ค่ายรถญี่ปุ่นในไทยลุ้นร่วมวง CPTPP

12 ม.ค. 2563 | 16:26 น.
5.0 k

ญี่ปุ่นรับหน้าเสื่อ ดันไทยร่วมวงสมาชิกทีพีพี ชี้ผลประโยชน์ต่างตอบแทน ได้ช่วยค่ายรถแดนปลาดิบในไทยขยายตลาดส่งออก พร้อมดึงเม็ดเงินลงทุนค่ายรถยนต์เข้าไทยได้อีกระลอก

 

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(ทูตพาณิชย์) ณ กรุงโตเกียว รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมพิจารณาขยายขอบเขตการค้าเสรีเพิ่มขึ้นโดยมีญี่ปุ่นเป็นศูนย์กลางทั้งในข้อตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) และการหาข้อสรุปในการร่วมลงนามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค(RCEP/อาร์เซ็ป) ซึ่งคาดว่าจะก่อให้เกิด synergy ระหว่างกันได้โดยรัฐบาลญี่ปุ่นจะทำหน้าที่เป็นผู้นำในการเจรจาหาข้อสรุป RCEP (อาร์เซ็ป)ต่อไป

 สำหรับประเทศไทยซึ่งแสดงความประสงค์เข้าร่วมเป็นสมาชิก CPTPP นั้น ญี่ปุ่นเตรียมตั้งคณะกรรมการเพื่อ หารือ และพิจารณาถึงประเด็นดังกล่าว หากประเทศไทยเข้าร่วมกลุ่มสมาชิก CPTPP คาดว่าจะส่งผลเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่นในอนาคต เนื่องจากญี่ปุ่นมีฐานการผลิตรถยนต์ในไทยจำนวนมากก ซึ่งค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นมีส่วนแบ่งการผลิตถึงราวร้อยละ 70  ของกำลังการผลิตรถยนต์ทุกประเภทในไทย การส่งออกสินค้าต่าง ๆรวมถึงรถยนต์ไปยังกลุ่มประเทศในข้อตกลง CPTPP โดยได้รับการยกเว้นภาษีนั้นมีเงื่อนไขคือต้องเป็นสินค้ำที่ใช้วัตถุดิบหรือ ผลิตในกลุ่มประเทศสมาชิก ส่งผลให้รถยนต์ค่ายญี่ปุ่นที่ผลิตในไทยสามารถส่งออกไปยังประเทศสมาชิกในกลุ่ม CPTPP ได้โดยไม่ถูกเก็บภาษีศุลกากร

ค่ายรถญี่ปุ่นในไทยลุ้นร่วมวง CPTPP

 ในอนาคตญี่ปุ่นคาดหวังให้สหรัฐฯกลับเข้ามาร่วมในกลุ่ม CPTPP อีกครั้งเพื่อใช้ประโยชน์จากการยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้ารถยนต์ดังกล่าวในการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ

 

ค่ายรถญี่ปุ่นในไทยลุ้นร่วมวง CPTPP

ต่อเรื่อง CPTPP นี้ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียววิเคราะห์ว่า หากประเทศไทยเข้าร่วมเป็นประเทศสมาชิกใน CPTPP คาดจะช่วยกระตุ้นยอดส่งออกสินค้ายานยนต์ รวมถึงเม็ดเงินลงทุนจากธุรกิจยานยนต์ต่างประเทศในไทยมากขึ้นในระยะยาว นอกจากนี้ข้อได้เปรียบยกเว้นภาษี การค้าระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกจะช่วยลดต้นทุนของผู้ประกอบการไทยในการนำเข้าวัตถุดิบ ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพของสินค้าไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก อีกทั้งยังช่วยผลักดันให้เกิดการพัฒนาการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการนำวัตถุดิบต่างๆ มาเข้ากระบวนการผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูป(finished product) ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมรมที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค่าที่ผลิตในไทยมากกว่าการเป็นเพียงแหล่งส่งออกวัตถุดิบเท่านั้น

จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร การค้าไทยกับกลุ่ม CPTPP (มี 11 ประเทศ ประกอบด้วย ญี่ปุ่น แคนาดา เม็กซิโก เปรู ชิลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ มาเลเซีย บรูไน และเวียดนาม) ช่วง 11 เดือนแรกปี 2563 มีมูลค่าการค้ารวม  4.04 ล้านล้านบาท(สัดส่วน 30% การค้าไทยกับโลก) โดยไทยส่งออก 2.01 ล้านล้านบาท นำเข้า 1.93 ล้านล้านบาท ไทยเกินดุลการค้า 1.67 แสนล้านบาท สินค้าส่งออก 5 อันดับแรกของไทยไปยังกลุ่ม CPTPP ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ, เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ, น้ำมันสำเร็จรูป, อัญมณีและเครื่องประดับ และเม็ดพลาสติก