สัปดาห์หนังสือ คัมแบ็ค ช้อป 615 บูธที่ BITEC

04 เม.ย. 2564 | 18:37 น.

Pubat พร้อมจัดใหญ่ สัปดาห์หนังสือฯ - สัปดาห์หนังสือนานาชาติ หลังพัก1ปีหนีโควิด ขนทัพ 223 สำนักพิมพ์ 615 บูธ จัดเต็ม BITEC

นางสาวโชนรังสี  เฉลิมชัยกิจ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (Pubat) กล่าวว่า  มูลค่าตลาดรวมอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ไทยปี 2563 มีมูลค่าประมาณ 12,000 หมื่นล้านบาท คาดว่าปีนี้เมื่อสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายจากวัคซีนและ new normal ของการใช้ชีวิตผู้คน ปีนี้จะมีมูลค่ารวมประมาณ 15,000 ล้านบาท โดยกลุ่มประเภทหนังสือที่ได้รับความนิยมจากนักอ่านยังคงเป็น การ์ตูน วรรณกรรม รองลงมาคือ หนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง ความรู้ รวมถึงกลุ่มประวัติศาสตร์การเมือง 

การจัดงานหนังสือถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทางการตลาดของผู้ผลิตสิ่งพิมพ์ ไม่ว่าจะในประเทศไทยหรือหลายๆ ประเทศในโลก เพราะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยน ซื้อขาย และการหมุนเวียนของเศรษฐกิจในประเทศ โดยข้อมูลสำรวจเรื่องช่องทางการซื้อหนังสือในปี 2563 จากผู้ที่เข้าร่วมงานหนังสือพบว่ามีการซื้อจากร้านหนังสือ 81% งานหนังสือ 61% ออนไลน์แบบสั่งเป็นเล่ม 51% และแบบอีบุ๊ค 20% โดยกลุ่มที่มาร่วมงานส่วนใหญ่ยังเป็นขาประจำที่มาทุกครั้งที่จัดงาน และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการซื้อหนังสือต่อคนในช่วง 500-1,000 บาท มีจำนวนมากที่สุด

สัปดาห์หนังสือ คัมแบ็ค ช้อป 615 บูธที่ BITEC

สำหรับในปีนี้ สมาคมฯ เตรียมจัดงานกระตุ้นตลาดช่วงต้นปีกับ สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 49 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 19 ตั้งแต่วันที่ 17-25 เมษายน 2564 ณ อีเว้นต์ ฮอลล์ 98 – 99 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) ภายใต้ธีม “อ่านเท่” 

โดยมีสำนักพิมพ์เข้าร่วมงาน 223 ราย จำนวน 615 บูธ ใน 7 โซนหนังสือ ได้แก่ Book Wonderland, หนังสือทั่วไป, การศึกษา, หนังสือเด็ก, หนังสือเก่า, หนังสือต่างประเทศ และนิยาย ซึ่งจะมีหนังสือใหม่ภายในงานกว่า 1,200 ปก ร่วมด้วยนิทรรศการ งานอบรมสัมมนา และกิจกรรมที่น่าสนใจบนเวทีที่หมุนเวียนกันไปทุกวัน

งานครั้งนี้สมาคมฯ ได้เพิ่มกิมมิคสำหรับนักอ่านเพื่อกระตุ้นการซื้อ โดยจัดทำอี-คูปอง (E-Coupon) สำหรับช้อปในงานมูลค่า 500 บาท จะจำหน่ายล่วงหน้าในราคาพิเศษ 400 บาท เร็วๆ นี้ ผ่านทาง www.ThaiBookFair.com พร้อมด้วยโปรโมชั่นส่วนลดสูงสุดจากสำนักพิมพ์ 60% และจุดบริการรับ-ส่งจากเคอรี่ เอ็กซ์เพรส

พร้อมขยายช่องทางการช้อปบน ThaiBookFair.com ที่ผนึกกำลังกับ 3 มาร์เก็ตเพลสรายใหญ่ของประเทศอย่าง ลาซาด้า ช้อปปี้ และเจดี เซ็นทรัล เพื่อเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายและมอบส่วนลดรวมมูลค่ากว่า 5,000,000 บาท  นอกจากนี้ ยังได้เชื่อมโยงกิจกรรมแบบ O2O ด้วยการเผยแพร่งานสัมมนาที่น่าสนใจผ่านทางเวบไซต์ และสามารถนำใบเสร็จจากการช้อปภายในงานไปแลกคูปองส่วนลดที่บูท ThaiBookFair เพื่อนำไปช้อปต่อในเวบไซต์ได้อีกด้วย ซึ่งคาดว่าจะเกิดรายได้ประมาณ 250 ล้านบาท

รวมทั้งขยายการจัดงานหนังสือ ไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น โดยเน้นจังหวัดที่มียอดการสั่งซื้อทางออนไลน์มากที่สุดในปี2563 ที่ผ่านมา เช่น อยุธยา สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานีและโคราช  ตั้งเป้า7-10 งานตลอดทั้งปี 

คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการซื้อขายได้ทั้งปีราว 600 ล้าน หลังจากยอดขายปี 2563 ร่วงหนักเหลือเพียง 271 ล้านบาทจากการจัดงานและซื้อขายผ่านทางออนไลน์ช่องทางเดียว สืบเนื่องจากไม่สามารถจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ออนกรานด์ได้จากมาตราการล็อกดาวน์ โดยในปี 2562 มีรายได้รวมราว 788 ล้านบาท

สัปดาห์หนังสือ คัมแบ็ค ช้อป 615 บูธที่ BITEC

“อุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกัน จากปัจจัยหลักอย่างการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าและการดิสรัปท์ของเทคโนโลยี ส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจสิ่งพิมพ์นั้นต้องปรับตัว 

โดยการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดคือการพิมพ์หนังสือด้วยตัวของนักเขียนเองโดยไม่ผ่านสำนักพิมพ์ หรือนักเขียนสร้างผลงานของตัวเองผ่านช่องทางอีบุ๊ค (eBook) มากขึ้น ขณะเดียวกันสำนักพิมพ์เล็กๆ ที่มีกลุ่มผู้อ่านชัดเจนในเนื้อหาเฉพาะทาง (Niche) ก็มีการเติบโตมากขึ้น ที่สำคัญคือความท้าทายใหม่ที่คู่แข่งขันไม่ใช่ธุรกิจเดียวกันอีกต่อไปแล้ว แต่คือกิจกรรมความบันเทิงอื่นๆ ที่เข้ามาดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค  

โดยเฉพาะโซเชียลมีเดียที่กินเวลาของนักอ่านไปเป็นจำนวนมากต่อวัน จึงจำเป็นมากที่สำนักพิมพ์หรือผู้ผลิตเนื้อหา (Content) ต้องสร้างเนื้อหาน่าสนใจมากพอที่จะดึงดูดความสนใจจากนักอ่าน ตลอดจนใช้เครื่องมือใหม่ๆ กระตุ้นการขาย อาทิ ช่องทางโซเชียล มีเดียที่เข้าถึงผู้คนได้ทันที  พอดแคสท์ หรือยูทูป เป็นต้น”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: