โควิด-19ยังพ่นพิษ ยอดจดทะเบียนวูบต่อเนื่อง

26 ส.ค. 2563 | 13:59 น.

วิกฤติโควิด-19 ยังพ่นพิษ ทำยอดจดทะเบียนบริษัทลดต่อเนื่อง

นางโสรดา เลิศอาภาจิตร์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงยอดการจดทะเบียนธุรกิจนิติบุคคลทั่วประเทศเดือนก.ค. 2563 โดยเป็นยอดธุรกิจจัดตั้งใหม่ 5,667 ราย เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาลดลง 12% หรือลดลง 762 ราย มีมูลค่าทุนจดทะเบียน 16,714 ล้านบาท แบ่งประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 576 ราย คิดเป็น 10%  รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 246 ราย คิดเป็น 4% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้า รวมถึงคนโดยสาร 172 ราย คิดเป็น  3%  ตามลำดับ

โควิด-19ยังพ่นพิษ  ยอดจดทะเบียนวูบต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนก.ค. 2563 จำนวน 1,261 ราย เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ลดลง 21%  หรือลดลง 333 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียน 7,668 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 90 ราย  คิดเป็น  7% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์  78 ราย คิดเป็น  6%  และธุรกิจบริการด้านอาหารในภัตตาคารร้านอาหาร 38 ราย คิดเป็น 3%  ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ส่งผลให้ยอดจดทะเบียนตั้งใหม่ 7 เดือนแรกของปี 2563 ตั้งแต่ม.ค.-ก.ค. มียอดทั้งสิ้น 39,004 ราย ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา 13%  หรือลดลง 4,885 ราย ขณะที่ยอดเลิกกิจการในช่วง 7 เดือนตั้งแต่ม.ค.-ก.ค. มียอดทั้งสิ้น 7,488 ราย ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา 9%  หรือลดลง 773 ราย ส่งผลให้ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ เดือนก.ค. 2563 ยังคงดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ 768,874 ราย มีมูลค่าทุน 18.53 ล้านล้านบาท

โควิด-19ยังพ่นพิษ  ยอดจดทะเบียนวูบต่อเนื่อง

ทั้งนี้ แม้ว่ายอดจดทะเบียนตั้งใหม่ตลอดช่วง 7 เดือนของปีนี้ ลดลงมาจากปัจจัยหลักผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทำให้การดำเนินกิจการต่าง ๆ ได้ไม่เต็มที แม้ว่าประเทศไทยจะดูแลการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี และมีการผ่อนคลายล็อกดาวน์ในกิจการต่าง ๆ มากขึ้น แต่การดำเนินธุรกิจด้านต่าง ๆ ยังอยู่ในประเทศ ทำให้การขยายกิจการยังไม่เต็มทีมากนัก และเชื่อว่าจากแนวทางการดูแลการแพร่ระบาดโควิดของไทยอยู่ในเกณฑ์ที่ดีน่าจะทำให้นักลงทุนใหม่มั่นใจจะดำเนินธุรกิจมากขึ้น จึงเชื่อว่ายอดจดทะเบียนทั้งปีน่าจะเกินกว่า 65,000 -70,000 รายได้แน่นอนถือว่าตามเป้า แต่จะน้อยกว่าปีที่แล้วที่มียอดจดทั้งปี 72,000 ราย ส่วนแนวโน้มธุรกิจที่มาจดทะเบียนเพิ่มขึ้นเป็นธุรกิจอีคอมมริ์ส จัดส่งสินค้าออนไลน์ เดลิเวอรี่ รวมทั้งกิจการที่เกี่ยวกับสุขอนามัย เช่น น้ำยาทำความสะอาด ถุงมือยาง ซึ่งเป็นการปรับตัวตามวิถีชีวิตใหม่ หรือนิว นอร์มอลในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 ” นางโสรดา กล่าว