ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี

12 พ.ย. 2565 | 06:30 น.
765

คอลัมน์ชีวิตบั้นปลายของชายชรา โดยกริช อึ้งวิฑูรสถิตย์

อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้แนะนำให้แฟนคลับทุกท่าน ได้เข้าไปชม YouTube เรื่อง 14 Growing industries the Future หรือธุรกิจในอนาคต 14 สายงาน มีเพื่อนหลายคนที่ฟังภาษาอังกฤษได้ดี บางท่านก็ไม่สามารถอ่านได้ แต่ก็พยายามให้ลูกหลานอ่านให้ฟัง 


ก็เชื่อว่าอีกหลายท่านก็ได้อ่านรายละเอียดที่ผมเขียนในบทความนี้ ท่านกรุณาได้โทรมาพูดคุยและชื่นชม ผมเองก็เชื่อว่าในอนาคต เราจะได้เห็นโลกอีกใบหนึ่ง ที่เราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า มันจะน่าอัศจรรย์ใจขนาดไหน เราในฐานะคนสูงอายุ ก็คงต้องไม่ละสายตาไปกับเรื่องต่างๆ ใน 14 เรื่องดังกล่าวได้อย่างแน่นอน

ในทางด้านการแพทย์แล้ว ทุกเรื่องที่กล่าวมาทั้ง 14 เรื่องนั้น เป็นเรื่องที่ทางการแพทย์สามารถเข้าถึงได้ใกล้กว่าสายงานธุรกิจอื่นๆ เพราะธุรกิจทางด้านการแพทย์ เขาสามารถนำสิ่งเหล่านี้มาใช้เป็นประโยชน์ ในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ โรคร้ายหลายๆ โรคที่ว่าน่ากลัว ในอนาคตก็สามารถที่จะใช้เรื่องของไบโอเทคโนโลยี ผสมผสานกับทางด้านของปัญญาประดิษฐ์ และนาโนเทคโนโลยี เข้าไปสืบค้นหาต้นต่อที่เป็นรากเหง้าของโรคได้อย่างไม่น่าเชื่อครับ

     

ตามที่ผมได้เห็นมาจากการพรีเซนต์ของดร.หวาง ที่ลูกชายของเพื่อนผมได้พามาเยี่ยมเยือนผมเมื่อต้นเดือนนี้ เขาได้แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เขาคิดค้นมา ถึงการสืบค้นหาเซลล์ของโรคมะเร็ง โรคร้ายที่คร่าชีวิตคนไทยเราในอันดับต้นๆ ของการเสียชีวิต ได้อย่างน่าตะลึงทีเดียวครับ 

เครื่องมือที่เขาใช้ในการตรวจพิสูจน์หรือสืบค้นนั้น เป็นเครื่องที่สามารถใช้เลือดของมนุษย์ไม่กี่ซีซี ที่คาดว่าจะมีปัญหาเรื่องโรคมะเร็ง มาตรวจหาได้ด้วยความแม่นยำสูงมาก เพียงแค่หยดเลือดไม่กี่ซีซี เขาสามารถแยกโมเลกุลของเม็ดเลือดออกมาเป็นไมโครตรอนเล็กๆ 


จากนั้นใช้วิธีการคัดเข้า-คัดออกเม็ดเลือดที่เขาต้องการ ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามาก สามารถมองเห็นเม็ดเลือดที่เป็นเม็ดเลือดร้ายของมะเร็งได้อย่างชัดเจน และแม่นยำมากๆ เพื่อจะทำให้รู้ว่า เลือดของมนุษย์คนนั้นมีเชื้อมะเร็งร้ายอยู่หรือไม่? เป็นการวินิจฉัยโรคที่น่าอัศจรรย์ใจมาก 


ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา แม้วิวัฒนาการทางการแพทย์ของเรา จะสามารถรู้ได้ว่าบุคคลนั้นเป็นมะเร็งหรือไม่? ด้วยการตรวจเลือดก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถทำให้วินิจฉัยได้ด้วยเปอร์เซ็นต์ที่สูงเหมือนเครื่องที่เขาคิดค้นนี้ เราจะทำได้แม่นยำก็ต่อเมื่อ ตัดเอาเนื้อเยื่อของก้อนเนื้อที่เราสงสัยว่าเป็นมะเร็ง ไปตรวจสอบ เพื่อหาดูว่าเป็นเนื้อดีหรือเนื้อร้ายเสียเป็นส่วนใหญ่ 


ซึ่งก็จะรู้ก็ต่อเมื่อ ได้เป็นมะเร็งในขั้นแรกเท่านั้น หรือบางคนอาจจะเป็นมะเร็งเข้าขั้นร้ายแรงแล้วก็ได้  แล้วจึงจะรู้ตัวจากการไปพบแพทย์ แต่นี่เขาไม่ต้องให้รอ “สงสัยว่า....” แล้วถึงจะไปตรวจหาโรคมะเร็งเส็งเคร็งนั้น ทำให้คนที่ไม่มีอาการหรือคนปกติทั่วไป ก็สามารถที่จะตรวจดูได้ก่อนเลยว่า น่าจะเป็นผู้ต้องสงสัยหรือไม่? นับว่าเป็นคุณูปการต่อชีวิตมนุษย์เป็นอย่างยิ่งครับ
       

ผมได้เล่าสิ่งที่ผมพบมานี้ให้กับภรรยาผมฟัง เขาก็มีคำถามผมว่า “ที่น่าสนใจกว่าการค้นพบมะเร็ง คือการที่รู้ว่ามีเม็ดเลือดร้ายที่เป็นเชื้อของมะเร็งแล้ว เราจะต้องทำอย่างไรต่อไป?” ซึ่งผมคิดว่าเป็นคำถามที่น่าสนใจมาก เพราะวันนี้ผู้สูงอายุเพศชายกับผู้สูงอายุเพศหญิง ความเสี่ยงเป็นมะเร็งก็จะมีความต่างกัน เช่น ผู้สูงอายุเพศชายส่วนใหญ่ จะเป็นมะเร็ง 1 มะเร็งตับ 2 มะเร็งปอด 3 มะเร็งลำใส้ใหญ่ทวารหนัก 4 มะเร็งช่องปาก 5 มะเร็งต่อมลูกหมาก ส่วนผู้สูงอายุเพศหญิงก็จะเป็น 1 มะเร็งปากมดลูก 2 มะเร็งเต้านม 3 มะเร็งตับ 4 มะเร็งปอด 5 มะเร็งลำใส้ใหญ่ทวารหนัก 


จะเห็นว่าเจ้าโรคร้ายนี้ เข้ามาสู่ตัวเราได้อย่างไม่ยาก เราผู้สูงอายุทุกคน จึงควรต้องไปตรวจร่างกายทุกปี ตัวผมเองก็ไม่ยกเว้น ผมก็จะไปใช้บริการของศูนย์มะเร็งที่อยู่ติดกับโรงพยาบาลรามาทุกปี ทำมาเช่นนี้เป็นประจำมาติดต่อกันหลายปีแล้ว เพื่อเป็นการไม่ประมาทในชีวิตครับ
      

ส่วนใหญ่ผู้ที่เป็นโรคมะเร็ง มักจะรู้ตัวเมื่อไปตรวจร่างกาย แล้วแพทย์ตรวจพบแล้ว และมักจะเป็นมะเร็งขั้นแรกหรือขึ้นที่สูงกว่านั้นตามที่ผมกล่าวมาแล้วข้างต้น ซึ่งถ้าหากเราสามารถรู้ได้ว่า เรามีแนวโน้มที่จะเป็นมะเร็งขั้นแรก ด้วยการตรวจจากผู้เชี่ยวชาญที่เขามีเครื่องมือตรวจหาที่แม่นยำ และได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขของไทยแล้ว ก็จะเป็นประโยชน์สำหรับการรักษา 


เพราะทางการแพทย์บ้านเราปัจจุบันนี้ มีวิธีการรักษาให้เราได้หลากหลายมาก หรือถ้าเราจะป้องกันตนเอง ด้วยการระมัดระวังเรื่องของอาหารการกินได้ แม้จะเป็นวิถีทางใดก็ตาม การรู้ก่อนล่วงหน้า ล้วนแต่เป็นประโยชน์ในการช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกันได้เป็นอย่างดีครับ