ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังส่อเค้าล่มการจัดประชุมของผู้ผลิตน้ำมันดิบกลุ่มโอเปกและรัฐเซีย

11 มี.ค. 2559 | 09:50 น.
อัปเดตล่าสุด :11 มี.ค. 2559 | 16:47 น.
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 11มีนาคม 2559

+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังการเตรียมจัดประชุมของผู้ผลิตน้ำมันดิบกลุ่มโอเปกและรัสเซียเกี่ยวกับการวางแผนคงกำลังการผลิตเท่ากับเดือน ม.ค. 59 เพื่อที่จะหามาตรการในการรักษาเสถียรภาพด้านราคาในวันที่ 20  มี.ค. 59 ที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย มีแนวโน้มไม่สำเร็จ เนื่องจาก ประเทศอิหร่านซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มโอเปกไม่ให้ความร่วมมือ โดยออกมายืนกรานว่าอิหร่านจะเข้าร่วมการประชุมก็ต่อเมื่อได้รับส่วนแบ่งทางการตลาดจากการผลิตน น้ำมันดิบกลับคืนมาให้เท่ากับที่เคยผลิตก่อนโดนมาตรการคว่ำบาตรจากประเทศมหาอำนาจในยุโรป

+ นอกจากนี้ ประเทศคูเวตยังแสดงท่าทีไม่ให้ความร่วมมือในการประชุมครั้งนี้อีกด้วย โดยประกาศว่าคูเวตจะเข้าร่วมก็ต่อเมื่อประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่รวมทั้งอิหร่านตกลงที่จะช่วยกันหามาตรการในการรักษาเสถียรภาพด้านราคาร่วมกัน

+ อุปทานน้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับสูง เนื่องจากในขณะนี้โรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งในสหรัฐฯ เริ่มเข้าสู่ช่วงปิดซ่อมบำรุง ส่งผลให้ปริมาณ น้ำมันดิบคงคลังในสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น

+ อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จัดการประชุมนโยบายการเงินเพื่อหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยที่ประชุมมีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 0.05% ก่อนหน้านี้ ประกอบกับ มีการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB สู่ระดับ -0.4% จากเดิมที่-0.3% นอกจากนี้ ECB ยังได้ประกาศเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) สู่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน จากเดิมที่ 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนี้ จะช่วยเพิ่มการฟื้นตัวทางเศรษฐกจิของยุโรป และช่วงเร่ง ให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายของ ECB ที่ระดับใกล้2%

+ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงไปอยู่ที่ระดับ 259,000 ราย จากก่อนหน้านี้ที่ระดับ 278,000 ราย ซึ่งสร้างความมั่นใจต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต่อความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน น้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากการปรับตัวลดลงของปริมาณ น้ำมันเบนซินคงคลังในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือน ม.ค. 59 นอกจากนี้ ยังจะมีการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นน้ำมันในเกาหลีใต้และไต้หวัน รวมทั้งยังมีอุปสงค์เพิ่มเติมจากตะวันออกกลางอีกด้วย

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานในภูมิภาคยังคงล้นตลาด อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดีเซลยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์เพิ่มเติมจากประเทศเวียดนาม ศรีลังกา และอินเดียไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 34-40 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมัน ดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 36-42 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

ติดตามการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในวันที่ 15-16 มี.ค. นี้ โดยตลาดคาดการณ์ว่าFed จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและมีแนวโน้มที่จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมที่ 0.25 - 0.5%

ติดตามการประชุมนัดพิเศษระหว่างผู้ผลิตน น้ำมันดิบในและนอกกลุ่มโอเปก

ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 มี.ค.และ 1 เม.ย.นี้ เพื่อหามาตรการในรักษาเสถียรภาพราคาของราคาน น้ำมันดิบ ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวยังคงมีความไม่แน่นอนสูง และยังไม่สามารถหาข้อสรุปเกี่ยวกับสถานที่และเวลาได้

จับตาปริมาณการส่งออกน น้ำมันดิบของอิรักทางตอนเหนือคาดจะกลับมาเพิ่มขึ้นในเร็วๆ นี้ หลังตุรกีเพิ่มกำลังทางทหารเพื่อรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม ส่งผลให้การซ่อมแซมท่อขนส่งน้ำมันดิบกว่า 600,000 บาร์เรลต่อวันอาจจะเปิดดำเนินการได้ในเร็วๆนี้