ่งปีแรกของปี 2564 ทำยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 39% ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้นำทีม “สกาย เชน” ผู้อำนวยการ การ์มิน ประเทศไทย
"แม้จะเกิดวิกฤติจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงสองไตรมาสแรกของปีนี้อีกครั้ง แต่การ์มินก็ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง”
“สกาย” บอกชัดเจนเลยว่า หัวใจหลักที่มาเป็นอันดับหนึ่ง คือ ฟังก์ชั่นการใช้งานที่โดดเด่น ด้วยฟีเจอร์ทั้งด้านสุขภาพและฟิตเนส เช่น ฟีเจอร์การวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2) และฟีเจอร์ติดตามสุขภาพอื่น ๆ ควบคู่ไปกับการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ที่ช่วยให้การ์มินทำยอดขายได้สูงเป็นประวัติการณ์ ด้วยการเติบโตของยอดขายโดยรวมถึง 39% ภายในเวลาเพียงสองไตรมาส หรือประมาณ 50% ของยอดขายในประเทศแถบเอเชียแปซิฟิก
ผู้นำหนุ่มคนนี้ เข้ามาทำหน้าที่หัวเรือใหญ่ให้กับการ์มิน ประะเทศไทย ตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยเจอกับภาวะวิกฤติของไวรัสโควิด -19 แล้ว แต่เขาก็ยังสามารถผลักดันให้ยอดขายของการ์มินเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยนอกจากตัวผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้ซื้อแล้ว กระบวนการทำงานแบบ VERTICAL INTEGRATION ซึ่งหมายถึงการพัฒนาด้านวิศวกรรม การผลิต การตลาด ตลอดจนการบริการที่ทางบริษัทการ์มินเป็นผู้ดำเนินการเองตลอดทั้งกระบวนการ คือเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร และยอดขาย
ปี 2564 การ์มิน ได้เปิดสำนักงานแห่งแรกในเมืองไทยอย่างเป็นทางการ “สกาย” บอกเลยว่า เป้าหมายของทั้งเขาและการ์มิน คือ การเป็นผู้นำในทุกๆ ตลาดที่การ์มินให้บริการ การเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยของการ์มิน ถือเป็นอีกกลยุทธ์สำคัญในการศึกษาและต้องการทำความเข้าใจลูกค้าอย่างใกล้ชิดด้วยการฟอร์มทีมที่ประจำอยู่ในประเทศไทย
หลังจากเข้ามาตั้งบริษัทในประเทศไทย บริษัทได้ตั้งโจทย์ว่า จะทำอย่างไรให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง การที่จะไปสู่จุดหมายได้นั้น ต้องอาศัยหลากหลายกลยุทธ์ประกอบกัน อันดับแรกเลย คือ การควบคุมคุณภาพของสินค้าด้วยกลยุทธ์ VERTICAL INTEGRATION ที่เกิดจากกระบวนการควบคุมคุณภาพทั้งสายการผลิต โดยบุคลากรของการ์มิน ตั้งแต่กระบวนการผลิต การทำการตลาด และการให้บริการ เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน กับความสามารถในการปรับตัวอย่างรวดเร็วเท่าทันต่ออุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต และการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน
นอกจากนี้ ยังเน้นเรื่อง EXPAND BRAND PRESENCE IN EACH MARKET ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้ง 5 กลุ่มให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าโดยการนำเสนอสินค้าที่ตอบความต้องการที่เฉพาะเจาะจง ผ่านการทำให้การ์มินเป็นที่รู้จักทั้งในการทำตลาดแบบ B2C และ B2B อาทิ การทำตลาดสินค้าประเภทกีฬากอล์ฟ และการดำน้ำพร้อมกันนี้ ยังให้ความสำคัญกับ USER EXPERIENCE ENHANCEMENT ผ่านกิจกรรมรูปแบบใหม่ ๆ และที่ขาดไม่ได้ คือ SEAMLESS SERVICE EXPERIENCES กับแผนการให้บริการที่ครอบคลุมทุกภูมิภาค ที่มีทั้ง บริการ Drop-off points ทีม Call Center และ แผนบริการ Door-to-door ที่ช่วยลดระยะเวลาการให้บริการลงถึง 50% เพิ่มประสิทธิภาพและรวดเร็วทันใจ
ทั้งหมดนั่นคือ คีย์ซัคเซสที่ทำให้ “สกาย” สามารถผลักดันยอดขายของการ์มินให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และในสภาวะที่เจอกับวิกฤติโควิด -19 อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้นำคนนี้ให้ความสำคัญมากๆ คือ การยึดมั่นในคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับผู้บริโภค การปรับใช้เทคโนโลยี และปรับตัวให้ไว เพื่อทำให้เราไปต่อได้อย่างพร้อมเพรียงกัน
“ทีมได้ปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง มีการมอนิเตอร์สถานการณ์แบบรายวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับตัวของทีมการตลาด ที่ต้องทำการบ้านหนักขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา จากการทำกิจกรรมทางการตลาดเพื่อสื่อสารไปยังผู้บริโภคแบบออฟไลน์ ปัจจุบันเรามีการลดสัดส่วนนั้น และได้เพิ่มกิจกรรมบนโลกออนไลน์มากขึ้น เพื่อเข้าถึงผู้บริโภค”
การสร้างทีมใหม่ในประเทศไทย “สกาย” บอกว่า เป็นความท้าทายอย่างมาก ด้วยเป้าหมายการดูแลทิศทางการทำตลาดในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด ต้องอาศัยผู้นำที่กำหนดทิศทางที่ชัดเจนทั้งของแบรนด์ และการเดินหน้าขององค์กร เพื่อเป็นหลักยึดมั่นให้พนักงานทุกคนสามารถเคลื่อนสู่เป้าหมายเดียวกัน
“สกาย” สรุปปิดท้ายว่า การ์มินจะประสบความสำเร็จในการเติบโตอย่างแน่นอน เพราะเชื่อมั่นในประเทศไทยซึ่งเป็นศูนญ์กลางการค้า การพักผ่อน และการท่องเที่ยวในอาเซียน เมื่อไทยเปิดประเทศ จึงถือเป็นศักยภาพมหาศาลในการเติบโตสำหรับแบรนด์การ์มิน
หน้า 16-17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,726 วันที่ 28 - 30 ตุลาคม พ.ศ. 2564