อโรม่า กรุ๊ป จัดแข่งคัดเลือกบาริสต้า

18 ก.ค. 2560 | 20:11 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ก.ค. 2560 | 03:11 น.
อโรม่า กรุ๊ป  จัด 2 โครงการเพิ่มสีสันการแข่งขันคัดเลือกนักชงกาแฟหน้าใหม่   เตรียมคัดตัวส่งเข้าร่วมคัดเลือกที่อิตาลี

นายกิจจา วงศ์วารี กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทในเครือ อโรม่า กรุ๊ป  เปิดเผยว่า  ได้จัดทำโครงการใหม่ 2 โครงการ ที่มาเพิ่มสีสันให้การแข่งขัน  ได้แก่ Thailand Indy Barista Championship ครั้งที่ 9 (TIBC 9) การค้นหาบาริสต้าชั้นแนวหน้า  เวทีสำหรับนักชงกาแฟหน้าใหม่ ชิงถ้วยประทานพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และการแข่งขัน Espresso Italiano Champion 2017 : Thailand เฟ้นหาสุดยอดนักชงกาแฟผู้มีความเชี่ยวชาญ  โดยได้รับการสนับสนุนจากหอการค้าไทย-อิตาเลียนร่วมจับมือสนับสนุน เพื่อส่งตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันต่อรอบ Final ที่ การแข่งขัน Espresso Italiano Champion 2017 ณ งาน Host Milano เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ในเดือนตุลาคมนี้

poster

โดยในปีนี้ทางอโรม่า กรุ๊ป วางแผนต่อเนื่องมาจากปีที่แล้ว โครงการแรก คือ โครงการ Barista Blend ซึ่งเป็นการต่อยอดผู้ชนะจากการแข่งขันทั้งสองเวทีเมื่อปีที่แล้ว มาร่วมสร้างสรรค์และออกแบบโปรไฟล์การคั่วเมล็ดกาแฟ รวมไปถึงออกแบบบรรจุภัณฑ์ในสไตล์ของตัวเอง เพื่อวางจำหน่ายทั่วประเทศ และยังได้ส่งผลงานของทั้งคู่ เพื่อเข้าประกวดในงาน International Coffee Tasting 2017 ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นที่ เมืองกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน   และอีกหนึ่งโครงการ คือ อโรม่า กรุ๊ป มุ่งสร้างเครือข่ายบาริสต้าในประเทศไทยให้เกิดการรวมตัว ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Barista Community Network” โดยตั้งใจให้การแข่งขัน The Maestro Barista Challenge 2017 เป็นศูนย์รวม บาริสต้าที่สนใจในการแข่งขันหรือเคยมาแข่งแล้วในปีที่ผ่านๆมา ได้มีพื้นที่พบปะพูดคุย  แลกเปลี่ยนทัศนะกัน เพื่อยกระดับและร่วมกันทำประโยชน์ให้กับวงการกาแฟไทยต่อไป”

“ในส่วนของการแข่งขัน Thailand Indy Barista Championship ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 9  แล้วได้ผลตอบรับที่ดีขึ้นเรื่อยๆ มีผู้สมัครมากขึ้นทุกปี  สำหรับการแข่งขัน Espresso Italiano Champion ปีที่แล้วจัดเป็นปีแรก ครั้งแรกในไทยอีกด้วย ผลตอบรับอยู่ในเกณฑ์ดี  เพราะเป็นเวทีระดับโลกที่รู้จักแพร่หลายอยู่แล้ว  ซึ่งในปีที่ผ่านมา แชมป์ของเวทีนี้มาจากประเทศเกาหลีใต้ซึ่งอยู่ในทวีปเอเชีย  ดังนั้นทำให้บาริสต้าไทยมีโอกาสได้ไปแสดงฝีมือต่อในรอบชิงชนะเลิศที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี”

ส่วนสถานการณ์ของธุรกิจกาแฟไทย  ขณะนี้กำลังคึกคัก มีการแข่งขันค่อนข้างสูงมาก  ปัจจุบันมีร้านกาแฟเปิด  ขึ้นทุกวัน ทำให้หลายร้านต้องพัฒนาสินค้าและกลยุทธ์ทางการตลาดควบคู่กันไป ในขณะที่มีการแข่งขันสูง แต่บาริสต้าไทยยังขาดการรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน การที่มี  “Barista Community Network”   จะช่วยยกระดับให้วงการกาแฟไทยเข้มแข็งขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มศักยภาพ   บาริสต้าชาวไทยให้ได้มาตรฐานสามารถแข่งกับต่างประเทศได้อย่างมั่นใจ

นายกิจจา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ได้วางแผนการตลาดในเชิงรุกมากขึ้น โดยตั้งเป้าที่จะเป็น Top of Mind Brand ของวงการกาแฟไทยและขยายช่องทางในการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมทุกความต้องการ ทุกขึ้นที่มากขึ้น