ไฮบริดอีเว้นท์มหกรรมหนังสือฯ ยอดคนกว่า 8 แสนราย

27 ต.ค. 2563 | 14:38 น.

PUBAT เผย ไฮบริดอีเว้นท์งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 25 สรุปสถิติผู้เข้าชมงานที่อิมแพ็คตลอด 12 วัน 556,053 ราย ขณะที่ ThaiBookFair.com มี 250,000 ราย รวมยอดจำหน่าย 197 ล้านบาท หมวดนิยาย/วรรณกรรมยังคงครองแชมป์หนังสือขายดี

นางสาวโชนรังสี  เฉลิมชัยกิจ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) กล่าว สรุปผลการจัดงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 25 (Book Expo Thailand 2020) ภายใต้แนวคิด “Noกองดอง” ระหว่างวันที่ 30 กันยายน – 11 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า ปีนี้มีสมาชิกเข้าร่วมงานทั้งหมด 262 ราย และมีจำนวนบูธทั้งหมด 746 บูธ โดยมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมงานจำนวน 556,053 ราย สร้างยอดจำหน่ายประมาณ 192 ล้านบาท 

ขณะเดียวกันด้านการจัดแบบออนไลน์ (Online) ใน ThaiBookFair.com นั้น เมื่อนับในช่วงระยะเวลาจัดงานเดียวกันมีผู้ใช้บริการช้อปออนไลน์จำนวน 250,000 ราย สร้างยอดจำหน่ายที่ 5 ล้านบาท รวมยอดจำหน่ายจากทั้งสองรูปแบบกิจกรรม คือ 197 ล้านบาท ซึ่งถือว่าไม่ตรงตามเป้าหมายที่คาดการณ์เอาไว้ที่ 200 ล้านบาท เนื่องจากหลายปัจจัยประกอบ ไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (COVID-19) และปัจจัยด้านเศรษฐกิจที่ไม่เอื้อต่อการจับจ่ายทำให้กำลังซื้อของนักอ่านลดลง รวมถึงสำนักพิมพ์มีการผลิตหนังสือปกใหม่ออกมาในจำนวนที่น้อยลง แต่โดยรวมถือว่าน่าพอใจสำหรับการกลับมาจัดในรูปแบบออน กราวด์ (On Ground) อีกครั้งเพราะยังคงมีนักอ่านที่ให้ความสนใจและยังคงชื่นชอบกับการได้มาเดินเลือกซื้อหนังสือหนังสือในงาน ส่วนทางเว็บไซต์ ThaiBookFair.com สมาคมยังคงมอบโปรโมชั่นกระตุ้นนักอ่านให้ได้ช้อปกันต่อจนถึง 31 ตุลาคม 2563
 

สำหรับหมวดหนังสือที่ได้รับความสนใจจากนักอ่านที่มาช้อปในรูปแบบออน กราวด์ มากเป็นอันดับหนึ่ง ได้แก่ หนังสือนิยาย/วรรณกรรม เนื่องจากได้รับความสนใจจากผู้อ่านหลากหลายช่วงวัย ตั้งแต่วัยเรียนไปจนถึงวัยทำงาน สถานการณ์ช่วงนี้อาจส่งผลให้ผู้อ่านหันมาอ่านวรรณกรรมเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยให้จิตใจผ่อนคลายจากความกังวล อันดับที่สองคือ หนังสือการ์ตูนและไลท์โนเวล (นิยายที่เจาะกลุ่มคนที่ชอบอ่านการ์ตูน ใช้ภาษาอ่านง่าย ไม่เน้นคำที่เข้าใจยาก อ่านแล้วสามารถจินตนาการได้ทันที) ผู้อ่านส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงวัยเรียน ซึ่งรูปแบบการจัดงานที่เป็นออนไลน์สามารถเจาะกลุ่มนักอ่านรุ่นใหม่ได้มากกว่า เพราะมีความถนัดในการใช้เทคโนโลยี 

อันดับที่สามคือ หนังสือการศึกษา มีผู้อ่านเป็นวัยเรียนตั้งแต่ระดับปฐมวัยไปจนถึงระดับอุดมศึกษา แต่ผู้ซื้อส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้ปกครองที่ต้องการนำไปพัฒนาศักยภาพทางการศึกษาของบุตรหลาน อันดับที่สี่คือ หนังสือจิตวิทยาพัฒนาตนเอง โดยผู้อ่านยังให้ความสำคัญในการพัฒนาตัวเอง หรือพัฒนาธุรกิจ เพื่อนำมาใช้ต่อยอดสู่ความสำเร็จในอนาคต และสุดท้ายอันดับที่ห้าคือ หนังสือประวัติศาสตร์ โดยผู้อ่านกลุ่มนี้จะชื่นชอบความเป็นมาในอดีต วิวัฒนาการ ที่จะนำไปพัฒนาองค์ความรู้ต่อไป แต่ในขณะที่ทางออนไลน์นั้น หมวดหนังสือขายดีได้แก่ หนังสือนิยาย/วรรณกรรม หนังสือประวัติศาสตร์ หนังสือจิตวิทยาพัฒนาตนเอง หนังสือการ์ตูนและไลท์โนเวล และการศึกษา ตามลำดับ
 

เสียงสะท้อนจากนักอ่านที่เข้าร่วมงานพบว่า มีจำนวนมากที่ประทับใจในบริการรถตู้รับ-ส่ง เนื่องจากช่วยให้เดินทางสะดวกขึ้นและไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมถึงการจัดพื้นที่บูธต่างๆ ที่เป็นสัดส่วนทำให้นักอ่านเดินหาบูธได้ง่าย โดยหลังจบงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 25 ทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ มีแผนรวบรวมความคิดเห็นจากการจัดงานในครั้งนี้ เพื่อนำมาปรับปรุง และพัฒนาความน่าสนใจของกิจกรรมต่างๆ เพิ่มเติมสำหรับการ
ไฮบริดอีเว้นท์มหกรรมหนังสือฯ ยอดคนกว่า 8 แสนราย