โอกาสของนักเล่นหุ้น

03 เม.ย. 2568 | 10:54 น.
อัปเดตล่าสุด :03 เม.ย. 2568 | 11:26 น.

โอกาสของนักเล่นหุ้น

KEY

POINTS

  • โอกาสที่เราจะสร้างตัวจากตลาดหุ้นได้คือการซื้อหุ้นในภาวะวิกฤต เมื่อเราอยู่ในวิกฤต คนส่วนใหญ่จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ขอถือเงินสด” แล้วเราจะสามารถคว้าโอกาสในวิกฤตได้อย่างไร?
  • เมื่อเกิดวิฤตผู้คนจะเทขายหนีตาย ไม่ว่าหุ้นตัวนั้นจะเป็นหุ้นที่ดีและมีราคาถูกหรือต่ำกว่ามูลค่าที่เหมาะสมแค่ไหน คนส่วนใหญ่จะคิดว่าถ้าเราไม่ขายคนอื่นก็ขาย จึงเกิดภาวะ “หุ้นผิดราคา” ที่ไม่มีใครอยากได้หรืออยากซื้อ
  • ถ้าเราซื้อหุ้นได้ถูกตัว ในจำนวนที่มากพอและรอได้ เมื่อเวลาผ่านไป เราจะกลายหนึ่งในคนที่สามารถคว้าโอกาสในวิกฤตและพลิกชีวิตได้ 
     

โอกาสของนักเล่นหุ้น คอลัมน์ SUPER TRADER โดย  สรัช จันทร์บูรณะพินิจ Super Trader

 

อย่างที่เราทราบกันดีว่าโอกาสที่เราจะสร้างตัวจากตลาดหุ้นได้ก็คือการซื้อหุ้นในภาวะวิกฤต ในภาวะปกติ หลายคนตัดพ้ออยากมีโอกาสที่จะได้พบเจอวิกฤตสักครั้งในชีวิต เพราะในช่วงชีวิตคนเราอาจจะเจอวิกฤตใหญ่ๆ แค่ไม่กี่ครั้ง แต่เชื่อหรือไม่ ว่าเมื่อเราอยู่ในวิกฤต คนส่วนใหญ่จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ขอถือเงินสด” แล้วเราจะสามารถคว้าโอกาสในวิกฤตได้อย่างไร?

เราต้องรู้ก่อนว่าวิกฤตหน้าตาเป็นอย่างไร วิกฤต คือ เหตุการณ์ที่รุนแรง ร้ายแรง ธรรมชาติของวิกฤตเมื่อเกิดขึ้นแล้วผู้คนจะต้อง “กลัว” ในแบบที่ “ไร้เหตุผล” สำหรับตลาดหุ้น เมื่อเกิดวิฤตผู้คนจะเทขายหนีตาย ไม่สนว่าหุ้นตัวนั้นจะเป็นหุ้นที่ดีและมีราคาถูกหรือต่ำกว่ามูลค่าที่เหมาะสมแค่ไหน คนส่วนใหญ่จะคิดว่าถ้าเราไม่ขายคนอื่นก็ขาย จึงเกิดภาวะ “หุ้นผิดราคา” ที่ไม่มีใครอยากได้หรืออยากซื้อ ราคาหุ้นที่ร่วงอย่างหนักจนต่ำกว่าราคาที่เหมาะสมมาก จึงเป็นโอกาสที่จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ในภาวะปกตินั่นเอง และต่อให้ผู้อ่านเข้าใจบริบทข้างต้นดีแล้ว ผมเชื่อว่าเมื่ออยู่ในภาวะวิกฤตจริงๆ เราก็จะยังคงกลัวอยู่ดี 


สิ่งที่จะช่วยเราได้ก็คือการวางแผนล่วงหน้า โดยไม่ใช้อารมณ์เข้าไปเกี่ยวข้อง 

ข้อแรกเลือกหุ้นให้ถูกตัว ตัวไหนคือหุ้นที่ดี มีโอกาสที่ผลประกอบการจะเติบโตต่อเนื่องได้ 3-5 ปีข้างหน้า

ข้อสองวางแผนการเข้าซื้ออย่างเหมาะสม จุดนี้ต้องใช้กราฟเทคนิค เพราะในวิฤต “ถูกแล้วมีถูกอีก” เราไม่สามารถที่จะซื้อหุ้นได้ที่ราคาจุดต่ำ ดังนั้น เราต้องใช้การแบ่งไม้ซื้อหรือวาง Money Management ให้ดี โดยการแบ่งไม้ซื้อเป็น 3-4 ไม้ แล้ววางจุด Stop Loss ประมาณ 20% จากจุดซื้อ เพราะถ้าเรา Stop Loss เร็วเกินไป อาจจะเจอการสะบัดของราคา ทำให้ Stop Loss ฟรี หรือขายตัดขาดทุนแล้วราคาเด้งใส่ แต่หากตั้ง Stop Loss มากเกินไป เช่น 40-50% แปลว่าจุดซื้อเรายังไม่ดีพอ

 

ข้อสามเมื่อเราสามารถซื้อหุ้นได้ครบตามที่ต้องการและราคาไม่หลุดจุด Stop Loss หน้าที่ของเราคืออย่าไปจ้องราคามาก เพราะในภาวะวิกฤตราคาจะขึ้นๆ ลงๆ เราอาจจะเห็นกำไร 20% ลงมาเหลือ 5% ได้เป็นเรื่องปกติ เราสนใจแค่จุด Stop Loss พอ ที่เหลือปล่อยให้เวลาดำเนินไป เพราะเมื่อผ่านวิกฤตไปแล้วหรือผู้คนหายตกใจแล้ว ในช่วงแรกราคาจะปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ตอนนั้นเราจะสบายใจที่จะถือหุ้นมากขึ้น เพราะราคาไปไกลทุนมากแล้ว

ข้อสุดท้ายเมื่อตลาดกลับมาเป็นขาขึ้น อาจจะอีก 3-5 ปีข้างหน้า เมื่อตลาดเข้าสู่ภาวะ Super Bullish ใครๆ ก็พูดถึงตลาดหุ้น อยากเข้ามาเล่นหุ้น จุดนั้น คือ จุดขายที่ดีที่สุด 
 
ถ้าเราซื้อหุ้นได้ถูกตัว ในจำนวนที่มากพอ และรอได้ ไม่รีบขายเร็วเกินไป เมื่อเวลาผ่านไป 3 ปี 5 ปี 10 ปี เราจะกลายหนึ่งในคนที่สามารถคว้าโอกาสในวิกฤตและพลิกชีวิตได้