ตรวจสอบสถานะเกษตรกรง่ายเพียงคลิกเดียว

“ฐานเศรษฐกิจ” ยังคงเกาะติดการขึ้นทะเบียนเกษตรกร อย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามว่าเกษตรกรจะได้รับการช่วยเหลือจากการแพร่ระบาดโรคไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 หรือไม่ เนื่องจากไวรัสดังกล่าวได้ส่งผลกับทุกอาชีพเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้าทำให้ขาดรายได้เพื่อนำไปเลี้ยงครอบครัว ดังนั้นใครเป็นเกษตรกร ตรวจสอบสิทธิ์ เพื่อรับเงินเยียวยาได้ในอนาคต ง่ายนิดเดียว

กรมส่งเสริมสหกรณ์ ปัจจุบันได้มีการขึ้นทะเบียนเกษตรกรปี 2563 จำนวน 7,522,003 ครัวเรือน ข้อมูล ณ วันที่ 15 เมษายน 2563  การตรวจสอบสิทธิ์เพียงใส่เลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ง่าย กดคลิกที่นี่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

ที่เดียวจบ ตรวจสอบ-แก้ไข-ยกเลิก"สถานะเกษตรกร"

จัดระเบียบ'ทะเบียนเกษตรกร'รับเงินเยียวยา

ส่วนการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) มีการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ก่อนวันที่ 1 เมษายน 2563 จำนวน  1,723,917 คน พื้นที่สวนยางกรีดได้ 19,400,970 ไร่ เพียงใส่เลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก กดคลิกที่นี่ 

ขณะที่กรมประมงสามารถตรวจสอบสถานะการขึ้นทะเบียนได้ที่สำนักงานประมงอำเภอ / จังหวัด ในพื้นที่ใกล้บ้าน เช่นเดียวกับกรมปศุสัตว์สามารถตรวจสอบสถานะการขึ้นทะเบียนได้ที่ปศุสัตว์จังหวัดนั้นๆ

ทั้งนี้คนทั่วไปก็สามารถใส่หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อตรวจสอบว่าอยู่ในบัญชีเกษตรกรหรือไม่ รวมทั้งผู้ที่เคยลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยา 5,000 บาทที่ www.เราไม่ทิ้งกัน.com และ "ถูกตัดสิทธิ์" เพราะมี "อาชีพเกษตรกร" ก็สามารถเข้าไปตรวจสอบได้เช่นกัน

ด้านนายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ตามที่ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สั่งการให้เร่งปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรรายเดิมและขึ้นทะเบียนเกษตรกรรายใหม่ เพื่อเป็นการลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 ตามนโยบายการเว้นระยะห่างทางสังคมของรัฐบาล กรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้กำหนดแนวทางการปรับปรุงทะเบียนและขึ้นทะเบียนเกษตรกร ปี 2563 เพื่อให้เกษตรกรได้รับความสะดวก รวดเร็ว ลดการเดินทางมาติดต่อที่สำนักงานเกษตรอำเภอ ดังนี้

1) กรณีเป็นเกษตรกรที่ไม่เคยขึ้นทะเบียนเกษตรกร (เกษตรกรรายใหม่ แปลงใหม่) หรือเป็นเกษตรกรที่เคยขึ้นทะเบียนเกษตรกรแล้ว แต่ต้องการเพิ่มเติมข้อมูลพื้นที่ปลูกแปลงใหม่ (เกษตรกรรายเดิม แปลงใหม่) เมื่อเกษตรกรทำการปลูกพืชแล้ว 15 วัน สามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้ที่บ้าน ด้วยการกรอกแบบฟอร์มการขึ้นทะเบียนเกษตรกร (ทบก.01) ให้ชัดเจนอ่านง่าย แนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาเอกสารแสดงสิทธิการถือครองที่ดิน พร้อมลงวันที่กรอกแบบฟอร์ม ทบก.01 ซึ่งแบบฟอร์มดังกล่าวสามารถดาวน์โหลดได้ที่ farmer.doae.go.th หรือขอรับได้ที่ผู้นำชุมชน แล้วนำเอกสารทั้งหมดส่งให้กับผู้นำชุมชนรวบรวมจัดส่งให้เจ้าหน้าส่งเสริมการเกษตร เพื่อดำเนินการบันทึกเข้าในระบบทะเบียนเกษตรกร และลงพื้นที่ตรวจสอบแปลงปลูกอีกครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่อาจขอหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติมได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม

2) สำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรแล้ว และต้องการจะปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร (เกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม) ขอให้ดำเนินการปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรผ่านทางแอปพลิเคชั่น Farmbook เท่านั้น โดยใช้รหัสทะเบียนเกษตรซึ่งระบุอยู่ในทะเบียนเกษตรกรลงชื่อเข้าใจงานแอปฯ  ซึ่งการปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร คือ การแจ้งปลูกพืชทุกฤดูเพาะปลูก หลังจากปลูกพืชชนิดนั้นๆ แล้ว 15 วัน กรณีข้าว/พืชไร่ หรือกรณีพืชอายุสั้น หรือแจ้งปรับปรุงเป็นประจำทุกปีกรณีไม้ผล/ พืชยืนต้น อีกทั้งเกษตรกรหัวหน้าครัวเรือน สามารถแก้ไขปรับปรุงข้อมูลส่วนของสมาชิกครัวเรือนเกษตรกรที่เคยแจ้งไว้ตอนขึ้นทะเบียน แต่ไม่สามารถเพิ่มสมาชิกในครัวเรือนผ่านแอปพลิเคชั่น Farmbook ได้

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวย้ำว่า แอปพลิเคชั่น Farmbook สามารถใช้ได้กับเกษตรกรรายเดิม-แปลงเดิมที่ต้องการปรับปรุง/ แจ้งข้อมูลการปลูกพืชและปรับปรุงข้อมูลส่วนของสมาชิกครัวเรือนเกษตรกรเท่านั้น ซึ่งการใช้แอปพลิเคชั่น Farmbook และการขึ้นทะเบียนเกษตรกรจากที่บ้านโดยผ่านการรวมรวมแบบ ทบก.01ของผู้นำชุมชน ส่งให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอ จะช่วยให้เกษตรกรได้รับความสะดวก ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาติดต่อราชการที่สำนักงานเกษตรอำเภอ รวมทั้งยังลดการเดินทางมารวมตัวกันด้วย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรศัพท์สอบถามได้ที่สำนักงานเกษตรจังหวัดและสำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน ในวันและเวลาราชการ

อัพเดท ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2563 มีรายานว่า คณะกรรมการกำกับดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโค วิด 19  ที่มีนายประสงค์ พูนธเนศ  ปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานเห็นชอบมาตรการเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตามทะเบียนเกษตรกรจำนวน 9 ล้านครัวเรือน ครัวเรือนละ 15,000 บาท โดยจ่ายแบบครั้งเดียวจบ 

สำหรับเกษตรกรกรที่จะได้รับเงินเยียวยาครั้งนี้ จะต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้กับกรมวิชาการ กระทรวงเกษตรและสหรรณ์  และตรวจสอบกับฐานข้อมูลของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรหรือ ธ.ก.ส. ซึ่งสามารถลงทะเบียนเกษตรกรได้ที่แอปพลิเคชั่น Farmbook