ชีวิตที่ไร้ลมหายใจ

23 พ.ค. 2567 | 03:30 น.

ชีวิตที่ไร้ลมหายใจ คอลัมน์ ทำมาธรรมะ โดย ราชรามัญ

เมื่อคุณหมดลมหายใจทิ้งร่างกายแล้ว จิตวิญญาณของคุณนั้น จะล่องลอยเป็นสัมภเวสีทันที คำว่าสัมภเวสีนี้เป็นเหมือนกันทุกคนที่ตายแล้ว และความหมายของคำว่า สัมภเวสี แปลว่า แสวงหาที่เกิด สภาพแห่งความเป็นสัมภเวสีนี้ เป็นแค่เพียง 30 วินาทีเท่านั้น จากนั้นก็ไปเกิด ส่วนจะได้ไปเกิดที่ไหน เป็นอะไรนั้นอยู่ที่บุญกรรมเป็นพาหะนำพาไป

ถ้ากุศลกรรมมีมากก็ไปอุบัติในที่ดี แต่ถ้าอกุศลกรรมนั้นมีมากกว่า ก็ไปอุบัติในสภาพที่ทนทุกข์ทรมาน อาจเป็นเปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน หรือ ไปเกิดในจิตวิญญาณที่ทวีปอื่นๆ ที่มิใช่กาแลคซี่ของมนุษย์อยู่กันก็เป็นได้

 

พระเทพโพธิวิเทศ

 

พระเทพโพธิวิเทศ (หลวงพ่อทองยอด ภูริปาโล  Ph.D ปธ.๙)​ ท่านเป็นอดีตหัวหน้าพระธรรมทูตประจำประเทศอินเดีย-เนปาล และ อดีตเจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา อินเดีย ท่านอยู่ประเทศอินเดียตั้งแต่พ.ศ.2503 ถึง พ.ศ.2554 จึงละสังขารอยู่ที่อินเดียนานถึง 50 ปี

 

ท่านเคยเล่าเรื่อง "กุศลและอกุศลนำพาไปสู่ภพภูมิที่แตกต่างกันไป ชีวิตที่ไร้ลมหายใจไปแล้ว เป็นชีวิตที่ไร้กายมีแต่ดวงจิตวิญญาณที่เกิดๆ ดับๆ วับวาวไปเรื่อย เมื่อพ้นสภาพสัมภเวสีได้ไปเกิดนั้น บ้างก็ได้สภาพกายสังขาร ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ หรือเป็นสัตว์เดรัจฉาน บ้างก็ไม่ได้สภาพกายสังขาร มีเพียงแค่ดวงจิตวิญญาณ ที่ไปรับทุกขเวทนาต่างๆ ในสภาวะและสภาพที่แตกต่างกัน หลวงพ่อทองหยอดยังเน้นย้ำว่า การเกิดเป็นมนุษย์นั้นแสนยาก และยิ่งเกิดเป็นมนุษย์ที่ได้พบพระพุทธศาสนา ยิ่งยากไปอีก อย่างมหาศาล ในเมื่อเกิดมาแล้ว พบพระพุทธศาสนาแล้ว กลัวอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษา และปฏิบัติ อย่างจริงจัง เพราะชีวิต หลังความตายที่ไร้ลมหายใจ เราไม่อาจรู้ได้เลยว่า คติของเราอยู่ที่ไหน จุดที่จะไปคือที่ไหน เราไม่อาจรู้เลยเว้นเสียแต่เป็นผู้มีคติที่แน่นอน อาทิ โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามีและที่สุดคือ พระอรหันต์ นี่คือบุคคลที่ มีคติแน่นอนแล้วกับชีวิตหลังความตาย"

หลายคน ต่างบ่นว่า การมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ ถ้ามีฐานะไม่ดี ก็มีแต่ความทุกข์ความยากลำบาก ในเรื่องอยู่เรื่องกินในเรื่องการใช้ชีวิต แต่หารู้ไม่ว่า ถ้าเราเกิดมาแล้ว ไม่รู้จักสร้างกุศลเลย ชีวิตที่ไร้ลมหายใจเมื่อปรากฏขึ้นกับเรา ความยากลำบากอีกหลายร้อยเท่ากว่าการเป็นมนุษย์จะปรากฏขึ้น เพราะเรานั้น จะพบแต่ทุกขเวทนา แสนสาหัส ยิ่งกว่าตอนที่ มีลมหายใจเป็นมนุษย์ แต่ไม่ได้สร้างกุศลใดๆเลย ทั้งที่พบพระพุทธศาสนา ชีวิตแบบนั้นน่ากลัว กว่าตอนที่เป็นมนุษย์แล้วมีฐานะยากจนเสียอีก 

ดังนั้น การที่เราได้เกิดเป็นมนุษย์ พระพุทธศาสนานั่นหมายความว่า เรามีบุญกุศลมากพอควรแล้ว จึงเลือกอัตภาพแบบนี้ แม้ว่าจะมีฐานะไม่ค่อยมี แต่เราก็ยังถือว่าพอมีบุญกุศลอยู่บ้าง ถ้าเรารู้จักต่อบุญต่อกุศล และทำอย่างจริงจังและมุ่งมั่น ชีวิตหลังความตายของเรา ที่ไร้ลมหายใจย่อมไปสู่ภพภูมิที่ดี และถ้ามีบุญมากพอ ก็เลยกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้งหนึ่ง

ทำที่จะทำให้มันกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง ประกอบไปด้วย การมุ่งมั่นรักษาศีล การภาวนา ตลอดทั้งการสร้างทางบารมี ในพระพุทธศาสนา และการสร้างทานบารมีกับเพื่อนมนุษย์ สิ่งเหล่านี้ต้องประกอบไปด้วย ความเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขาอีกชั้นหนึ่งด้วย จึงจะนำพาให้ดวงจิตวิญญาณนั้นกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้งหนึ่ง

จึงอยากบอกกับทุกคนว่า อย่าใช้ชีวิตในปัจจุบันขณะ โดยประมาท แล้วจะทำให้ ชีวิตที่ไร้ลมหายใจ ไปพบเจอแต่ทุกขเวทนา จงสร้างเหตุปัจจัยให้ดี ให้มีธรรมในใจ อย่างน้อย ก็ยังเป็นเหตุเป็นปัจจัย ผลักดันให้โดนจิตวิญญาณไปอยู่ในภพภูมิที่ดีได้ และถ้ามีบุญบารมี อื่นๆเข้ามาร่วม จะได้กลับมาเกิด เป็นมนุษย์อีกครั้ง อย่างรวดเร็ว

อย่าใช้ชีวิตโดยประมาท คือคำสอนสุดท้าย ของพระพุทธเจ้าที่มอบให้เป็นมรดก กับชาวพุทธศาสนา ให้นำมาปฏิบัติอย่างยิ่ง แล้วจะรู้ ความจริงจังปวง เมื่อชีวิตไร้ลมหายใจ