Play
‘ไฮเนเก้น’อัดแคมเปญเจาะคอเบียร์
ไฮเนเก้นรุกโค้งท้าย ชูกลยุทธ์ “ไฟว์สตาร์ มิวสิค เอ็กซ์พีเรียนซ์” เจาะตลาดเบียร์กว่า 1.4 แสนล้านบาท ยํ้าแชมป์ผู้นำเซ็กเมนต์พรีเมียมด้วยส่วนแบ่งตลาดกว่า 88.3%
นายเศรษฐวุฒิ จิวังกูร ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ไฮเนเก้น กลุ่มบริษัททีเอพีฯ เปิดเผยว่า ปีนี้นับว่าเป็นปีที่แบรนด์ไฮเนเก้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ภายใต้กลยุทธ์ “ไฟว์สตาร์ มิวสิค เอ็กซ์พีเรียนซ์” ที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายพร้อมสร้างการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค โดยในแต่ละเทศกาลดนตรีที่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมและสนับสนุนสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายเฉลี่ยได้มากถึง 3-5 ล้านคนต่อการรับรู้ในกิจกรรมทางด้านออนไลน์ และภาพรวมตลอดทั้งปีคาดว่าจะเข้าถึงคนได้ประมาณ 13.7 ล้านคน
[caption id="attachment_330166" align="aligncenter" width="303"]
เศรษฐวุฒิ จิวังกูร[/caption]
โดยในไตรมาส 4 ปีนี้ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซัน บริษัทเตรียมเปิดตัวแคมเปญส่งท้ายปีภายใต้กลยุทธ์ มิวสิก มาร์เก็ตติ้งกับคอนเสิร์ต Sam Smith: The Thrill of It All Tour ด้วยกิจกรรมออนไลน์ “Name Sam’s Songs” เพื่อสร้างการรับรู้และสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค ขณะที่ในปีหน้าบริษัทได้วางเป้าหมายในการทำหน้าที่เป็น MusicMarketing Expertise ที่มีความเข้าใจในองค์ประกอบทางดนตรีที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงเทรนด์ของตลาด และความต้องการของผู้บริโภคด้วยการสานต่อกลยุทธ์ Ultimate Music Experience เพื่อที่จะสร้าง สรรค์รูปแบบกิจกรรมทางดนตรีให้เหมาะกับกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย และสอดคล้องกับตำแหน่งของแบรนด์สินค้าที่ไฮเนเก้นเป็นผู้นำในตลาดเบียร์พรีเมียมอีกด้วย โดยตอกยํ้าแบรนด์ดีเอ็นเอ ที่มีความเป็นสากลโดดเด่นแบบไม่มีใครเคยทำมาก่อน เพื่อยํ้าความเป็น Global Standard in Music Platform ต่อไป
“พฤติกรรมการฟังเพลงของผู้บริโภคไม่ได้ต่างไปจากเดิม แต่จะมีทางเลือกของงานดนตรี ศิลปินรวมไปถึงรูปแบบของกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไป และสิ่งที่ผู้บริโภคมองหา คือ ความสะดวกสบายและความคุ้มค่าในประสบการณ์ที่แตกต่างของดนตรี ดังนั้นบริษัทจึงได้วางกลยุทธ์ในการสร้างสรรค์แนวทางในการมัดใจกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายในกลุ่ม Gen M ที่คิดเป็นสัดส่วน 11.4% ของประชากร ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลในการขับเคลื่อนเป้าหมายทางการตลาดของไฮเนเก้น มีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยี ปรับตัวเข้ากับสิ่งรอบข้างใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว รับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่หมุนเร็วได้ดี โดยจะให้ความสำคัญในการสื่อสารแบรนด์ผ่าน Brand experience,Co-creation และออนไลน์มีเดียที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสารในแต่ละแคมเปญ โดยไฮเนเก้นใช้สื่อออนไลน์ในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายประมาณ 90% ด้วยความถี่ของการใช้สื่อออนไลน์ 90%”
อย่างไรก็ตามปัจจุบันตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทเบียร์มีมูลค่า 1.4 แสนล้านบาท แบ่งออกเป็นตลาดเมนสตรีม 1.29 แสนล้านบาท ส่วนตลาดพรีเมียม 6,500 ล้านบาท และที่เหลือคือตลาดอีโคโนมีและเบียร์อิมปอร์ต โดยแบรนด์ไฮเนเก้นยังคงเป็นผู้นำตลาดในตลาดพรีเมียม โดยมีส่วนแบ่งตลาด 88.3% และ 4.2% ในตลาดรวมทั้งหมด
................................................................................................
หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,408 ระหว่างวันที่ 11-13 ตุลาคม 2561
นายเศรษฐวุฒิ จิวังกูร ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ไฮเนเก้น กลุ่มบริษัททีเอพีฯ เปิดเผยว่า ปีนี้นับว่าเป็นปีที่แบรนด์ไฮเนเก้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ภายใต้กลยุทธ์ “ไฟว์สตาร์ มิวสิค เอ็กซ์พีเรียนซ์” ที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายพร้อมสร้างการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค โดยในแต่ละเทศกาลดนตรีที่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมและสนับสนุนสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายเฉลี่ยได้มากถึง 3-5 ล้านคนต่อการรับรู้ในกิจกรรมทางด้านออนไลน์ และภาพรวมตลอดทั้งปีคาดว่าจะเข้าถึงคนได้ประมาณ 13.7 ล้านคน
[caption id="attachment_330166" align="aligncenter" width="303"]
โดยในไตรมาส 4 ปีนี้ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซัน บริษัทเตรียมเปิดตัวแคมเปญส่งท้ายปีภายใต้กลยุทธ์ มิวสิก มาร์เก็ตติ้งกับคอนเสิร์ต Sam Smith: The Thrill of It All Tour ด้วยกิจกรรมออนไลน์ “Name Sam’s Songs” เพื่อสร้างการรับรู้และสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค ขณะที่ในปีหน้าบริษัทได้วางเป้าหมายในการทำหน้าที่เป็น MusicMarketing Expertise ที่มีความเข้าใจในองค์ประกอบทางดนตรีที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงเทรนด์ของตลาด และความต้องการของผู้บริโภคด้วยการสานต่อกลยุทธ์ Ultimate Music Experience เพื่อที่จะสร้าง สรรค์รูปแบบกิจกรรมทางดนตรีให้เหมาะกับกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย และสอดคล้องกับตำแหน่งของแบรนด์สินค้าที่ไฮเนเก้นเป็นผู้นำในตลาดเบียร์พรีเมียมอีกด้วย โดยตอกยํ้าแบรนด์ดีเอ็นเอ ที่มีความเป็นสากลโดดเด่นแบบไม่มีใครเคยทำมาก่อน เพื่อยํ้าความเป็น Global Standard in Music Platform ต่อไป
“พฤติกรรมการฟังเพลงของผู้บริโภคไม่ได้ต่างไปจากเดิม แต่จะมีทางเลือกของงานดนตรี ศิลปินรวมไปถึงรูปแบบของกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไป และสิ่งที่ผู้บริโภคมองหา คือ ความสะดวกสบายและความคุ้มค่าในประสบการณ์ที่แตกต่างของดนตรี ดังนั้นบริษัทจึงได้วางกลยุทธ์ในการสร้างสรรค์แนวทางในการมัดใจกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายในกลุ่ม Gen M ที่คิดเป็นสัดส่วน 11.4% ของประชากร ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลในการขับเคลื่อนเป้าหมายทางการตลาดของไฮเนเก้น มีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยี ปรับตัวเข้ากับสิ่งรอบข้างใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว รับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่หมุนเร็วได้ดี โดยจะให้ความสำคัญในการสื่อสารแบรนด์ผ่าน Brand experience,Co-creation และออนไลน์มีเดียที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสารในแต่ละแคมเปญ โดยไฮเนเก้นใช้สื่อออนไลน์ในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายประมาณ 90% ด้วยความถี่ของการใช้สื่อออนไลน์ 90%”
อย่างไรก็ตามปัจจุบันตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทเบียร์มีมูลค่า 1.4 แสนล้านบาท แบ่งออกเป็นตลาดเมนสตรีม 1.29 แสนล้านบาท ส่วนตลาดพรีเมียม 6,500 ล้านบาท และที่เหลือคือตลาดอีโคโนมีและเบียร์อิมปอร์ต โดยแบรนด์ไฮเนเก้นยังคงเป็นผู้นำตลาดในตลาดพรีเมียม โดยมีส่วนแบ่งตลาด 88.3% และ 4.2% ในตลาดรวมทั้งหมด
................................................................................................
หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,408 ระหว่างวันที่ 11-13 ตุลาคม 2561
