สศช. ประกาศจีดีพีไทยปี 2564 โต 1.6% คาดปีนี้ 3.5 – 4.5%

21 ก.พ. 2565 | 10:52 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ก.พ. 2565 | 17:52 น.
2.6 k

สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. ประกาศตัวเลขจีดีพีของไทย ไตรมาสที่ 4 โต 1.9% ส่วนทั้งปี 2564 อยู่ที่ 1.6% ขณะที่แนวโน้มปี 2565 คาดโต 3.5 – 4.5%

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาสที่ 4 ทั้งปี 2564 และแนวโน้มปี 2565 ว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 4 ขยายตัว 1.9%

 

โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจปรับเพิ่มขึ้นเกือบทุกตัว โดยเฉพาะตัวเลขการส่งออกที่ยังคงขยายตัวได้ในระดับสูง โดยเฉพาะปริมาณการส่งออกสินค้าขยายตัว 16.6% รวมถึงปริมาณส่งออกบริการขยายตัว 30.5% ยกเว้นการลงทุนรวมที่ยังติดลบอยู่ 0.2%


ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้ทั้งปี 2564 เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ที่ 1.6% เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมที่เคยประเมินว่า จะขยายตัวได้ 1.2%

 

ทั้งนี้เป็นผลมาจากการส่งออกสินค้าและบริการ และการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวเร่งขึ้น เช่นเดียวกับการลงทุนภาคเอกชนและการลงทุนภาครัฐกลับมาขยายตัว

สำหรับเศรษฐกิจไทยปี 2564 ที่ขยายตัว 1.6% ปรับตัวดีขึ้นจากการลดลง 6.2% ในปี 2563 โดยมีจีดีพีอยู่ที่ 16.2 ล้านล้านบาท จีดีพีต่อหัวของคนไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 232,176 บาทต่อคนต่อปี เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยอยู่ที่ 1.2% และดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล 2.2% ของจีดีพี ทั้งนี้ แยกเป็นด้านต่าง ๆ ดังนี้ 


ด้านการใช้จ่าย 

  • มูลค่าการส่งออกสินค้า ขยายตัว 18.8%
  • การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ขยายตัว 0.3%
  • การลงทุนรวมเพิ่มขึ้น ขยายตัว 3.4% 

 

ด้านการผลิต 

  • สาขาเกษตรกรรม การป่าไม้ และการประมง ขยายตัว 1.4% 
  • สาขาการผลิตอุตสาหกรรม ขยายตัว 4.9%
  • สาขาการขายส่งและการขายปลีก การซ่อมฯ ขยายตัว 1.7% 
  • สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร ลดลง 14.4% 
  • สาขาการขนส่งฯ ลดลง 2.9% 

ส่วนปี 2565 สศช.ประเมินแนวโน้มว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวอยู่ในกรอบ 3.5 – 4.5% ตามกรอบเดิมที่เคยประมาณการเอาไว้ครั้งก่อน โดยต้องจับตาปัจจัยเสี่ยงหลักที่เข้ามากระทบ คือ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งในช่วงที่เหลือของปีนี้ ต้องติดตามกรณีของการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด เพราะทำให้ประเทศต่าง ๆ ออกมาตรการจำกัดการเดินทาง ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจได้

 

สำหรับรายละเอียดเศรษฐกิจไทยปี 2565 ที่คาดว่าจะขยายตัว 3.5 – 4.5% โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญ ประกอบด้วย 

 

  1. การปรับตัวดีขึ้นของอุปสงค์ภายในประเทศ 
  2. การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว 
  3. การขยายตัว อย่างต่อเนื่องของการส่งออกสินค้า
  4. แรงขับเคลื่อนจากการลงทุนภาครัฐ 

 

ส่วนเครื่องชี้ทางเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ สศช. ประเมินว่า

  • มูลค่าการส่งออก สินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ จะขยายตัว 4.9%
  • การอุปโภคบริโภค ขยายตัว 4.5%
  • การลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 3.8% 
  • การลงทุนภาครัฐคาดว่าจะขยายตัว 4.6%
  • อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยอยู่ ในช่วง 1.5 – 2.5%
  • ดุลบัญชีเดินสะพัดจะเกินดุล 1.5% ของจีดีพี