JAS ขายหมด...ไม่เหลืออะไร!

21 ธ.ค. 2565 | 04:00 น.
4.7 k

คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ โดย...เจ๊เมาธ์

***จากกรณีที่ Norges Bank (ธนาคารกลางนอร์เวย์) ตัดสินใจนำหลักทรัพย์ของ PTT และ OR ออกจากกองทุน Pension Fund ของรัฐบาลนอร์เวย์ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.65 เพราะกังวลว่าทั้งสองบริษัทอาจมีการลงทุนที่เข้าข่ายสนับสนุนรัฐบาลทหารพม่าทางอ้อม สร้างแรงกดดันให้ราคาหุ้นตระกูล ป. ทั้ง PTT และ OR ปรับราคาลงมาแตะจุดต่ำสุดในรอบปี ซึ่งเจ๊เมาธ์ กลับมองว่า การขายหลักทรัพย์ของ PTT และ OR ที่กองทุนนี้ถืออยู่ 0.35% และ 0.23% จะไม่สร้างผลกระทบใดๆ เนื่องจากกองทุน Pension Fund ที่ว่านี้ก็เป็นแค่ผู้ลงทุนรายเล็กๆ เมื่อเทียบกับผู้ถือหุ้นรายอื่น 


เพียงแต่อาศัยคำว่า “กองทุนระดับโลกทิ้งหุ้นของ PTT และ OR” เท่านั้น อย่าลืมว่า การซื้อพลังงานจากพม่า เป็นนโยบายความสมดุลและมั่นคงทางพลังงานของประเทศ ดังนั้น ถ้าจะต้องมาสนใจว่า กองทุนพวกนี้จะทิ้งการลงทุนในประเทศ เพื่อแลกกับราคาพลังงานของไทยขยับขึ้นไปสูงแบบที่ประเทศยุโรปพวกนี้กำลังเผชิญอยู่ ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ 
 

และในท้ายที่สุด...เมื่อผลการดำเนินงานของทั้ง PTT และ OR กลับมาทำกำไรได้แบบที่เคย แม้ว่ากองทุนพวกนี้จะไม่กลับมาก็จะมีกองทุนอื่นต่อคิวเข้ามาอีกเพียบ อย่าลืมว่ากองทุนเหล่านี้เกิดขึ้นมาเพื่อหาเงิน....เมื่อมีเงินและผลประโยชน์ให้ตามที่ต้องการ ท้ายที่สุดหางก็จะกระดิกเดินตามอยู่ดีเจ้าค่ะ

*** ข่าวที่ DELTA จะได้กลับเข้าไปอยู่ในดัชนี SET50 และ SET100 ซึ่งปล่อยออกมาจากโบรกเกอร์หลายสำนัก ทำให้เจ๊เมาธ์เริ่มที่จะงงอีกแล้ว อย่างแรกคือ DELTA เคยเป็นบริษัทที่อยู่ในทั้ง SET50 และ SET100 แล้วถูกถีบออกมา เมื่อปลายปี 64 เนื่องจากประเด็นสัดส่วนผู้ถือหลักทรัพย์รายย่อย (Free Float) ทำให้หุ้นที่มีหมุนเวียนอยู่ในกระดานซื้อขายน้อยมาก จนเกิดข้อครหาว่าเป็นการบิดเบือนตลาดฯ จนทำให้ DELTA ถูกปลดออกมาในที่สุด
 

ส่วนเรื่องที่สองคือ แม้ว่าจะปลด DELTA ออกมาแล้ว แต่ประเด็นเรื่องสัดส่วนผู้ถือหลักทรัพย์รายย่อย (Free Float) ที่เคยพูดกันว่าจะต้องแก้ไขกลับยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ มาจนข้ามปี ซึ่งหากมีการดึง DELTA กลับไปจริงๆ จะกลายเป็นการกลืนน้ำลายตัวเองหรือไม่...อย่างไร 


ท้ายที่สุดคือ การที่โบรกเกอร์เป็นผู้ปล่อยข่าวว่า DELTA จะถูกดึงให้กลับเข้าไปอยู่ใน SET50 และ SET100 เป็นเรื่องของความบริสุทธิ์ใจจริงๆ หรือเป็นเพียงแค่การขายข่าว เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อขาย เพราะหวังค่าคอมฯ อื่ม...พูดมาขนาดนี้แล้วก็อยากรู้จริงๆ ว่าตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร

*** ราคาหุ้น JAS ของ “พิชญ์ โพธารามิก” ปรับราคาลงมาต่อเนื่องจนล่าสุดราคาลงไปอยู่ในจุดต่ำสุดตั้งแต่เข้าตลาดมา เนื่องจากแหล่งรายได้ซึ่งเคยเป็นแกนหลักของหุ้นตัวนี้ ถูกขายออกไปแล้วหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์ที่เป็นโครงข่ายเคเบิลใยแก้ว ที่ถูกขายเอาเงินมาแบ่งเป็นปันผลให้กับผู้ถือหุ้น หรือ ล่าสุดก็เป็นการขายหน่วยเงินลงทุนทั้งหมดในบริบริษัทย่อยและกิจการเกี่ยวข้องของบริษัท TTTBB และ JASIF ให้แก่ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) รวมมูลค่าทั้งสิ้น 32,420 ล้านบาท ที่แม้ว่าจะยังไม่จบเกม...แต่ก็ชัดเจนว่า JAS จะแปลงสินทรัพย์เหล่านี้มาเป็นเงินและแจกออกมาเป็นปันผลแล้วแน่นอน 


นี่ยังไม่นับรวมไปถึงก่อนหน้านี้ที่ JAS เคยดึงเอากำไรสะสมที่เคยมีมาแจกเป็นปันผลไปแล้วเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ถึงตอนนี้ JAS แทบจะไม่เหลือแหล่งที่มาของรายได้ หรือถึงแม้ว่าจะมีเหลืออยู่ ก็น่าจะไม่มาก ส่วนเรื่องที่ว่าขายของแล้วเอาเงินมาปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ก็เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ของ JAS คือใคร 


ตอนนี้ก็เหลือแค่ว่าเมื่อขายของไปหมดทุกอย่าง จนไม่เหลืออะไรให้ขาย...ท้ายที่สุดแล้ว “พิชญ์ โพธารามิก” จะเปลี่ยนให้ JAS กลายเป็นเงินตามไปด้วยหรือไม่ก็เท่านั้นเอง 
 

*** เห็นราคาหุ้นในกลุ่มเหล็กอย่าง CHOW PREM SIAM AMC หรืออีกหลายตัวที่อยู่ในกลุ่มปรับขึ้นมาแรง ก็บอกได้แค่ให้ระวังตัว เพราะสำหรับหุ้นกลุ่มนี้ไม่ว่าใครจะชอบ หรือจะถูกใจแค่ไหน แต่ถ้าใครเล่นไม่ระวังหรือถือยาวเกินไป ส่วนใหญ่ก็มักจะเจ็บตัวทั้งนั้น อย่างหนึ่งเป็นเพราะหุ้นกลุ่มนี้คือ หุ้นเล่นรอบที่ถ้ามา...ก็จะมาพร้อมกันแบบยกแผง ซึ่งถ้าไปก็จะทิ้งในแบบยกแผงเช่นเดียวกัน   
 

ส่วนเรื่องต่อมา คือหุ้นกลุ่มนี้มีกิจกรรมการทำธุรกิจที่ดูเหมือนอยู่ในแดนสนธยา นั่นคือ ไม่ว่าราคาวัตถุดิบจะถูก หรือ แพง และไม่ว่าราคาขายสินค้าจะดีขึ้นหรือต่ำลง แต่บริษัทเหล่านี้ไม่ว่าจะบริษัทไหน ก็จะมีผลการดำเนินงานที่ลุ่มๆ ดอนๆ มาตลอด นี่ยังไม่นับรวมไปถึงความไม่ชอบมาพากลที่ไม่มีคนพูดถึงกันหลายอย่าง ที่ทำให้หุ้นเหล็กเป็นกลุ่มหุ้นสำหรับคนเฉพาะกลุ่มที่คนภายนอกไม่ควรจะเข้าไปยุ่งด้วย เจ๊เมาธ์ก็ได้แค่เตือนเบาๆ ก็เท่านั้นเอง 


หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,846 วันที่ 22 - 24 ธันวาคม พ.ศ. 2565