3 โซลูชั่น สำหรับโฆษณามิติใหม่ หลังยุค COVID-19(จบ)

สำหรับ โซลูชั่น Social Creative Extension Ads โฆษณาโซเชียลที่สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย นอกเหนือจากวัตถุประสงค์เดิม คือ การปรับให้เข้ากับ Website Content ต่างๆ ได้

แมทเทอะไคนด์ X Polar Tech Platform นำเสนอโซลูชั่นโฆษณารูปแบบใหม่ที่สามารถบูสท์หน้าฟีดของโซเชียล มีเดีย จาก Facebook, Instagram, YouTube, Twitter, TikTok และโซเชียล มีเดีย อื่นๆ มานำเสนอเป็นเนื้อหาสำหรับเว็บไซต์ที่เปิดได้บนสมาร์ทโฟน (Mobile Web Content) ผ่านโปรแกรมการจัดการอัตโนมัติ โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมายเป็นอันดับแรก (Audience-First Programmatic) ภายใต้ชื่อ “Social CreativeExtension Ads” รายแรกของโลก*

Social Creative Extension Ads เป็นโซลูชั่นที่ใช้งานง่าย ด้วยหลักการนำเสนองานโฆษณา ที่ไม่จำเป็นต้องสร้างชิ้นงานโฆษณาเพิ่ม แต่เป็นการแสดงจุดประสงค์ของโพสต์อีกครั้ง (Repurpose) บน Social Media Feed ที่สามารถแสดงได้ดีบนแพลตฟอร์มโซเชียล มีเดียอื่นๆ รวมทั้งการทำแคมเปญบนพื้นที่โฆษณา ด้วยโปรแกรมการจัดการอัตโนมัติ (Programmatic Inventory) โดย Social Creative Extension Ads จาก แมทเทอะไคนด์ ยังสามารถเข้าถึงประสบการณ์ออนไลน์ของผู้บริโภคได้กว้างกว่าช่องทางโซเชียล มีเดียที่ใช้อยู่เดิม รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพของชิ้นงานโฆษณาได้ดีกว่าสื่อโฆษณาบนหน้าจอปกติ (Display Ads) ถึง 6 เท่า ซึ่งโซลูชั่นนี้สามารถสร้างความสามารถในการเห็นโฆษณา (Ads Viewability) ได้ดีกว่าโฆษณาบน Social Media Feed ของ Facebook ถึง 4 เท่า และได้อัตราการมีส่วนร่วมของโฆษณาจากผู้ชม (Ad Engagement) ที่สูงกว่า Display Ads ปกติถึง 5 เท่า

ที่มา: *https://polar.me/news/ipgcadreon

โซลูชั่น Addressable Content Engine หรือ Dynamic Creative Ads เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายด้วยเนื้อหาโดนใจ ตรงจุด และสร้างสรรค์จากชุดข้อมูลเชิงลึก

แมทเทอะไคนด์ร่วมกับ Ensemble (เอ็นเซ็มเบิล) คอนเทนต์เอเยนซีรวมถึงมีเดียเอเยนซีอย่าง Initiative (อินิชิเอทีฟ) และ UM (ยูเอ็ม) ในเครือไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ได้นำเสนอโซลูชั่นที่ผสมผสานการทำงานเพื่อรูปแบบการโฆษณาที่ลงตัวและสร้างสรรค์ (Dynamic Creative Ads) ทั้งในเรื่องกลยุทธ์ ความคิดสร้างสรรค์ การออกแบบถ่ายทำ องค์ประกอบของโฆษณา การจัดการเงื่อนไขของโฆษณา และการยิงโฆษณาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มสนใจโฆษณานั้นอย่างครบวงจรในที่เดียว

โดยจะเปลี่ยนข้อมูลและจัดการให้เป็นชุดข้อมูลเชิงลึกเพื่อสร้างเนื้อหาเฉพาะที่เหมาะสมในการสื่อสารวงกว้างผ่านเครื่องมือเฉพาะ(Campaign Addressable Content Engine) ซึ่งจะสามารถช่วยลดค่าการผลิตโฆษณา (Production Saving) ได้มากกว่าแคมเปญปกติ ถึง 80-90% สามารถเข้าถึงประสบการณ์ออนไลน์ของผู้บริโภคเพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อได้ดีกว่า และโซลูชั่นนี้ได้รับการยืนยันจากแคมเปญที่เคยนำเสนออยู่ทั้งในและต่างประเทศแล้วว่า สามารถลดต้นทุนการทำงานด้านการสื่อสารการตลาดได้มากถึง 66% จากการทำงานกับครีเอทีฟเอเยนซีในรูปแบบเดิม

ทั้ง 3 โซลูชั่นใหม่นี้ ทางแมทเทอะไคนด์ ประเทศไทยมั่นใจเป็นอย่างยิ่งจากประสบการณ์และผลงานที่ผ่านมาว่าจะสามารถสร้างประสิทธิผล (Effectiveness) ให้เกิดขึ้นกับลูกค้าของ ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ได้อย่างดีเยี่ยมบนทั้ง 3 จุดประสงค์หลักของนักสื่อสารการตลาด โดยผู้ที่สนใจสามารถติดต่อผ่านทีมลูกค้าสัมพันธ์ของ ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย 

หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,592 วันที่ 16 - 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2563