กับข้าวการเมือง 2 : ติ่มซาศักดินา โรงน้ำชาท่านอ๋อง

03 มิ.ย. 2566 | 09:03 น.

คอลัมน์ Cat out of the box กับข้าวการเมือง 2 : ติ่มซาศักดินา โรงน้ำชาท่านอ๋อง โดย พีรภัทร์ เกียรติภิญโญ

เช้านี้เห็นลือกันว่าประดาเสือหมอบมังกรเซาในวงการเมืองไทยพากันไปเจรจาต้ะอ่วยจัดตั้งรัฐบาลในบรรยากาศเสรีภาพแห่งฮ่องกง อดีตนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธทันควันว่าอยู่เมืองแขกไม่ได้ไปครอบงำอะไรสักหน่อย ในขณะที่รองนายกรัฐมนตรี มีเครื่องบินส่วนตัวไปหาข้าวกินบนเกาะนั่นพอดี
 
มานาทีนี้ มันก็น่าเปิดโพยแนะนำร้านขนมขะต้ม ที่เหมาะกับบรรยากาศเริ่มจาก โรงน้ำชา ลกหยู  กันก่อนใครบางคนในสกุลศิลปบรรเลงท่านคิดบรรเลงเพลงชื่อสมญาโรงน้ำชาประเภทลกหยูได้อย่างเหมาะเจาะ ว่า -โอ๋ย คุณกินน้ำชาที่หลินเฮิ้งไม่สมศักดิ์ศรี- อย่างคุณนี่ต้องไปกิน “ติ่มซำศักดินา โรงน้ำชาท่านอ๋อง” 55 ท่านค่อนขอดศักยภาพ หลังอ่านคอลัมน์ cat out ตอน “กับข้าวการเมือง” ประกอบกับเห็นว่าร้านประจำแห่งงานน้ำชาคือ หลินเฮิ้ง ดังปรากฏในตอน ‘ติ่มซำ-หยำฉ่า’
 
อีทีนี้มันก็ต้องเรียนว่า ติ่มซำศักดินา โรงน้ำชาท่านอ๋อง อย่างนั้นมันเหมาะหนักหนากับการเจรจาผลประโยชน์การเมืองบนความห่างไกลการรับรู้ของหมู่ราษฎรผู้กากบาทเลือกมา อาหารดี บรรยากาศโคซี่มีละอองอณูหรูหรา จิบเครื่องดื่มน้ำชาชุ่มคอ 55 ชวนให้ฮึกเหิมกับการแย่งอำนาจ !

อีทีนี้อีกว่า อันประดาเจ้าใหญ่นายโตไปไหนมาไหนย่อมไปเปนขบวนพร้อมพรั่งบริวาร ฉบับนี้ถึงเวลาได้ที ทำโพยร้านอาหาร แบบว่า นายจะไปก็ได้ ทีมงานนายจะลอบออกไปสานสัมพันธ์การเจรจาระดับต่อไปก็ดี_อ้าว รัฐมนตรีเขายังมีรัฐมนตรีช่วย แล้วยุคอดีตนายกตำรวจยังให้มีผู้ช่วยรัฐมนตรีเพิ่มอีกคน !
 
ในสภา ส.ส. ก็ยังให้มี ผู้ช่วย ส.ส. มีนักวิชาการ ประจำตัว ไปไหนมาไหนเชิญพานหมากพลูตามต้อย รวมได้ตั้ง 5 คน ไหนจะกรรมาธิการกันอีกหลายคณะหมวกใบ มิใยจะพูดถึงเลขานุการรัฐมนตรี  ผู้ช่วยเลขาธิการนายก เลขา ครม. โอ้ เหมาะเจาะ!
 
ก่อนจะเข้าโรงน้ำชาท่านอ๋อง เครื่องบินเทียบชานชลาสถานีเช็กแลปก็อกแล้ว ก็ควรจะแว่บออกมาพากันไปกินบะหมี่ทำมือ wing wah บนถนน Hennessy ย่านหว่านไจ๋ บำรุงความคิดให้แยบยลด้วยถั่วแดงตุ๋นลอยบัวลอยงาดำ กันเสียก่อน กระเดี๋ยวเสียรู้โต้โผไม่รุด้วยนา

เจรจาต้าอ่วยกันหนแรกแล้วไม่ได้ความ ก็ควรจะกะบึงกะบอนทำงอนแงดออกมา แล้วพูดดังๆใส่ประดาบริวารให้เจ้าภาพได้ยินว่า “ไปหาข้าวอบหม้อดินกินกันดีกว่า(โว้ย)” ดังนี้ก็ไม่เสียศักดิ์เสียศรี ก็ราษฎรเลือกมาเหมือนกันนี่หว่า (ควรนึกคาถานี้ในใจ)
 
ข้าวอบหม้อดินแท้ๆ ใส่เนื้อเค็มร้าน Wing Hop Sing  นั่นกินแบบรอเวลาเขาหุงข้าวช้าเพราะใส่ข้าวสารดิบลงหม้อดินแล้วสุมไฟจนกว่าจะสุก! มีกฎสำคัญว่าต้องสั่งขั้นต่ำคนละ 40 เหรียญ!! ก็เหมือนกติการัฐธรรมนูญ กำหนดเสียงโหวตนายกต้องมียอดขั้นต่ำน่ะแล 55
 
แต่ถ้าว่ารอนานเกินไปกว่าข้าวจะสุกก็ควรจะย้ายออกไปหาเมนูพิศดารจีนกวางตุ้งฮ่องกงทำเครื่องในอร่อยชะมัดยาด บะหมี่ตับหมูโตๆ แล่นุ่ม ใส่เส้นหยิกนิชชินแบบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ Wai Kee แหม่ เข้าทีมีเส้นแบบรากหญ้าแต่ว่าโปะหน้าด้วยตับเศรษฐี!
 
อีทีนี้พวก ส.ส. ที่ว่าถือศีลกินเจ เราเปนทีมงานฟอร์มรัฐบาลจะทำอย่างไร ให้ปวงท่านพึงใจจะชูจุดร่วมสงวนจุดต่าง? ก็แยกวงพาไปรับรองที่ “ราชาเต้าหู้ ซัมสุยโป”  Kung Wo Dou Bun Chong เสียดีกว่าเปิดมาร้อยกว่าปี แต่ละจานของเขาดีเข้มข้นทั้งนั้น
 
แต่ถ้าว่า ท่านที่กินเจยังเปนพวกศักดินาโอ่อ่าหรู แนะนำว่าควรพาไปกินกับข้าวเส้าหลิน ที่สำนัก lei garden ปราณีตหราหรูราวกับนักพรตเลี่ยมทอง


 
ลูกหลาน ส.ส. รุ่นใหม่วัยเยาว์เขามาด้วยก็นี่เลยพากันไป ปิดท้ายมื้อด้วยไอติมไนโตรเจน Lab Made แก้อารมณ์ดีเปนบ้า ถ้าว่าไม่จบและยืดเยื้อควรต้องไปหารือวงเล็กๆเพิ่มที่Liberty Private Work ย่านเซ็นทรัล อันคนเรารุ่นใหม่ยามเจอของหรูหรา งานเจรจามักรื่นคอ55
 
อดีต ส.ส. ผู้ใหญ่ในตำนาน อย่าง ฯพณฯ บุญเท่ง ทองสวัสดิ์ท่านว่า “คนไทยต้องพูดจากันสองครั้ง”-55 งานนี้ควรขอท่านกงศุลหรือไม่ก็ทีมการบินไทยชวนกันออกนอกเมืองไปไซกุง กินซีฟู๊ด Loaf On หย่อนอารมณ์
 
ในขณะที่ ส.ส.หญิง ผู้จัดตั้งรัฐบาลควรต้องชวนกันไปตั้งวงกินขนมจุ๊กจิ๊กถ่ายรูปสวยๆกันที่ Luk Lam Dessert รึไม่ก็ไปดูงานแหวกขนบทำขนมหวานที่ ATUM Desserant ซึ่งมีที่นั่งแค่ 20 ที่ สร้างสรรค์เมนูขนมทีละรอบๆ ใช้แผ่นซิลิโคนแทนจานรองอาหารมีลูกกวาดระเบิดปากให้ลองด้วย ก่อนจะย้อนมาหารือกันคำรบสอง ที่ลกหยู_ luk yu tea house ติ่มซำศักดินา โรงน้ำชาท่านอ๋องที่ว่า ผู้ซึ่งวางกติกากลับหัวกลับหางราวระบอบประชาธิปโต- ข้างบนเปนที่นั่งลูกค้าทั่วไป ข้างล่างให้วีไอพี !


 
อีทีนี้พอบรรลุข้อตกลง MOU เบื้องต้นจากการยื้อยุดสองคำรบ (MoU ย่อมาจาก Memorandum of Understanding) ก็ควรจะไปต่อให้มันมั่นจิตกระชับใจ ไปถึงขั้น Advanced MOU ตกค่ำก็ควรกันไปฉลองให้ชื่นมื่นอย่างหรู กินดื่มอย่างรุ่มรวยกันที่ mott 32 มึนๆกันดึแล้วจะออกไปเยี่ยมดูงานสุราเสรีกันที่ลางไคฟงก็ตามเถิด
 
มื้อเช้าควรตามนายไป man wah หม่งก๊กกินข้าวเช้า หาไม่แล้วนายอยาก หาโจ๊กกินถอนพิษสุรา (ก่อนจะโผเผบินกลับมาบ้านเกิดเมืองนอน) ฝ่ายการเมืองฮ่องกงแนะว่า มีให้เลือก 3 ร้าน โจ๊กปู ไปที่ Chee Kei มีหลายสาขา เสิร์ฟมาสีเหลืองอ่อนโยนในโถไม้ดูอบอุ่น (เหมือนตอนจับมือเซ็น MOU)
 
ถ้าเบื่อปู อยากจะเล่นหอย เชิญชิมโจ๊กหอยที่ Congee King ถ้าจะเล่นหอยเชลล์ ถ้าเล่นหอยอีรมเชิญที่ Sun Kau Kee สถานีหวั่นใจ๋ เปนหอยอีรมแห้งๆกลิ่นทะเลเจือมาจางๆหนึบหนึบเข้มๆ ไม่เล่นทั้งหอยทั้งปู มีโจ๊กปลาที่เข้มข้น เชิญกันไปที่สถานีจอร์แดน มีร้านชื่อตรงไปตรงมาว่า Delicious Congee เปิดทุกวันถึงตีสามโน่น
 
อนึ่งว่านาทีนี้ หากใครคิดถึงบรรยากาศฝรั่งเศสแบบว่าปฏิวัติประชาชน ก็ลองไปตั้งวงกันให้ฮึกเหิมที่ CAPRICE อยู่เลขที่ 8 ถนน ไฟแนนซ์ ตรงย่านเซ็นทรัล ส่วนว่าถ้าคิดวิธีผสมสูตรพิศดารจัดตั้งรัฐบาลกันไม่ออก ขอแนะนำให้ไป CHUEN MOON KEE ที่หลัง โรงแรมแลงแฮมนี่ล่ะเขาทำข้าวอบหม้อดินแบบเหนือชั้น อบกันพิศดารพันลึก ใส่ฟักทองกับซี่โครงหมูยังงี้ ใส่ตีนไก่เปื่อยๆกับเผือกซุยๆยังงั้น บางวันใส่ปลาไหลคู่เห็ด และหรูหราไปกว่านั้น บางวันปลาไหลนั่นเขาก็ใส่ทรัฟเฟิล!

นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 หน้า 18  ฉบับที่ 3,893 วันที่ 4 - 7 มิถุนายน พ.ศ. 2566