รัฐบาลเลหลังขาย "เรือประมง" ออกต่างประเทศ!!

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงมาตรการนำเรือประมงได้รับผลกระทบจาการปฏิบัติตามกฎหมายสากลเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายการทำประมงระหว่างประเทศนั้น ว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้มีการดำเนินการกับกลุ่มเรือดังกล่าวที่แจ้งความประสงค์มาจำนวนมาประมาณ 70 ลำ ที่ต้องการขายให้กับต่างประเทศ ล่าสุด มีประเทศที่สนใจที่แสดงความจำนงต้องการที่จะซื้อเรือ อาทิ กัมพูชา เมียนมา บังกลาเทศ และมาเลเซีย เป็นต้น มองว่าจะช่วยเป็นการลดงบประมาณของภาครัฐ คาดว่าจะนำเรือออกนอกระบบอย่างเป็นธรรม และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายและจะเกิดการบูรณาการการแก้ไขกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เป็นจิตอาสาร่วมกันของการทำงานกับชาวประมงและภาครัฐ และภาพรวมการดูแลการการประมูลจะมีความยั่งยืนมากขึ้น จนสามารถบรรลุแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (ไอยูยู)




"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 (กขป.5) (วันที่ 6 ธ.ค. 2561) ได้เน้นย้ำให้อนุกรรมการรวบรวมจำนวนเรือที่ต้องการออกนอกระบบที่ผ่านคุณสมบัติของเกณฑ์ที่กำหนด มาวิเคราะห์เพื่อให้ได้ข้อเสนอที่ดีที่สุดในการช่วยเหลือชาวประมงรายย่อยเป็นอันดับแรก ภายใต้เงื่อนไขความเท่าเทียมกัน โดยจะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 คณะ เพื่ออำนวยความสะดวกฝากดันการขายเรือให้กับต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม จะส่งสำรวจใหม่อีกรอบ เพื่อที่จะได้ตัวเลขที่ชัดเจนว่าผู้ประกอบการใดสนที่จะขายเรือ"




สอดคล้องกับ นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เผยว่า เรือดังกล่าวนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเรือประมงนอกน่านน้ำ ซึ่งอยู่ในสภาพที่ดีมาก และตลาดต่างประเทศต้องการ รัฐบาลจะอำนวยความสะดวกการซื้อขายตกลงเรื่องราคาและภาษีต่าง ๆ เชื่อว่าจะเป็นธรรมทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย

อนึ่ง ประเทศไทยได้รับใบเหลืองจากสหภาพยุโรป (อียู) เมื่อเดือน เม.ย. 2558 จากปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม (IUU) หน่วยงานต่าง ๆ ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีการแก้ปัญหาอย่างเข้มข้น ทั้งจัดระเบียบกองเรือประมงใหม่ ผ่านกฎหมายกฎกระทรวงกว่า 300 ฉบับ ในช่วงกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ได้รับคำชื่นชมจากนานาประเทศ