"เอไอ ไทยแลนด์" แตกไลน์ธุรกิจ! ตั้ง "คาแรคเตอร์ ช้อบ แอนด์ คาเฟ่" ต่อยอดการ์ตูนดัง

"เอไอ ไทยแลนด์" รุกหนักแตกไลน์ ตั้งบริษัท "คาแรคเตอร์ ช้อบ แอนด์ คาเฟ่" ต่อยอดธุรกิจ หลังประสบความสำเร็จจากคาแรกเตอร์การ์ตูนสู่แบรนด์สินค้า เล็งสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ส่งขายทั่วโลก ตั้งเป้าเติบโต 10%

คาแรกเตอร์การ์ตูนดัง ๆ ล้วนมีอิทธิพลต่อคนไทย วันนี้จึงมีคาแรกเตอร์การ์ตูนเกิดขึ้นมากมายและโลดแล่นในทุก ๆ ช่องทาง รวมถึงการพัฒนาเป็นสินค้าให้จับต้องได้ หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ 'คิตตี้' ที่กลายเป็นขวัญใจและถูกนำไปต่อยอดในสินค้าต่าง ๆ ไม่ใช่เพียงแค่ตุ๊กตา เสื้อผ้า รองเท้า แต่ยังรวมไปถึงเครื่องสำอางและของใช้ส่วนตัว เช่นเดียวกับ "เอไอ ไทยแลนด์" ผู้ถือลิขสิทธิ์โดราเอมอนในประเทศไทยมายาวนาน ล่าสุด ลุกขึ้นขยับตัวครั้งใหญ่ในการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ โดยมีโดราเอมอนเป็นคาแรกเตอร์สำคัญ

นายธวัช อิมราพร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท คาแรคเตอร์ ช้อบ แอนด์ คาเฟ่ จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ล่าสุด บริษัท แอนนิเมชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เอไอ ไทยแลนด์ ผู้ดูแลลิขสิทธิ์โดราเอมอนในประเทศไทย ได้ขยายไลน์ธุรกิจ โดยการตั้ง "บริษัท คาแรคเตอร์ ช้อบ แอนด์ คาเฟ่ จำกัด" ขึ้น เพื่อวางแผนจับกลุ่มธุรกิจรีเทล รวมทั้งการพัฒนาคาแรกเตอร์การ์ตูนไปสู่การเป็นแบรนด์เต็มรูปแบบ ซึ่งในอนาคตจะเห็นการ์ตูนต่าง ๆ โดยเฉพาะโดราเอมอน อยู่ในสินค้าหลากหลายกลุ่มประเภทมากขึ้น รวมถึงการเห็นรูปแบบร้านค้าประเภทต่าง ๆ

 

[caption id="attachment_369956" align="aligncenter" width="388"] ธวัช อิมราพร[/caption]

"ปัจจุบัน ผมดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาให้กับ "เอไอ ไทยแลนด์" และมาดูแลบริหารที่ บริษัท คาแรคเตอร์ ช้อบ แอนด์ คาเฟ่ฯ เต็มตัว โดย "เอไอ ไทยแลนด์" จะทำหน้าที่เป็นผู้บริหารลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์การ์ตูนให้กับคู่ค้า พร้อมพัฒนาสินค้าต่าง ๆ ให้มีคุณภาพมากขึ้น ขณะที่ "คาแรคเตอร์ ช้อบ แอนด์ คาเฟ่" จะเป็นองค์กรที่ดูแลเรื่องการสร้างแบรนด์รีเทล หรือ ร้านค้ารูปแบบต่าง ๆ เช่น ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ไลฟ์สไตล์ช็อป ฯลฯ ซึ่งในปีนี้อาจจะเห็นโมเดลร้านค้าแบรนด์การ์ตูนเกิดขึ้น 1 แห่ง โดยคาดหวังจะเป็นโมเดลแฟรนไชส์ สามารถขายได้ทั่วโลก และเริ่มนำร่องสาขาแรกที่ประเทศไทย ขณะที่ ในด้านพาร์ตเนอร์ บริษัทกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา"




ขณะเดียวกัน บริษัทยังมุ่งเน้นการสร้างธุรกิจให้อยู่อย่างยั่งยืน จากเดิมที่เคยเน้นการบริหารสิทธิ์คาแรกเตอร์การ์ตูน ซึ่งในปัจจุบัน "เอไอ ไทยแลนด์" เป็นผู้ดูแลลิขสิทธิ์การ์ตูนต่าง ๆ ได้แก่ โดราเอมอน, บาร์บี้, ชินจังฮอทวีล, Thomas & Friends และอื่น ๆ โดยบริษัทจะเน้นการ์ตูนรูปแบบที่มีศักยภาพและสามารถเชื่อมโยงไปกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้หลากหลาย อีกทั้งบริษัทพยายามมุ่งเน้นส่งเสริมคู่ค้าธุรกิจให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้าให้สอดคล้องไปกับบริษัท รวมถึงการปรับภาพจากการเป็นแค่คาแรกเตอร์การ์ตูนไปสู่การเป็นแบรนด์ และต่อยอดจากแบรนด์ไปสู่รูปแบบธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน

นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา เอไอ ไทยแลนด์ ได้ร่วมกับ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) นำแบรนด์การ์ตูน Thomas & Friends เข้าไปเชื่อมโยงกับสินค้าไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค คือ รถไฟ Thomas & Friends โดยจัดทำรถไฟ Thomas & Friends วิ่งในศูนย์การค้าทุกสาขา ซึ่งปัจจุบันมีรถไฟ Thomas & Friends แล้วจำนวนกว่า 10 สาขา




ด้านภาพรวมของธุรกิจลิขสิทธิ์การ์ตูน ปัจจุบันยังคงปกติ ไม่รุนแรง แต่อาจจะได้รับผลกระทบเรื่องของปัจจัยทางการเมืองหรือเศรษฐกิจบ้าง เนื่องจากบริษัทต้องทำธุรกิจร่วมกับคู่ค้าหลากหลายประเภท ซึ่งบางรายจะต้องดำเนินการส่งออกสินค้า และปัญหาข้างต้น ทำให้คู่ค้าบางรายไม่สามารถส่งออกสินค้าได้และส่งผลให้ธุรกิจคู่ค้าบางรายชะลอลง ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า หลังจากมีการเลือกตั้งจะทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ ดีขึ้น ทั้งนี้ ในแง่ภาพรวมของบริษัท จากปัญหาข้างต้นส่งผลให้บริษัทมีรายได้สิ้นปีนี้เติบโต 10% จากในอดีตเติบโตเฉลี่ยปีละ 20%

"ปัจจุบัน โดราเอมอนถือเป็นดาราการ์ตูนยอดนิยมและเป็นการ์ตูนอมตะในประเทศไทย ที่สามารถสร้างยอดขายลิขสิทธิ์ได้สูงสุดและสามารถพัฒนาใช้กับทุกธุรกิจได้อย่างดี เพราะคนไทยทุกเพศทุกวัยต่างชื่นชอบ ซึ่งกลุ่มธุรกิจที่เลือกใช้ในปัจจุบัน ประกอบด้วย เสื้อผ้า รองเท้า ของเล่น กิฟต์ช็อป อุปกรณ์และของใช้ในบ้าน และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงแคมเปญโปรโมชันที่เราได้เห็นกันผ่านช่องทางของสื่อต่าง ๆ"

หน้า 30 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,433 ระหว่างวันที่ 6-9 มกราคม 2562