รพ.เอกชนอัดโปร จองวัคซีนโควิด "โมเดอร์นา" แจกประกัน 2 แสน
รพ.เอกชน อัดโปรโมชั่นจูงใจลงทะเบียนจองวัคซีนทางเลือก “โมเดอร์นา” แจกประกันภัย พร้อมเงินปลอบขวัญสูงสุด 2 แสนบาท เปิดจองผ่านช้อปปี้ เพิ่มแพ็กเกจจองได้ถึง 10 โดส/ครั้ง ทั้งคนทั่วไปและกลุ่มเด็กอายุ 12-17 ปี
การอนุมัติงบกลาง 946.31 ล้านบาทให้สภากาชาดไทยสั่งซื้อวัคซีนโมเดอร์นา 1 ล้านโดสเพื่อนำมาฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบางฟรี รวมถึงการที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ประกาศนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นาอีก 8 ล้านโดสในปี 2565
ทำให้การเปิดจองวัคซีนทางเลือก “โมเดอร์นา” ของโรงพยาบาลเอกชนในล็อตที่ 2 ซึ่งจะนำเข้ามาในไตรมาส 2 ปีหน้า รวมถึงวัคซีนโมเดอร์นา สำหรับเด็กที่มีอายุ 12-17 ปีที่เพิ่งเริ่มเปิดจองเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาต้องเร่งปรับกลยุทธ์ หาแรงจูงใจให้ผู้คนหันมาลงทะเบียนจองซื้อแทนที่จะรอรัฐบาลจัดสรร
วันนี้จึงเห็นโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งนำเสนอสิทธิพิเศษ สำหรับผู้ที่สนใจและต้องการจองวัคซีนโมเดอร์นา ที่เริ่มเปิดจองล็อต 2 ในปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน โดยโรงพยาบาลที่จัดโปรโมชั่นแรงสนั่นโลกโซเชียล หนีไม่พ้นโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
ที่เปิดให้จองวัคซีนทางเลือก Moderna (Generation 1 Lot2) ผ่าน Bumrungrad Application จะได้รับ 3 สิทธิประโยชน์ ได้แก่ 1. จองวัคซีนทางเลือก Moderna (Generation 1 Lot2) และรับการฉีดตามมาตรฐานและความปลอดภัยสูงสุดกับบำรุงราษฎร์
2. รับฟรีประกันภัยแพ้วัคซีนโควิด-19 สูงสุดรวม 2 แสนบาทจากกรุงเทพประกันภัย โดยลูกค้าโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์จะได้รับสิทธิ์การคุ้มครองอาการโคม่าจากการแพ้วัคซีนมูลค่า 1 แสนบาท และเพิ่มเติมพิเศษ เมื่อต้องนอนพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในติดต่อกันไม่น้อยกว่า 7 วัน รับเงินปลอบขวัญ 1 แสนบาท
โดยมีระยะเวลาคุ้มครอง 60 วัน นับจากวันที่ฉีดวัคซีนในแต่ละครั้ง เฉพาะลูกค้าโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ รับสิทธิ์เพิ่มอีก 1 แสนบาท คุ้มครองการแพ้วัคซีนโควิด-19 จากบริษัทผู้ผลิตวัคซีน
3. เข้าถึงข้อมูลประวัติการฉีดวัคซีนได้อย่างสะดวก ผ่านเมนู My Vaccination Records ภายใน Bumrungrad Application โดยเปิดให้จองสิทธิ์ในการราคาเข็มละ 1,650 บาท จำกัดไม่เกิน 10 โดสต่อ 1 การซื้อ และสามารถโอนสิทธิ์ในการจองวัคซีนในผู้อื่นได้ แต่ไม่อนุญาตให้ทำการขายช่วงให้กับผู้อื่น โดยสามารถทำการจองทั้งวัคซีนสำหรับคนทั่วไปที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และเด็กอายุ 12-17 ปีด้วย
ขณะที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ก็เปิดให้จองวัคซีนโมเดอร์นา ล็อต 2 ผ่านทางมาร์เก็ตเพลสชื่อดังอย่าง “Shopee” ในราคาเข็มละ 1,650 บาท โดยเน้นกลุ่มผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยกำหนดให้จองไม่เกิน 10 เข็มต่อการสั่งซื้อ 1 ครั้ง เช่นกัน
ด้านโรงพยาบาลนนทเวช ซึ่งจัดงานมหกรรมสุขภาพดี NTV HEALTH EXPO 2021 ที่เปิดให้แพ็กเกจตรวจสุขภาพประจำปีและตรวจสุขภาพอื่นๆ รวม 40 รายการพร้อมโปรโมชั่นลดสูงสุด 20% ได้เปิดให้จองสิทธิ์ซื้อวัคซีนทางเลือกโมเดอร์นา สำหรับบุคคลที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ในราคา 3,300 บาท/2โดส ซึ่งจำกัดจำนวน 400 คนแรกเท่านั้นโดยเปิดให้จองถึงวันที่ 17 ก.ย. เท่านั้น โดยเป็นวัคซีนโมเดอร์นาล็อตแรก จะได้รับพร้อมกับผู้ที่ยื่นจองตามที่สมาคมโรงพยาบาลเอกชนจัดสรร
ส่วนโรงพยาบาลวิมุต ที่เปิดให้ลงทะเบียนจองวัคซีนโมเดอร์นารอบ 2 เมื่อจองได้กำหนดให้ชำระเงินค่ามัดจำเพียง 1,200 บาท จากราคาเต็มเข็มละ 1,650 บาทเท่านั้น ส่วนที่เหลือชำระก่อนเข้ารับบริการ ถือเป็นอีกกลยุทธ์ที่ดึงดูดลูกค้าได้
ผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชน หนึ่งในสมาชิกสมาคมโรงพยาบาลเอกชนรายหนึ่ง เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ยอมรับว่าการเปิดจองวัคซีนโมเดอร์นาของโรงพยาบาลเอกชนในขณะนี้มีการแข่งขันที่รุนแรง ทำให้แต่ละโรงพยาบาลเอกชนต้องนำเสนอรูปแบบและสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจและดึงดูดให้เข้ามาจองซื้อวัคซีน ซึ่งนอกจากเป็นการสร้างความสะดวกให้กับลูกค้าเดิมแล้วยังสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ๆให้กับโรงพยาบาลได้อีกด้วย
อีกทั้งหลังจากที่หน่วยงานรัฐนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นาเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นสภากาชาดไทย และราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ที่เปิดให้องค์กรต่างๆ จองวัคซีนโมเดอร์นา (ในราคาที่คาดว่าจะต่ำกว่าโรงพยาบาลเอกชน) จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของประชาชนที่ต้องการฉีดวัคซีน mRNA
“ส่วนใหญ่ที่เห็นจะเป็นโรงพยาบาลเอกชนในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เพราะเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม และมีกำลังซื้อต้องการวัคซีนที่มีประสิทธิภาพทั้งเป็นเข็ม 1 เข็ม 2 และวัคซีนบูสเตอร์ รวมถึงวัคซีนเด็กที่มีอายุระหว่าง 12-17 ปี
ซึ่งมีผู้ปกครองจำนวนมากต้องการให้บุตรหลานได้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อกลับไปเรียนได้ตามปกติ ซึ่งวัคซีนสำหรับเด็กคาดว่าจะเข้ามาในกลางปีหน้า สามารถใช้เป็นบูสเตอร์โดสฉีดให้กับเด็กได้”
ด้านนพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ผู้บริหารเครือโรงพยาบาลธนบุรี กล่าวว่า วันนี้คนไทยยังได้รับวัคซีนเข็ม 2 เพียงหลักสิบล้านคน หากต้องการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนเข็ม 2 ให้ได้มากกว่า 35 ล้านคนและภายในเดือนตุลาคมนี้ ขณะที่กลุ่มเด็กอายุ 12-17 ปี ก็ต้องการวัคซีนถือเป็นกลุ่มเสี่ยงเช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมาเด็กไทยเสียเวลาไป 2 ปีความรู้ถดถอยไป 1.5 ปี เพราะไม่มีโอกาสเรียน
ผู้ปกครองที่มีกำลังซื้อก็สามารถส่งไปเรียนต่างประเทศได้ แต่มีสัดส่วนน้อยมาก ขณะที่เด็กในกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงจำเป็นจะต้องได้รับวัคซีนที่มีคุณภาพดีก่อนที่จะกลับไปเรียน ไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ผู้ปกครองก็อยากให้ได้รับการฉีดวัคซีน จึงไม่แปลกอะไรหากโรงพยาบาลต่างๆ จะเร่งจัดสรรและเปิดให้จองวัคซีนสำหรับเด็กมากขึ้น