เอเปกออกแถลงการณ์ จี้สมาชิกเร่งฟื้นศก.

11 พ.ค. 2563 | 12:15 น.
อัปเดตล่าสุด :14 พ.ค. 2563 | 17:50 น.

รัฐมนตรีการค้าเอเปกออกแถลงการณ์ รับมือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ย้ำให้ความสำคัญกับการเปิดตลาด อำนวยความสะดวกและลดอุปสรรคทางการค้าสำหรับสินค้าที่จำเป็นต้องใช้สู้ ทั้งยา อุปกรณ์ทางการแพทย์ เกษตร อาหาร พร้อมขอให้ใช้มาตรการฉุกเฉินที่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการค้า เน้นการช่วยเหลือธุรกิจและแรงงานที่ได้รับผลกระทบ

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2563 ที่ผ่านมา รัฐมนตรีการค้าเอเปกได้ออกแถลงการณ์เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 โดยได้แสดงเจตนารมณ์ร่วมกัน ซึ่งให้ความสำคัญกับการเปิดตลาดด้านการค้าและการลงทุนที่เสรี เป็นธรรม โปร่งใส และมีเสถียรภาพ เน้นสนับสนุนการอำนวยความสะดวกการเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนของสินค้าและบริการที่จำเป็น เพื่อต่อสู้กับโควิด-19 โดยเฉพาะยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ สินค้าเกษตร สินค้าอาหาร และอุปกรณ์ที่จำเป็น รวมทั้งการรักษาความเชื่อมโยงทางการค้า และอำนวยความสะดวกการเคลื่อนย้ายบุคลากรข้ามพรมแดน พร้อมทั้งใช้มาตรการฉุกเฉินชั่วคราวที่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการค้า และต้องสอดคล้องกับกฎเกณฑ์องค์การการค้าโลก (WTO)

 

เอเปกออกแถลงการณ์  จี้สมาชิกเร่งฟื้นศก.



โดยแถลงการณ์ดังกล่าว ยังสนับสนุนให้มีมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจและแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รวมทั้งสนับสนุนให้สมาชิกเอเปกเร่งจัดทำแนวทางความร่วมมือ เพื่อรวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลมาตรการต่างๆ ที่สมาชิกใช้ในการรับมือกับโควิด-19 เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวโดยเร็ว รวมถึงสร้างความร่วมมือที่เข้มแข็งในเวทีระหว่างประเทศ กับภาคเอกชน และภาควิชาการ และให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงในภูมิภาค เพื่อให้ห่วงโซ่การผลิตโลกมีความยืดหยุ่นและไม่ได้รับผลกระทบที่รุนแรง เน้นใช้ประโยชน์จากดิจิทัลและเทคโนโลยี และการแก้ปัญหาแบบอัจฉริยะในการบรรเทาผลกระทบ
 

“การที่สมาชิกเอเปกออกแถลงการณ์ครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกันฟื้นฟูเศรษฐกิจการค้าของภูมิภาค ซึ่งนำไปสู่แนวปฏิบัติที่ดีในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในการรับมือโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการทำงานของเอเปก เน้นการสร้างความร่วมมือ เพื่ออำนวยความสะดวกและลดอุปสรรคทางการค้า รวมถึงการรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง พร้อมทั้งส่งเสริมให้วิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม รายย่อย และสตรี เข้ามามีส่วนร่วมในห่วงโซ่การผลิตโลก เพื่อก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกอยู่แล้ว”นายวีรศักดิ์กล่าว

 

ทั้งนี้ เอเปกเป็นกรอบความร่วมมือของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ประกอบด้วยสมาชิก 21 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย บรูไนดารุสซาลาม แคนาดา ชิลี จีน จีนฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ ปาปัวนิวกินี เปรู ฟิลิปปินส์ รัสเซีย สิงคโปร์ จีนไทเป ไทย สหรัฐฯ และเวียดนาม โดยสมาชิกเอเปกเป็นคู่ค้าที่สำคัญของไทย ในปี 2562 การค้าของไทยกับเอเปกมีมูลค่า 338,242 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนถึง 70.5% ของการค้ารวมของไทย เป็นการส่งออกจากไทยไปเอเปก 171,320 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าจากเอเปก 166,921 ล้านดอลลาร์สหรัฐ