คลินิกความงามแข่งดุ ‘มิเนอร์วา’ ปรับเกมสู้

16 มิ.ย. 2561 | 14:26 น.
อัปเดตล่าสุด :16 มิ.ย. 2561 | 21:26 น.
894
“มิเนอร์วา คลินิก” ปรับกลยุทธ์รับตลาดคลินิกความงามแข่งดุ ควบรวมสาขาเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติ เพิ่มล่ามแปลภาษา ผนึกพันธมิตรโรงพยาบาลให้บริการเสริม หลังกระแสนักท่องเที่ยวเทศพาเหรดเข้าใช้บริการเพิ่มกว่า 30%

พ.ญ.อณัฏฐ์ชา อัศดามงคล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงามและกรรมการผู้จัดการ บริษัท มิเนอร์วา คลินิก จำกัด เจ้าของคลินิกความงาม “มิเนอร์วา คลินิก” (Minerva Clinic) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ภาพรวมการแข่งขันในตลาดคลินิกเสริมความงามเมืองไทย ปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงปีที่ผ่านมามีทั้งแบรนด์น้องใหม่เข้ามาทำตลาด และแบรนด์ที่ต้องปิดตัวลงเพราะไม่สามารถแข่งขันได้ ซึ่งคลินิกได้มีการบริหารจัดการใหม่การควบรวบทุกสาขาเข้าด้วยกันมารวมไว้ที่สาขาสยามพารากอนเพียงแห่งเดียว

“การแข่งขันในตลาดที่สูงและรุนแรง ผนวกพฤติกรรมลูกค้ายังนิยมเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพียงคนเดียว จึงได้ควบรวมสาขาเข้าด้วยกัน ซึ่งผลตอบรับหลังจากควบรวมแล้วมีในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากเป็นโลเกชันที่สามารถเดินทางได้สะดวก”

ทั้งนี้ภายหลังการย้ายมาให้บริการที่ศูนย์การค้าสยามพารากอนพบว่า ทางคลินิกมีจำนวนลูกค้าชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็น 30% จากเดิมคลินิกมีสัดส่วนลูกค้าชาวต่างชาติอยู่ที่ 10% โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าชาวจีนและตะวันออกกลางที่นิยมวอล์ก อิน เข้ามาใช้บริการ จากการบอกต่อแบบ ปากต่อปาก ซึ่งแผนงานของทางคลินิกนับจากนี้คือการศึกษารูปแบบการให้บริการ การทำกิจกรรมทางการตลาด เพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาเพิ่ม มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขยายการบริการที่ได้รับความนิยมเช่นการร้อยไหม การร่วมมือกับโรงพยาบาลชั้นนำต่างๆ เพื่อให้บริการร่วมกัน และการเพิ่มล่ามแปลภาษาในแต่ละภาษาเข้ามาภายในคลินิก เพื่อรองรับการขยายตัวดังกล่าว โดยชูจุดเด่นเรื่องความปลอดภัย และคุณภาพที่ดี ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้มาใช้บริการชาวต่างชาติให้ความสำคัญ

“จุดเด่นของเราคือการให้บริการที่ไม่ใช่เชนคลินิกความงาม และมีบริการที่โดดเด่นในเรื่องของการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่านการศัลยกรรม ไม่ว่าจะเป็นการโบท็อกซ์ ร้อยไหม ฟิลเลอร์ และการแฟต ทรานส์เฟอร์ เป็นต้น ซึ่งรูปแบบ การให้บริการจะเป็นรูปแบบของการพบกับผู้ใช้บริการแบบตัวต่อตัวเพื่อนแก้ไขปัญหาร่วมกัน”

สำหรับการแข่งขันสำหรับเจาะกลุ่มลูกค้าภายในประเทศจะยังคงเน้นจุดเด่นความเป็นผู้ให้บริการที่มีคุณภาพ พบผู้ให้บริการแบบตัวต่อตัวเพื่อศึกษาการบริการร่วมกัน โดยไม่เน้นแข่งขันเรื่องราคากับคู่แข่งรายอื่น ควบคู่กับการนำระบบสมาชิกที่มีโปรโมชันพิเศษเข้ามาให้บริการเพิ่มเติมด้วย โดยปัจจุบันยังไม่มีแผนการขยายสาขาแต่อย่างใด เนื่องจากต้องการบริหารจัดการสาขาดังกล่าวเสียก่อน

อย่างไรก็ตามปัจจุบันสัด ส่วนลูกค้าชาวต่างชาติที่เข้ามารับบริการในคลินิกเพิ่มขึ้นทุกปีเฉลี่ยปีละ 5% ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวในกลุ่มแขกขาว ชาวจีน และสิงคโปร์ ที่เข้ามาในเมืองไทยเฉลี่ยปีละ 2-3 ครั้ง ดังนั้นบริษัทจึงมองเห็นโอกาสทางการตลาดดังกล่าวและเตรียมศึกษาแผนงานอย่างจริงจังเพื่อรองรับความต้องการในอนาคต

...........................................................................

หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,374 ระหว่างวันที่ 14-16 มิ.ย.61

e-book-1-503x62-7