เซ็นทรัลพัฒนา ทุ่มพันล้าน เสริมแกร่ง Business Ecosystemโตยั่งยืน

01 ต.ค. 2564 | 12:39 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ต.ค. 2564 | 19:43 น.

“เซ็นทรัลพัฒนา” ทุ่มกว่า 1,000 ล้านบาท ชูโมเดลธุรกิจใหม่ เสริมแกร่ง Business Ecosystem ศูนย์การค้า สร้างพันธมิตรเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้กลยุทธ์ Scaling Up Your Business ใน 3 ปี

นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด  บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซา, เซ็นทรัลเฟสติวัล, เซ็นทรัล ภูเก็ต และเซ็นทรัล วิลเลจ เปิดเผยว่า บริษัทพัฒนา Business Model ใหม่ โดยวางเป้าหมายใน 3 ปี ด้วยงบการตลาด 1,000 ล้านบาท

 

เพื่อสนับสนุนธุรกิจของพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เน้นการสร้างจุดต่างและจุดแข็งของการเป็นศูนย์การค้าด้วย 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่            

  

กลยุทธ์ที่ 1: ENABLE to scale up your business จากทราฟฟิกลูกค้ามากมายมหาศาล การทำธุรกิจให้มีความยั่งยืน การทำ Brand Experience และการมีหน้าร้านยังคงมีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อการสร้างแบรนด์และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ซึ่งจะเห็นได้จากเทรนด์ค้าปลีกและ E-Commerce ยักษ์ใหญ่ระดับโลก

 

ที่ขยายจากออนไลน์มาสู่ออฟไลน์เพื่อมอบประสบการณ์จริง ที่ยากจะสัมผัสได้ทางออนไลน์อย่างเดียวให้กับลูกค้า ซึ่งจุดแข็งของการมีศูนย์การค้าทั่วประเทศของเรา ประกอบกับความแข็งแกร่งของ Anchor ต่างๆ ที่เป็น magnet ของกลุ่มเซ็นทรัล จะช่วยส่งเสริมธุรกิจของพันธมิตร ได้แก่

เซ็นทรัลพัฒนา ทุ่มพันล้าน เสริมแกร่ง Business Ecosystemโตยั่งยืน

Success Formula จับเทรนด์ Urbanization ด้วยการพัฒนาโครงการในรูปแบบ Fully-Integrated Mixed-Use Development ขยายและบุกเมืองเศรษฐกิจต่างๆ จากความเชี่ยวชาญในการผสานทุกองค์ประกอบทั้งศูนย์การค้า โรงแรม คอนเวนชั่นฮอลล์ ที่พักอาศัย ให้ส่งเสริมซึ่งกันและกันเกิดเป็น Quality Traffic Ecosystem

 

โดยการสร้าง Residential Projects ติดหรือใกล้กับศูนย์การค้าของเรานั้น ได้รับเสียงตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าในอีก 3 ปี (ปี 2567) จำนวนโครงการและจำนวนลูกบ้านในโครงการของเซ็นทรัลพัฒนาทั่วประเทศจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ซึ่งจะเป็น Regular Traffic ที่จะเพิ่มขึ้นจากทราฟฟิกปกติของศูนย์การค้าที่มีอยู่แล้วอย่างน้อยหลายหมื่นคนต่อวันต่อสาขา

 

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลมี Positioning ที่ชัดเจนในการเป็น Center of Life ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนทุกกลุ่ม รวมถึงเรายังสร้างคอมมูนิตี้ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพิ่มโอกาสในการมี Brand Exposure ดึงดูดทั้งลูกค้าใหม่และรักษาลูกค้า loyalty

 

นอกจากนี้ลูกค้ายังคงให้การตอบรับการมาใช้บริการศูนย์การค้าของเราอย่างต่อเนื่อง โดยหลังคลายล็อคดาวน์ภายในสัปดาห์แรกของเดือนกันยายนที่ผ่านมา ศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ มี Traffic Recovery ถึง 50-70% อีกด้วย และภายในไตรมาสที่ 4/2564 นี้ คาดว่าจะมี Traffic Recovery ประมาณ 70-80%

เซ็นทรัลพัฒนา ทุ่มพันล้าน เสริมแกร่ง Business Ecosystemโตยั่งยืน

ด้านนายอิศเรศ จิราธิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายขาย บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า กลยุทธ์ที่ 2: ENSURE excellent services, facilities and synergies ถือเป็นหัวใจของร้านค้าและแบรนด์ต่างๆ ในการทำธุรกิจร่วมกับศูนย์การค้า คือ การมี services & facilities ส่วนกลางที่พร้อมให้บริการและอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าเสมอ

 

ศูนย์การค้าเองมีการลงทุนในด้านต่างๆ ที่จะช่วยซัพพอร์ตธุรกิจของคู่ค้า ทำให้ scale up ได้รวดเร็วกว่าการทำสาขาสแตนด์อโลน ไม่ว่าจะเป็นด้าน Hygiene & Safety Facility, แผนการตลาดช่วยดันยอดขายและช่วยในการสร้างแบรนด์, การทำ CRM Marketing รวมไปถึง Knowledge & Know-how อาทิ หลักสูตร Retail Academy และ CPN Lead ส่งเสริม SMEs ต่างๆ จาก Ecosystem ในเครือเซ็นทรัล

 

ดร. ณัฐกิตติ์ กล่าวอีกว่า กลยุทธ์ที่ 3: EMPOWER with Big Data  ซีพีเอ็นมีพาร์ทเนอร์ในเครือที่แข็งแกร่งอย่าง The 1 ซึ่งเป็น Digital Lifestyle & Loyalty Platform อันดับหนึ่งของประเทศ ด้วยจุดแข็งของการเป็น Established Database ตัวจริงในวงการรีเทลมากว่า 15 ปี ซึ่งในส่วนการทำ CRM ระดับนี้หากแบรนด์ต้องลงทุนเองนับเป็นค่าใช้จ่ายมหาศาล

 

ในขณะนี้เซ็นทรัลมีสมาชิก The 1 อยู่แล้วทั่วประเทศกว่า 18 ล้านคน มีสมาชิกที่ใช้งาน active สม่ำเสมอสูงถึงกว่า 8.4 ล้านคนต่อปี รวมถึงมีการสะสมคะแนนกว่า 14,000 ล้านคะแนนต่อปี นอกจากนี้เรายังมีอีกเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยร้านค้าเข้าถึงศักยภาพตรงนี้นั่นคือ ‘The 1 Biz’ นั่นคือลูกค้าจะสามารถใช้จ่ายที่แบรนด์ร้านค้าที่เข้าร่วมและสามารถรับและแลกคะแนนได้ การที่ร้านค้าได้เข้ามาอยู่ใน Ecosystem นี้จะสามารถทำ CRM ได้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น

 

“กลยุทธ์นี้จะถูกนำไปต่อยอดให้กับพันธมิตรในศูนย์การค้าทั้ง 33 ศูนย์ที่เปิดให้บริการในปัจจุบันรวมถึงอีก 2 ศูนย์ที่จะเปิดขึ้นใหม่ในอนาคตคือ เซ็นทรัล ศรีราชา ซึ่งมีมูลค่ากว่า 4,200 ล้านบาทจะเปิดให้บริการในวันที่ 27 ต.ค. นี้ และเซ็นทรัล อยุธยา ซึ่งมีมูลค่ากว่า 6,200 ล้านบาท  จะเปิดให้บริการในวันที่ 30 พ.ย. นี้ ด้วย”

เซ็นทรัลพัฒนา ทุ่มพันล้าน เสริมแกร่ง Business Ecosystemโตยั่งยืน

นายระวี พัวพรพงษ์ Head of Corporate Affairs and Relationship, The 1 กล่าวว่า การที่ The 1 ได้เข้ามาร่วมกับเซ็นทรัลพัฒนา Scaling Up ผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและใหญ่ในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดประตูด่านแรกเข้าสู่โลกแห่งบิ๊กดาต้าอย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน ซึ่งจะช่วยร้านค้าและแบรนด์ให้เข้าใจลูกค้าได้มากขึ้น สามารถออกแบบกลยุทธ์ทางการตลาดในการจับกลุ่มลูกค้าได้อย่างแม่นยำ วัดผลได้ และสร้างยอดขายได้จริง โดยจุดแข็งของ The 1 ที่จะช่วยติดสปีดให้กับธุรกิจคือ

 

The Powerful Digital Lifestyle & Loyalty Platform and Strong Ecosystem เรามีฐานสมาชิกร้านค้าใน Ecosystem ที่แข็งแกร่งทั้งในและนอก กลุ่มเซ็นทรัลทั่วประเทศ กว่า 2,000 แบรนด์ รวมทั้งสิ้นกว่า 30,000 Touchpoints ที่เชื่อมโยงลูกค้ากว่า 18 ล้านรายผ่านแอปพลิเคชั่น The 1 ที่รวบรวมทั้งส่วนลด รีวอร์ด และคอนเทนต์สำหรับทุกไลฟ์สไตล์

 

พร้อมทั้งฟีเจอร์ที่ช่วยในการช้อปปิ้งทั้งออนไลน์และออฟไลน์ได้สะดวกสบายไร้รอยต่อ อาทิ การโอน-แลก-เช็คคะแนน, สแกนจ่าย, เช็คยอดใช้จ่าย ซึ่ง The 1 ได้มีการอัพเดทฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการและเทรนด์การใช้งานของผู้บริโภคอยู่เสมอ สำหรับร้านค้า The 1 มี Partner Platform หรือ The 1 Biz ที่นำเสนอ Dynamic Business Intelligence Solutions ที่เสริมศักยภาพธุรกิจให้เติบโตไปกับเซ็นทรัลพัฒนา คาดภายในสิ้นปีมีแบรนด์เข้าร่วมกว่า 240 แบรนด์ จำนวนกว่า 1,000 ร้านค้า