รัฐฉานที่รัก

17 ต.ค. 2565 | 04:00 น.
1.2 k

คอลัมน์เมียงมอง เมียนมา โดย กริช อึ้งวิฑูรสถิตย์

เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมเขียนเรื่องรัฐฉานที่คิดถึงไปแล้ว ปรากฎว่ามีหลายท่าน ที่อ่านแล้วก็ส่งคอมเม้นต์มาเยอะเลยครับ ส่วนใหญ่จะมีคำถามเข้ามาอีกหลายเรื่อง บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่ผมแตะต้องไม่ได้ บางเรื่องผมก็ไม่มีความรู้ บางเรื่องก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่รู้จะถูกต้องหรือไม่ บางเรื่องก็รู้แต่เขียนเป็นหลักเป็นฐานไม่ได้ ก็มีมาหลากหลายเหตุผลครับ เอาเป็นว่า ผมจะเล่าเฉพาะเรื่องที่ผมเคยประสบมากับต้วเองดีกว่านะครับ เดี๋ยวจะไปพาดพิงคนอื่นเขา ไม่ดีๆ ไม่ควรทำอย่างยิ่งครับ
 

มีแฟนคลับท่านหนึ่งถามว่า เมืองเหม่เมี่ยวหรือปิ่นอูหลินสวยมากจริงมั้ย? ผมทายว่าท่านคงอยากจะมีโอกาสไปเที่ยว ผมต้องบอกว่า ผมถนัดเรียกเมืองนี้ว่า “เหม่เมี่ยว” มากกว่า เพราะว่ามันติดปากมานาน ที่นี่สวยจริงครับ เมืองนี้อยู่ห่างจากเมืองมัณฑะเลย์ประมาณชั่วโมงเศษเท่านั้น เมืองนี้ตั้งอยู่บนที่ราบสูงบนทางหลวงที่จะไปเมืองลาซิล มีน้ำตกที่สวยมากอยู่บนเขาด้วย
 

ในอดีตเป็นเมืองตากอากาศของกลุ่มนักการฑูตที่มาประจำอยู่ในประเทศเมียนมา อากาศดีมาก ไม่ร้อนไม่หนาวมาก ที่นี่จะเป็นแหล่งผลิตดอกไม้นานาชนิด ที่ใช้ในประเทศและส่งออกไปยังเมืองคุนหมิง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
 

นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งเพาะปลูกพืชผักและผลไม้นานาชนิด ทั้งบริโภคภายในและส่งออกที่อุดมสมบูรณ์มาก ผมเองก็เคยไปพักที่เมืองนี้สอง-สามครั้ง ที่นี่เสียอย่างเดียวคือโรงแรมดีๆ มีน้อยมากครับ มีแต่โรงแรมธรรมดาๆ เท่านั้น จำได้ว่าห้องในโรงแรมไม่ต้องติดแอร์ก็เย็นสบายดีครับ 

 

ในตลาดเช้าที่ผมชอบไปเดินสำรวจราคาสินค้า ในท้องตลาดทุกที่ที่ผมไป เพื่อเปรียบเทียบดูกับค่าครองชีพทั่วไป ก็เห็นว่าที่นี่สินค้าบริโภคราคายังไม่แพงนัก แต่พืชผักเมืองหนาวที่กรุงย่างกุ้งหายาก ก็จะมีขายที่นี่เยอะเลยครับ เช่นผักโอซุ่น หรือใจผัก คือลำต้นของผักชนิดหนึ่ง ที่มีกลิ่นคล้ายๆ ผักกาดสลัด ซึ่งผักชนิดนี้ที่เมืองจีนมีขายกันมาก แต่ที่บ้านเราไม่มี ที่นี่มีขายในราคาก็ถูกไม่แพง ยังมีเห็ดเผาะ ที่นี่ขายเป็นกระป๋องๆ ละสอง-สามร้อยจ๊าด ถ้าเป็นที่บ้านเราขายกันขีดละเป็นหลายสิบบาททีเดียว ส่วนความเป็นอยู่ของชาวบ้านก็คล้ายๆ กับต่างจังหวัดบ้านเราครับ
 

ที่น่าแปลกใจมากๆ มีอยู่ครั้งหนึ่ง ระหว่างที่ขับรถออกมาจากเมืองเหม่เมี่ยว ไปสักไม่กี่กิโลเมตร จะมีฟาร์มโคนมขนาดใหญ่ คล้ายๆ กับฟาร์มโชคชัยที่กลางดง อำเภอปากช่องบ้านเรานั่นแหละครับ ผมเห็นแล้วทึ่ง อดไม่ได้ที่จะจอดรถลงไปดู วันนั้นเราจึงลงไปแวะดู และอยากจะอุดหนุนด้วยการซื้อนมวัวมาดื่ม พอลงไปแล้วจึงเดินชมวิวที่สวยมาก พอดีเวลาใกล้จะเที่ยงแล้ว ไหนๆก็ไหนๆ จึงขอเอาผักและเห็ดที่ซื้อมาจากตลาดเหม่เมี่ยว ออกมาทำอาหารกินกัน  
 

พอลงไปบอกพ่อครัวว่า ให้ช่วยแกงเห็ดกับผัดผักให้ด้วย ปรากฎว่าเขาทำไม่เป็นครับ ผมเลยอาสาลงไปทำเอง ขณะเข้าไปที่ห้องครัว เห็นกะทะ-หม้อสกปรกมาก ผมจึงเอากะทะมาเผาไฟก่อนล้างให้สะอาด ขณะที่กำลังทำอยู่เพลินๆ อยู่ ข้างๆ ก็มีคนมายืนมองดูผม เขามองไปยิ้มไป สักพักหนึ่งเขาจึงถามผมว่า “นี่ใช่หวงเซียนฟงหรือเปล่า?” ผมตกใจมากที่มีคนมาเรียกชื่อจีนผมถูก จึงหันไปมองหน้าและถามเขาว่า รู้จักผมด้วยเหรอ เขาตอบว่ารู้จักสิ เราเคยเจอกันบ่อยๆ ที่ไต้หวัน เพราะเขาเป็นรุ่นน้องผมปีหนึ่งนั่นเอง โลกนี่ช่างกลมจริงๆ ครับ มาไกลขนาดนี้ยังมีคนรู้จักด้วยแฮะ!!! 

 

เพื่อนคนนี้เล่าว่า หลังจากเรียนจบที่ไต้หวัน ก็เข้ามาทำงานเป็นนักข่าวที่หนังสือพิมพ์จีนฉบับหนึ่งในกรุงเทพมหานคร จนกระทั่งได้ไปเห็นฟาร์มโชคชัยที่กลางดง จึงใฝ่ฝันอยากจะมีฟาร์มอย่างนั้นบ้าง เมื่อกลับมาบ้านเกิด จึงได้แรงบันดาลใจสร้างฟาร์มนี้ขึ้นมา ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง เสียดายที่ผมจำชื่อเพื่อนคนนี้ไม่ได้แล้ว แม้แต่ชื่อฟาร์มผมก็จำได้แต่เพียงชื่อที่เป็นวันในภาษาอังกฤษ คับคล้ายคับคลาว่าชื่อ “Wednesday Farm” หรืออะไรสักวันหนึ่งแหละครับ ถ้าผมจำผิดแล้วเพื่อนอ่านเจอบทความนี้ ก็อย่าโกรธผมนะครับ เอาเป็นว่าไม่ใช่วันพุธก็เป็นวันอังคารหรือวันพฤหัสบดีแหละน่า.....นึกว่าอภัยคนแก่ขี้ลืมก็แล้วกันครับ
 

ยังมีอีกท่านหนึ่ง ถามมาว่า ที่เมืองลาซิลมีสถานที่ไหนน่าท่องเที่ยวบ้าง แหม... ผมไปทุกที่ก็คือไปทำงาน...ไม่ได้ไปเที่ยวนะครับ เอาเป็นว่าแตะๆนิดๆ ก็แล้วกันนะครับ ที่นี่จะเป็นเมืองที่มีชาวไตหรือพี่น้องชาวไทยใหญ่อาศัยอยู่กันเยอะมาก ร้านอาหารไทยใหญ่ก็หากินได้ง่ายมาก อาหารจำพวกแกงผักกาดจอ แกงฮังเล ตำมะเขือส้ม(น้ำพริกหนุ่ม) ลาบก้อย มีหมดครับ หากินง่ายมาก
 

ที่เมืองลาซิลยังมีบ่อน้ำแร่ออนเซน ที่เขาสร้างสไตล์จีนๆ อยู่แห่งหนึ่ง คนไปอาบน้ำแร่กันไม่น้อยครับ มีอยู่ครั้งหนึ่งช่วงที่ผมไปเป็นปลายฤดูหนาว ก็ได้ไปอาบน้ำแร่ที่นี่ เห็นชาวจีนมาอาบกันเยอะเลยครับ ก็เป็นสีสันที่น่าดูชมครับ ถ้าจำไม่ผิดจะมีคาสิโนอยู่ที่เมืองนี้ด้วยครับ เสียดายที่ผมไม่ชอบเสี่ยงโชค เลยไม่ได้กินผมหรอก....กลางคืนผู้คนจะพลุกพล่านกันมากครับ ส่วนใหญ่จะพูดได้ทั้งจีนยูนนานและภาษาไต ภาษาเมียนมา จึงสนุกสนานมากครับ
 

ผมออกไปเดินดูบรรยากาศเล็กน้อยก็กลับที่พักเลย  ห้ามถามว่าเจออะไรบ้างนะครับ ตอบไม่ถูกครับ