ปรากฏการณ์ ซิง ซิง บทเรียนที่ไทยควรเรียนรู้

13 ม.ค. 2568 | 05:30 น.

ปรากฏการณ์ ซิง ซิง บทเรียนที่ไทยควรเรียนรู้ คอลัมน์ เมียงมอง เมียนมา โดย กริช อึ้งวิฑูรสถิตย์

ในวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ข่าวใหญ่ที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนดังคึกโครม หนีไม่พ้นเรื่องของดาราตัวประกอบที่ชื่อว่า หวาง ซิง 王星 หรือที่สื่อไทยเรียกชื่อเล่นของเขา ซิง ซิง 星星 จากการที่เขาถูกลักพาตัว ไปยังเมืองเมียวดี ที่สื่อทุกสำนักต่างจับตามอง คือการช่วยเหลือของตำรวจไทย และไปรับตัวจากชายแดนเมียวดี-อำเภอแม่สอดข้ามมายังประเทศไทย จากเดิมก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน เป็นข่าวเล็กๆที่คนไม่ค่อยสนใจ ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อในประเทศจีนเป็นอย่างมาก ผมเองก็เพิ่งได้เห็นข่าวดังกล่าว จากสื่อออนไลน์หวุยโป 微波 จึงได้เข้าไปดูซึ่งพอเปิดเข้าไปก็ถึงกับอึ้งไปเลยครับ

ขอย้อนหลังไปนิดหนึ่ง ในตอนที่เห็นข่าวครั้งแรก คือช่วงของวันที่ 6 มกราคม ที่แฟนสาวของดาราคนดังกล่าว ได้โพสต์ลงในสื่อออนไลน์ ขอร้องให้แฟนคลับและผู้ที่เห็นข่าวนี้ช่วยกระจายข่าวดังกล่าวให้ด้วย เพื่อเป็นการช่วยเหลือดาราที่ชื่อ หวาง ซิง ตอนนั้นยังไม่ดังมาก แต่มาดังมากๆก็หลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือออกมาแล้วนั่นแหละครับ

เรื่องราวของนายหวาง ซิง เกิดขึ้นเมื่อราวๆ วันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา นายหวาง ซิง ได้ติดต่อกับนาย แหยน สือลิ่ว 彥十六 เพื่อของานทำตามที่นายแหยนได้โฆษณาในสื่อออนไลน์ ว่ามีงานการแสดงละครในประเทศไทย โดยบริษัทสื่อทีวีชื่อดังบริษัทหนึ่ง เมื่อได้ส่งผลงานและรูปไปที่นายแหยน สือลิ่ว ในสองวันต่อมา ก็ได้รับการติดต่อกลับ ว่าเชิญให้หวาง ซิง เดินทางมาที่ประเทศไทย เพื่อทำการแคสติ้ง(Casting) เพื่อออดิชั่น(Audition)ดูว่าจะสามารถทำงานนี้ได้หรือเปล่า? โดยมีการนัดหมายให้เดินทางมาในประเทศไทยในต้นเดือนมกราคม ซึ่งการติดต่อดังกล่าวนั้น มีการใช้คำพูดที่เป็นศัพท์ที่ใช้วงการบันเทิงทั้งหมด จึงทำให้นายหวาง ซิงไม่รู้สึกตัวว่าตนเองกำลังเดินเข้าสู่กับดักแล้วนั่นเองครับ 

ต่อมาในวันที่ 30 ธันวาคม นายหวาง ซิงก็ได้แจ้งให้ทางกองถ่ายจอมปลอมนี้ไปว่า ในช่วงต้นเดือนมกราคมตนเองไม่สามารถเดินทางได้ จึงขอปฎิเสธงานครั้งนี้ แต่ทางกองถ่ายได้ตอบกลับมาว่า การปฎิเสธงานครั้งนี้กระชั้นชิดมากเกินไป ทางกองถ่ายไม่สามารถหานักแสดงใหม่มาทดแทนได้ทัน ทางกองถ่ายจะเกิดความเสียหายมาก จึงอยากจะขอให้นายหวาง ซิง ทบทวนดูอีกครั้ง หากนายหวาง ซิงสามารถเดินทางมาได้ ทางกองถ่ายจะให้การดูแลเป็นอย่างดี โดยจะส่งตั๋วเครื่องบินพร้อมคนมารับที่สนามบินให้ ซึ่งนายหวาง ซิง ก็เลยต้องเดินทางมา

ในวันที่ 3 มกราคม เวลาราวๆ ตี 4  นายหวาง ซิง จึงเดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ได้มีนายแหยน สือลิ่วเดินทางมารับ จากนั้นก็พาไปพักที่โรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่งแถบสนามบิน เพื่อพักผ่อนรอการเดินทาง ในระหว่างที่เดินทางมากรุงเทพฯ นายหวาง ซิงได้ติดต่อกับแฟนสาวที่ชื่อ เจีย เจีย 嘉嘉  มาโดยตลอด จึงทำให้แฟนสาวรับรู้ความเคลื่อนไหวของนายหวาง ซิงตลอดเวลา

ในเวลา 11:34 น. ของวันที่ 3 นายหวาง ซิงได้แจ้งข่าวมาว่า ได้มีการเปลี่ยนรถที่มารับเป็นรถตู้ เพื่อเดินทางต่อไปที่กองถ่าย และเวลา 11:45 น. เจีย เจีย พยายามติดต่อกลับมาที่นาย หวาง ซิง แต่ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย เจีย เจีย ได้พยายามใช้แอพพลิเคชั่นของโทรศัพท์ ติดต่อสืบเสาะหาแฟนหนุ่ม ซึ่งในเวลา 12:00 น. จึงได้สัญญาณของโทรศัพท์เครื่องที่นายหวาง ซิงใช้ ไปโผล่ที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จึงทำให้ทราบว่า อาจจะเกิดเหตุร้ายกับนายหวาง ซิงแน่นอน 

ในวันเดียวกันนั้นเอง เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ เจีย เจีย เริ่มพยายามคิดหาวิธีการช่วยเหลือแฟนหนุ่มให้ได้ โดยเริ่มจากการทำการสร้างสื่อโฆษณาต่างๆ ในวันที่ 5 เจีย เจีย ก็เริ่มขอความช่วยเหลือจากสื่อออนไลน์ทุกสื่อ ไม่ว่าจะเป็นหวุยโป หวุยซิ่งหรือโต่วหยิง 微波  微信 抖音 โดยขอร้องให้กลุ่มนักแสดงต่างๆ ช่วยกันกระจายข่าวดังกล่าวให้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือสืบเสาะหาแฟนหนุ่ม ซึ่งก็ได้ผลมาก เพราะทุกคนเริ่มจับตาดูและติดตามมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อมา เจีย เจีย จึงได้เดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจเมืองเซียงไฮ้ ทางสถานีตำรวจบอกกับเจีย เจีย ว่า เหตุเกิดนอกพื้นที่ อีกทั้งเกิดในต่างประเทศ เจีย เจีย ต้องแจ้งความที่ต่างประเทศ และต้องเดินทางไปแจ้งขอความช่วยเหลือที่สถานทูตจีนในประเทศไทยเอง จึงจะสามารถช่วยเหลือได้ 

ในวันที่ 6 มกราคม เจีย เจีย พร้อมทั้งนายหวาง ฉิน 王秦 ผู้เป็นน้องชายของนายหวาง ซิง จึงได้เดินทางเข้ามายังประเทศไทย และเข้าไปขอความช่วยเหลือจากสถานทูตจีนประจำประเทศไทย ซึ่งก็ได้รับความช่วยเหลือในทันที อีกทั้งยังร่วมเดินทางไปยังอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อเข้าแจ้งความคนหายที่นั่น ต่อมาทางตำรวจได้ประสานขอความช่วยเหลือไปยังฝั่งของเมียวดี โดยได้ติดต่อไปยังกองกำลังรักษาพรมแดนของเมียวดี (BGF) โดยท่านหม่อง วิน ซึ่งในวันต่อมา ก็ได้รับทราบข่าวดีว่า ทาง BGF ได้พบตัวนายหวาง ซิง เรียบร้อยแล้ว และพร้อมที่จะช่วยส่งตัวกลับมายังประเทศไทย ผ่านด่านชายแดนแม่สอด-เมียวดี

ต่อมาในวันที่ 7 มกราคม ช่วงบ่ายๆ ก็ได้ทำการส่งตัวกลับมาในสภาพที่ถูกโกนหัวจนโล้น สภาพร่างกายดูจากสายตาก็จะเห็นว่าโทรมมากๆ เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ สร้างความฮือฮาให้กลับสื่อในประเทศจีนมาก อีกทั้งโดยกระทรวงการต่างประเทศของรัฐบาลจีน ก็ได้มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกด้วย ข่าวที่ออกมาทั้งหมดล้วนแต่เป็นข่าวทางด้านลบ แม้จะมีข่าวออกมาว่า ทางการไทยโดยนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาให้ข่าวว่า ได้สั่งการให้ช่วยเหลือนายหวาง ซิงให้ได้ หรือข่าวที่ว่าตำรวจไทยเป็นฝ่ายประสานงานช่วยเหลือให้สามารถช่วยให้นายหวาง ซิง ได้รับอิสระภาพได้ หลังจากได้รับแจ้งความแค่วันเดียว ซึ่งน่าจะเป็นข่าวให้เห็นถึงประสิทธิภาพตำรวจไทยก็ตาม แต่สื่อต่างๆ ที่ประโคมข่าวอยู่นั้น กลับเป็นข่าวทางด้านลบต่อประเทศไทยเสียเป็นส่วนใหญ่ครับ

เหตุการณ์ครั้งนี้จึงเป็นอุทาหรณ์หรือเป็น Case study ให้ไทยเราเป็นอย่างดีครับ ผมจึงอยากจะนำเสนอมุมมองของผม ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ให้แก่ทุกคนได้มองกัน แต่เสียดายที่หน้ากระดาษหมดเสียแล้ว เอาไว้อาทิตย์หน้า ผมจะวิเคราะห์ข่าวนี้ให้อ่านนะครับ โปรดติดตาม หวาง ซิงในตอนต่อไปครับ