ผุด Locanation แพลตฟอร์มจองโรงแรมสัญชาติไทยผู้ประกอบการไม่เสียคอมมิชชั่น

04 ต.ค. 2564 | 12:18 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ต.ค. 2564 | 19:19 น.
547

บริษัท โลเคเนชั่น เปิดบริการ Locanation แพลตฟอร์มจองโรงแรมสัญชาติไทย ชูจุดเด่นผู้ประกอบการไม่ต้องเสียค่าคอมมิชชัน รับนโยบายรัฐบาลเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ

นายเปเป้ อรุณานนท์ชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท โลเคเนชั่น จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้นำความรู้และประสบการณ์จากการทำแพลตฟอร์มการจองโรงแรมสถานที่กักตัวทางเลือกแห่งรัฐ (ASQ) และ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) มาต่อยอดและพัฒนาแพลตฟอร์ม Locanation (www.locanation.com) เพื่อเป็นแพลตฟอร์มจองโรงแรมเต็มรูปแบบ ภายใต้คอนเซปต์ใหม่ “The First-Ever Social Travel Marketplace” ซึ่งจะเป็นแพลตฟอร์มจองโรงแรมรายแรกของโลกที่ไม่เก็บค่าคอมมิชชันจากโรงแรมที่เข้าร่วมระบบ 
ทั้งนี้ บริษัทฯตั้งเป้าเป็นช่องทางการจองโรงแรมโดยตรงให้กับโรงแรม เพราะโรงแรมสามารถสื่อสารข้อมูลโดยตรงกับลูกค้าที่จองห้องพักและมอบสิทธิประโยชน์ที่ดียิ่งขึ้นได้อีก โดย Locanation เล็งเห็นโอกาส หลังจากรับทราบถึงปัญหาของผู้ประกอบการโรงแรม อาทิ เช่น การผูกขาดตลาดของแพลตฟอร์มต่างชาติ ซึ่งส่งผลให้โรงแรมต้องจ่ายค่าคอมมิชชันสูงถึง 30% หรือการที่โรงแรมไม่สามารถสื่อสารโปรโมชั่นและข้อมูลต่างๆ โดยตรงกับนักท่องเที่ยวผ่านแพลตฟอร์มเหล่านั้นได้ ปัญหาเหล่านี้ ก่อให้เกิดเทรนด์การจองห้องพักโดยตรงที่เพิ่มมากขึ้น แต่ทว่ากว่า 70% ของโรงแรมในประเทศไทย ยังไม่มีช่องทางออนไลน์ให้นักท่องเที่ยวจองห้องพักหรือแม้แต่สอบถามข้อมูล

“บริษัทพัฒนาระบบการจองโรงแรมรูปแบบใหม่ขึ้นมา เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยว ยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน และนำรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมดกลับมาอยู่ในอุ้งมือของคนไทย” นายเปเป้ กล่าว
แพลตฟอร์ม Locanation เป็น 1 ในทีมที่ชนะการประกวดโครงการ TAT Travel Tech Startup Season 2 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ถูกพัฒนาภายใต้พันธกิจ Good for hotels, better for travelers หรือดีสําหรับโรงแรม และดียิ่งกว่าสําหรับนักท่องเทียว พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 1 ตุลาคม 2564 สอดคล้องกับนโยบายฟื้นเศรษฐกิจของประเทศด้วยการท่องเที่ยวที่พร้อมจะเปิดประเทศ"

Locanation แพลตฟอร์มจองโรงแรมสัญชาติไทย
นายเปเป้ กล่าวต่อไปอีกว่า เมื่อมาตรการของรัฐเริ่มผ่อนคลายจากวิกฤตโควิด-19 (covid-19) จะเห็นคนไทยต้องการท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเทรนด์การท่องเที่ยวหลังคลายล็อกดาวน์นั้น ตลาดในประเทศจะกลับมาเร็วที่สุด ซึ่งสอดรับกับ ททท. ที่ได้เดินหน้าโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 จำนวน 2 ล้านสิทธิ์ ซึ่งรัฐบาลสนับสนุนค่าโรงแรม  40% การมอบคูปองอาหาร 600 บาทต่อคืน การลดราคาตั๋วเครื่องบิน 40%  ให้เดินทางท่องเที่ยว รวมถึงโครงการทัวร์เที่ยวไทย 1 ล้านสิทธิ์ สนับสนุน 5,000 บาท ในการซื้อแพคเก็จทัวร์ท่องเที่ยว เป็นต้น   
สำหรับแพลตฟอร์ม Locanation จะให้บริการ  3 ภาษา ประกอบด้วยไทย  อังกฤษ และจีน  โดยเฟสแรกของการเปิดให้บริการจะเน้นผู้ใช้บริการจะเป็นนักท่องเที่ยวไทยในประเทศ 80% อีก 20% เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยตั้งเป้าโรงแรมที่จะเข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์ม Locanation เป็น 20,000 โรงแรมได้ภายในปี 2565

จุดเด่น คือ เมื่อผู้ประกอบการโรงแรมที่เข้าร่วมแพลตฟอร์ม Locanation ไม่ต้องเสียค่าคอมมิชชัน จึงทำให้เปรียบเสมือนช่องทางการจองตรงของโรงแรม สามารถสื่อสารโดยตรงกับนักท่องเที่ยว ทำให้สามารถนำรายได้ที่เคยสูญเสียไปในจุดนั้นมาแปรเปลี่ยนเป็นสิทธิประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการของผู้เข้าพักเพิ่มมากขึ้น เช่น บริการรถรับส่งระหว่างโรงแรมไปยังสนามบิน หรือฟรีมินิบาร์ เป็นต้น
นายเปเป้ กล่าวอีกว่า การที่โรงแรมและลูกค้าสามารถสื่อสารกันโดยตรง ทั้งในรูปแบบของโพสต์และแชทส่วนตัว จะส่งผลให้โรงแรมสามารถอัพเดทโปรโมชันและดีลห้องพักได้แบบเรียลไทม์ และจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงนักท่องเที่ยวของโรงแรมอีกด้วย

Locanation แพลตฟอร์มจองโรงแรมสัญชาติไทย
นอกเหนือไปจากนั้น ปัจจุบัน Locanation ได้ทำการจับมือกับพันธมิตรระดับประเทศอย่าง สยามพิวรรธกรุ๊ป และทิพยประกันภัย โดยได้ร่วมกันพัฒนาและออกแบบสิทธิประโยชน์มากมายที่จะนำมามอบให้กับผู้ใช้ เพื่อให้ทุกจองนำไปสู่การเดินทางที่พิเศษและครบครันมากยิ่งขึ้น
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวว่า ททท. สนับสนุนและส่งเสริม Startup โดยเฉพาะในกลุ่ม TravelTech ของประเทศไทย ให้มีศักยภาพในการแข่งขันในระดับนานาชาติ ซึ่งการพัฒนาแพลตฟอร์มการจองโรงแรมในรูปแบบใหม่โดยโลเคเนชั่นนี้ เป็นการให้บริการที่จะช่วยแก้ปัญหาและเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการโรงแรมไทยให้สามารถสร้างประโยชน์สูงสุดจากการดำเนินธุรกิจ ตลอดทั้งสามารถตอบสนองความต้องการตามพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่นิยมจองห้องพักผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ 
อย่างไรก็ดี ททท. คาดว่า ไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลง และอัตราการฉีดวัคซีนครอบคลุมตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขแล้ว บรรยายการท่องเที่ยวจะเริ่มกลับมาสร้างความคึกคัก และความเข้มเข็งให้แก่ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยอีกครั้ง