“พาณิชย์”เดินหน้าลุยตลาดผลไม้ไทยในฮ่องกง

14 พ.ค. 2564 | 15:03 น.

“ปลัดพาณิชย์”เป็นสักขีพยานMOUเชื่อมโยงส่งออกผลไม้ไทยจากพาณิชย์จังหวัดสู่ตลาดฮ่องกง ปริมาณ 2,200 ตัน มูลค่า 100 ล้านบาท เน้นสร้างโมเดลการค้าใหม่รับยุค New Normal ใช้ช่องทางการเจรจาซื้อขายผ่านออนไลน์ ผ่านเซลส์แมนจังหวัดและเซลส์แมนประเทศ

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์เป็นสักขีพยานการลงนาม Memorandum of Purchasing (MOP) การเชื่อมโยงส่งออกผลไม้ไทยจากพาณิชย์จังหวัดสู่ตลาดฮ่องกง ผ่านระบบ Zoom ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการโสมสวลี ชั้น 11 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยเป็นการลงนามซื้อขายมะม่วงระหว่างผู้ส่งออกไทยกับผู้นำเข้าฮ่องกง ปริมาณรวม 2,200 ตัน มูลค่ารวม 100 ล้านบาท

“พาณิชย์”เดินหน้าลุยตลาดผลไม้ไทยในฮ่องกง

หรับการซื้อขายมะม่วงดังกล่าว แยกเป็นจังหวัดปทุมธานี ปริมาณ 1,200 ตัน มูลค่า 55 ล้านบาท ระหว่างบริษัท Freco Asia Company Limited ผู้ส่งออกไทย กับบริษัท Shing Kee Lan Company Limited ผู้นำเข้าฮ่องกง และจังหวัดสระแก้ว ปริมาณ 1,000 ตัน มูลค่า 45 ล้านบาท ระหว่าง เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนมะม่วงจังหวัดสระแก้ว ผู้ส่งออกไทย กับบริษัท Chiang Mai Herbs Trading Limited ผู้นำเข้าฮ่องกง

“พาณิชย์”เดินหน้าลุยตลาดผลไม้ไทยในฮ่องกง

การซื้อขายมะม่วงในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการส่งออกมะม่วงน้ำดอกไม้ของไทย เข้าสู่ตลาดฮ่องกงได้เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีช่องทางการจำหน่ายและส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ช่วยให้มีความรู้ในการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพมาตรฐานและตรงตามที่ตลาดต้องการ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น จากการกิจกรรม Online Business Matching ที่สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์ในช่วงต้นปี ทำให้สถิติการส่งออกมะม่วงจากประเทศไทยสู่ฮ่องกงในไตรมาสแรกของปี 2564 เติบโตร้อยละ 464 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา รวมทั้งสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่มะม่วงน้ำดอกไม้ของไทย โดยเกิดเทรนด์การนำมะม่วงน้ำดอกไม้ไทยเป็นของฝากที่มีคุณภาพ สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลไม้ไทย

“พาณิชย์”เดินหน้าลุยตลาดผลไม้ไทยในฮ่องกง

“การลงนามซื้อขายผ่านทางออนไลน์ ยังเป็นสร้างโมเดลการค้าใหม่ให้เกิดขึ้นรองรับยุค New Normal ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัด ในฐานะเซลส์แมนจังหวัด ทำงานร่วมกับผู้ประกอบการ เกษตรกร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัด และทูตพาณิชย์ทำหน้าที่เป็นเซลล์แมนประเทศ ทำงานร่วมกับผู้ส่งออก ผู้นำเข้าและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในต่างประเทศ และให้เซลล์แมนจังหวัดและเซลล์แมนประเทศประสานการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อผลักดันการส่งออกสินค้าไทย โดยเฉพาะสินค้าของจังหวัดไปยังตลาดต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น”

“พาณิชย์”เดินหน้าลุยตลาดผลไม้ไทยในฮ่องกง

โดยเฉพาะในส่วนของจังหวัดสระแก้ว จะมีการต่อยอดทำเป็น “สระแก้วโมเดล” ในการพัฒนามะม่วงน้ำดอกไม้ เพื่อส่งออกไปยังตลาดฮ่องกง ให้มีคุณภาพมาตรฐานระดับสูง โดยจะร่วมมือกันระหว่างสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกับสำนักงานเกษตรจังหวัดและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนมะม่วงจังหวัดสระแก้ว เพื่อการส่งออกที่ยั่งยืน

“พาณิชย์”เดินหน้าลุยตลาดผลไม้ไทยในฮ่องกง

นอกจากนี้เพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จและฤดูการเก็บเกี่ยวผลไม้ที่ใกล้เข้ามา สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง เตรียมการจัด การเจรจาธุรกิจออนไลน์ Online Business Matching ผลไม้ไทยเข้าสู่ตลาดฮ่องกง” ระหว่างวันที่ 24 – 28 พฤษภาคม 2564 โดยมีผลไม้เป้าหมายคือ ทุเรียน มังคุด ส้มโอ เงาะ ลำไย เนื่องจากเป็นที่นิยมของชาวฮ่องกง ขณะนี้มีเกษตรกรและผู้ประกอบการสมัครเข้าร่วมจำนวน 20 ราย จาก 11 จังหวัด โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดร่วมตรวจสอบศักยภาพและความพร้อมของเกษตรกรและผู้ประกอบการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้นำเข้าว่าจะได้รับสินค้าที่ดีมีคุณภาพสูงระดับส่งออก อีกทั้งจะมีการดำเนินการลักษณะนี้โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ในประเทศอื่น ๆ ด้วย และมีการจัดงานส่งเสริมผลไม้ไทยในตลาดฮ่องกงและจีน อาทิ งาน Thai Fruits Festival และ Thai Fruits Golden Month ในเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน 2564

“พาณิชย์”เดินหน้าลุยตลาดผลไม้ไทยในฮ่องกง

ทั้งนี้ ภาพการค้ารวมระหว่างไทย – ฮ่องกง ในปี 2563 มีมูลค่า 13,297.80 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยการส่งออกสินค้าไทยไปฮ่องกง มีมูลค่า 11,292.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และการนำเข้าสินค้าจากฮ่องกงไปไทย มีมูลค่า 2,005.55 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในส่วนของการส่งออกสินค้าผลไม้มีมูลค่า 361.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีอัตราขยายตัวร้อยละ 23.90 ในไตรมาสแรกของปี 2564 สถิติการส่งออกมะม่วงจากประเทศไทยสู่ฮ่องกงมีมูลค่า 1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีอัตราขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญร้อยละ 464