โรงแรมดิ้นจับคู่บิ๊กผู้ส่งออกรุกแฟกตอรี่แซนด์บ็อกซ์

03 ก.ย. 2564 | 09:56 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ก.ย. 2564 | 17:21 น.

ธุรกิจโรงแรมดิ้นจับคู่ผู้ส่งออกรุกบริการรับแฟกตอรี่แซนด์บ็อกซ์ ทั้งผุดแพ็คเกจ Work From Hotel รวมถึงบริการที่พักแบบ bubble and seal รับบิ๊กธุรกิจที่เปิดโรงแรมให้พนักงานไม่ติดเชื้อกักตัว-ทำงานที่โรงแรม ล่าสุดมีดีลทั้งจากโลตัส-เอ็กซิมแบงก์

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าปัจจุบันต้องยอมรับว่าในขณะนี้การส่งออกถือว่าเป็นแรงขับเคลื่อนหลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทย ทำให้ทั้งรัฐบาล ผู้ส่งออกขนาดใหญ่ รวมถึงธุรกิจค้าปลีกและบริษัทรายใหญ่ของไทย ต่างต้องการรักษาให้ธุรกิจสามารถดำเนินการต่อไปได้ภายใต้มาตรการควบคุมและป้องกันโรคโควิด-19 ทำให้ในขณะนี้เริ่มมีผู้ประกอบการโรงแรมมองโอกาสในการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มลูกค้าเหล่านี้

 

โดยเฉพาะผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่ที่มีนิคมอุตสาหกรรมต่างๆที่มีการแพร่ระบาด เช่น พัทยา นนทบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ ซึ่งได้มีการเจรจากับโรงงานภาคการผลิตส่งออกขนาดใหญ่ที่มีแรงงานมากกว่า 500 คนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อจับคู่เข้าร่วมโครงการ Factory Sandbox (Bubble & Seal) เพื่อการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่จะเริ่มหารือร่วมกันแล้วในพัทยา เนื่องจากผู้บริหารของโรงงานต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ ทำให้ธุรกิจเหล่านี้มองการทำเรื่องของแฟกตอรี่แซนด์บ็อกซ์โดยใช้โรงแรมเป็นสถานที่กักตัวผู้ติดเชื้อโควิด-19 สำหรับผู้ป่วยสีเขียว

มาริสา สุโกศล หนุนภักดี

 

อีกกลุ่มตลาดคือธุรกิจรายใหญ่ ที่ต้องการโรงแรมเพื่อแยกกักตัวสำหรับผู้ที่ไม่ติดเชื้อโควิด ให้พักอาศัยในรูปแบบ bubble and seal  รวมถึงความต้องการโรงแรมเป็น Work From Hotel  รองรับพนักงานในกลุ่มที่มีความสำคัญต่อองค์กร เพื่อใช้โรงแรมเป็นสถานที่ทำงาน ตามคำแนะนำด้านสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด รวมถึงลดความเสี่ยง ซึ่งสมาคมโรงแรมก็มีการเปิดให้โรงแรมสมาชิกเสนอห้องพักราคาพิเศษไว้รองรับ อาทิ ไม่เกิน 7 วัน เป็นแพ็คเกจ 7 วัน7 คืน หรือ 15 วัน 14 คืน เป็นต้น แม้จะยังมีบุ๊กกิ้งเข้ามาไม่ได้มากนักแต่ก็เป็นช่องทางใหม่ในการขายของโรงแรมที่เกิดขึ้น

 

นอกจากนี้สมาคมฯยังได้หารือกับกระทรวงแรงงานเพื่อขอให้มีการจัดสรรวัคซีนให้กับกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยว สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่เป็นต่างด้าว รวมถึงผู้ประกันตน ม. 33 (คนไทย) ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 เพื่อให้เร่งการฉีดวัคซีน เพื่อเปิดรับการท่องเที่ยว รวมถึงขอให้สนับสนุนเรื่องของชุดตรวจATK เพื่อช่วยลดต้นทุนของผู้ประกอบการด้วย

 

ด้านแหล่งข่าวระดับสูงจากผู้ประกอบการโรงแรมไทย เผยว่านอกจากโรงแรมจะไปเจรจากับบริษัทผู้ส่งออกเพื่อทำเป็นฮอสพิเทล Hospitel รับผู้ป่วยสีเขียวในโครงการแฟกตอรี่แซนด์บ็อกซ์แล้ว ล่าสุดยังพบว่าเริ่มบริษัทรายใหญ่ประกาศหาโรงแรมระดับประกาศหาโรงแรมระดับ 3-4ดาว เพื่อรองรับการกักตัวสำหรับคนที่ยังไม่ติดเชื้อโควิดและการ Work From Hotel 

 

ล่าสุดธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่อย่างโลตัสต้องการหาโรงแรมขนาด 300 ห้องพัก ในทำเลกรุงเทพตอนเหนือ รังสิต ในพื้นที่จังหวัดอยุธยา หรือ ปทุมธานี เพื่อเช่าเหมารายเดือนให้พนักงานโลตัสที่ไม่ติดเชื้อพักอาศัยรูปแบบ bubble and seal ระยะเวลา 1-2 เดือน โดยมีอาหาร 2 มื้อ เช่นเดียวกับเอ็กซิม แบงก์ ก็ต้องการโรงแรมสำหรับรองรับพนักงานของธนาคาร อย่างน้อยจำนวน 22 คน โดยรองรับเข้าพักห้องละ1 คน มีห้องประชุมใหญ่รองรับการปฏิบัติงานของพนักงานอย่างน้อย 1 ห้อง หรือมีห้องประชุมเล็กอย่างน้อย 2 ห้อง รวมค่าอาหาร ซักรีดแบบเหมา  มีพื้นที่ส่วนกลางเป็นสัดส่วนสำหรับพนักงานเพื่อทานอาหารและเป็นจุดรับส่งเอกสารต่างๆ หากปิดโรงแรมไม่ได้ ก็ต้องแยกโซนโรงแรมให้เฉพาะไม่มีลูกค้าจากภายนอก  ทำสัญญาเช่าเป็นรายเดือน เป็นต้น

 

สำหรับโครงการแฟกตอรี่แซนด์บอกซ์ในพื้นที่เป้าหมาย จะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร และชลบุรี ระยะที่ 2 อยุธยา ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ ซึ่งจะมุ่งเป้าไปยังกลุ่มสถานประกอบการ 4 ประเภทอุตสาหกรรม ได้แก่ 1.ยานยนต์ 2.ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 3.อาหาร และ 4.อุปกรณ์การแพทย์  เบื้องต้น ข้อมูล ณ วันที่ 24 สิงหาคม 2562 มีสถานการประกอบการร่วมโครงการ โดยลงนามทำข้อตกลง (MOU) แล้วจำนวน 46 แห่ง และมีสถานพยาบาลเข้าร่วมโครงการ 4 แห่ง สามารถดูแลผู้ประกันได้จำนวน 9.2 หมื่นคน