ช่อง 3 ปั้มรายได้ ลุยตลาดต่างประเทศไม่หยุด

13 ต.ค. 2563 | 15:53 น.

จากพิษโควิด -19 ทำให้ผลประกอบการ บีอีซี เวิลด์ บริษัทแม่ของกลุ่มช่อง 3 ไตรมาส 2 ซึ่งรายงานต่อตลาดหลัทรัพย์ ขาดทุน 266.8 ล้านบาท ซึ่งมีผลจากนาทีขายโฆษณาที่ลดลงจากการแข่งขันด้านราคา และกาหดตัวของเม็ดเงินโฆษณาโดยรวม แม้ช่อง 3 จะมีกลุ่มผู้ชมเพิ่มขึ้นก็ตาม โดยนีลเส็น รายงานว่า เม็ดเงินโฆษณาทีวีครึ่งปีแรกของกลุ่มโทรทัศน์ อยู่ที่ 29,193 ล้านบาท ลดลง 4,973 ล้านบาท หรือลดลง 15% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2562

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ได้ประเมินแผนธุรกิจของกลุ่มช่อง 3 ซึ่งมีการลดต้นทุนจากการลดจำนวนพนักงาน และอีกส่วนคือการบริหารคอนเทนต์ ที่นำละครรีนรันในส่งในผังรายการหลายช่วงเวลา ซึ่งเป็นผลดีในแง่ผลประกอบการ ส่งผลใ้ตัวเลขขาดทุนไตรมาส 2 ดีขึ้นกว่าไตรมาสแรกที่ขาดทุน 275.2 ล้านบาท 

 

นอกจากนี้ ส่วนของรายได้จากลิขสิทธิ์คอนเทนต์ละคร โดยเฉพาะการขายลิขสิทธิ์ละครให้ตลาดต่างประเทศ ทำให้ไตรมาส 2 ช่อง 3 มีรายได้จากค่าลิขสิทธิ์ 284.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.4 ล้านบาท หรือ 15.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี2562  

ดังนั้น ช่อง 3 จึงเดินหน้าขยายตลาดคอนเทนต์ในต่างประเทศต่อเนื่อง โดยล่าสุด บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ได้นำละครยอดนิยมของช่อง 3 ไปออกอากาศบนแพลตฟอร์ม VIU ภายใต้บริษัท PCCW Media Group สามารถรับชมเนื้อหาต่าง ๆ ผ่านทางอินเทอร์เน็ตในประเทศ มาเลเซีย, สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ถึง 7 เรื่อง ได้แก่ รากบุญ 2 (Evil Box), ผมอาถรรพ์ (Haunted Hair), เงินปากผี (The Ghost Money), เจ้าบ้านเจ้าเรือน (The Guardian), เพลิงพรางเทียน(Candle in the Sun), เขาวานให้หนูเป็นสายลับ (My Secret Bride) และ ตราบฟ้ามีตะวัน (My Forever Sunshine)โดยข้อตกลงครั้งนี้ เป็นการทำงานร่วมกับ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอลมีเดีย จำกัด (มหาชน) ที่เป็นตัวแทนช่อง 3 ในการเจรจาครั้งนี้

 

การนำละครทั้ง 7 เรื่อง ไปเผยแพร่บนอินเตอร์เน็ตทางแพลตฟอร์ม VIU ในครั้งนี้ จะมี 4 เรื่อง ที่เป็นละครแนวสยองขวัญ ได้แก่ รากบุญ 2, ผมอาถรรพ์, เงินปากผี และ เจ้าบ้านเจ้าเรือน โดยจะสตรีมมิ่งในเดือน ตุลาคม 2563 นำออกอากาศที่ประเทศ มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และถือเป็นครั้งแรกของการขายละครในรูปแบบแพคเกจละครแนวสยองขวัญที่ช่อง 3 ได้จำหน่ายลิขสิทธิ์ไปในต่างประเทศ เพื่อให้เข้ากับธีมฮาโลวีน ที่ VIU ได้จัดขึ้น ส่วนอีก 3 เรื่อง ได้แก่ เพลิงพรางเทียน, เขาวานให้หนูเป็นสายลับ และ “ตราบฟ้ามีตะวัน” ออกอากาศในประเทศ มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และสิงคโปร์

สำหรับละคร “ตราบฟ้ามีตะวัน” เป็นละครใหม่ของช่อง 3 ที่มีความพิเศษเพราะจะเป็นการออกอากาศในรูปแบบคู่ขนาน  (simulcast) พร้อมกับประเทศไทย โดยเฉพาะเรื่องนี้เป็นการโคจรมาเจอกันในบท พระ-นาง ครั้งแรก ระหว่างหมาก-ปริญ สุภารัตน์ และ เก้า-สุภัสสรา ธนชาต ผลงานการผลิตโดย บริษัท โซนิกซ์ บูม 2013 จำกัด

 

การนำละครขึ้นสตรีมมิ่งออนไลน์ทางแพลตฟอร์ม VIU ครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือที่จะเปิดกว้างให้ละครไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้นในต่างประเทศ รวมถึงเป็นการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ให้ประเทศไทย เป็นที่รู้จักในระดับโลกมากขึ้นอีกด้วยเช่นกัน​

 

ที่ผ่านมา ช่อง 3 ขายลิขสิทธิ์ละครเผยแพร่ที่ต่างประเทศ ในรูปแบบคู่ขนานมาแล้ว โดยผ่านช่องทาง tencent ไปยังประเทศจีน และ weTV ในตลาดไทยและต่างประเทศ