JKN รอไปอีกยาวๆ

20 พ.ย. 2567 | 06:00 น.

JKN รอไปอีกยาวๆ : คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ โดย..เจ๊เมาธ์ ฐานเศรษฐกิจออนไลน์

*** หลังจบเทศกาลการแจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2567 มีทั้งบริษัทที่ได้ไปต่อ รวมไปถึงบริษัทที่เริ่มออกอาการ “ร่อแร่” แต่สำหรับเจ๊เมาธ์ แม้ว่า บมจ. เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป หรือ JKN ของ “แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” จะยังอยู่ในระหว่างช่วงพักการซื้อขาย...แต่ถือว่ายังน่าสนใจ เพราะบริษัทยังไม่สามารถนำส่งงบการเงินไตรมาส 1/2567 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2567 มายังตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในระยะเวลาที่กำหนด เป็นเหตุให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะดำเนินการดังนี้

1. ประกาศว่า JKN มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย. 2567 โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย NC (Non-Compliance) และยังคงเครื่องหมาย SP (Suspension) ห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ต่อไป จนกว่า JKN จะดำเนินการแก้ไขให้เหตุเพิกถอนหมดไปและดำเนินการให้หลักทรัพย์กลับมาซื้อขายได้ในระยะเวลาที่กำหนด 

2. ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะให้ระยะเวลา JKN ในการแก้ไขเหตุเพิกถอนให้หมดไปภายใน 2 ปี นับแต่วันที่ 18 พ.ย. 2567 เมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว หากบริษัทยังไม่สามารถแก้ไขเหตุเพิกถอนให้หมดไปได้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเสนอคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อพิจารณาเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทต่อไป 

ก่อนหน้านี้ JKN ได้แจ้งขอเลื่อนกำหนดส่งงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการไตรมาส 1/2567 จากวันที่ 31 ก.ค.2567 ไปเป็นภายหลังจากที่ศาลล้มละลายกลางในคดีฟื้นฟูกิจการ จะมีคำสั่งแต่งตั้งผู้ทำแผนของบริษัท และต่อมาในวันที่ 29 ส.ค.2567 ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งแต่งตั้ง JKN เป็นผู้ทำแผน พร้อมทั้งได้มีประกาศคำสั่งแต่งตั้งบริษัทเป็นผู้ทำแผนในราชกิจจานุเบกษาแล้ว โดยทาง JKN จะได้ดำเนินการแต่งตั้งผู้สอบบัญชีงบการเงินประจำปี 2567 ตามอำนาจหน้าที่ทางกฎหมายต่อไป 

อย่างไรก็ตาม...ในมุมมองของเจ๊เมาธ์ ถึงแม้ว่าในอนาคต ถ้าหากว่าทาง JKN สามารถแจ้งผลการดำเนินงาน...แต่ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าอีกนานแค่ไหนถึงจะสามารถกลับเข้ามาซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นได้อีก ดังนั้น “ความซวย” จึงยังคงจะเกาะติดอยู่กับนักลงทุนที่มีหุ้นของ JKN อยู่ในพอร์ต ...ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะออกได้เมื่อไหร่กันแน่ 

ก็อย่างที่เจ๊เคยบอกมาตลอดว่า บริษัทที่ผู้บริหารเอาตัวเองมาเป็นจุดขายมากกว่าตัวของธุรกิจในแบบนี้ มันดูแปลกๆ ที่หากไม่จำเป็นก็ไม่ควรจะเข้าไปยุ่ง บอกเลยว่าหุ้นแบบนี้ยังมีอยู่อีกหลายตัว ...แน่นอนว่าถ้าเจ๊เมาธ์มีข้อมูลพอ ก็ไม่พลาดที่จะมาอัพเดทให้ฟังอยู่แล้วเจ้าค่ะ

*** ส่วนทางฝั่งของ ITD จากกรณีที่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ขึ้นเครื่องหมาย CS (Caution - Financial Statements) และ CB (Caution - Business) บนหลักทรัพย์ไป เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2567 เนื่องจากผู้สอบบัญชีไม่สามารถให้ข้อสรุปต่องบการเงินระหว่างกาล ไตรมาสที่ 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย. 2567 

รวมไปถึงการที่บริษัทมีสัดส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่า 50% ของทุนชำระแล้วในงบการเงินดังกล่าว กรณีนี้ส่งผลให้ ITD จำเป็นต้องจัด Public Presentation เพื่อชี้แจงแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวของบริษัท ในวันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 10.30 น. ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

อย่างไรก็ตาม...ถึงแม้จะมีการชี้แจงแนวทางการแก้ไขปัญหาในรูปแบบ Public Presentation ดูจะเป็นเรื่องของการดำเนินการทาง “พิธีกรรม” เพียงเท่านั้น หรือ แม้ว่าอาจมีการรับฟังความเห็นอยู่บ้าง แต่ก็ไม่รู้ว่า ทาง ITD จะมีการนำข้อมูลที่ได้กลับไปทำอะไรหรือไม่ ก็ไม่มีใครรู้ 

เพราะเอาเข้าจริงๆ ในมุมมองของเจ๊เมาธ์ การประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ก็เป็นแค่เรื่องของการพูด หรือ ให้ข้อมูลทางเดียว ส่วนแนวทางธุรกิจการบริหารจัดการทางการเงิน หรือ เรื่องอื่นใดที่เกิดเป็นปัญหาขึ้นมาแล้ว ก็คงไม่หนีไปจากเดิมในช่วงสั้นๆ 
ถ้าจะมีความเปลี่ยนแปลงก็คงทำไปนานแล้วค่ะ

*** การคว้าลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก-เอฟเอคัพ 3 ฤดูกาล ถือเป็นความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของ JAS แม้จะไม่ทำให้ราคาหุ้นวิ่งแรง แต่ก็ทำให้ JAS ถูกนำกลับมาพูดถึงกันอีกครั้ง 

อย่างหนึ่ง ก็เป็นเพราะหลังจากการที่ JAS เคยชนะการประมูลคลื่นความถี่สำหรับใบอนุญาตประกอบกิจการในระบบ 4G ด้วยราคา 75,654 ล้านบาท จาก กสทช. แต่ท้ายที่สุดบริษัทต้องยอมถอยโดยจ่ายค่าปรับกว่า 644 ล้านบาท พร้อมถูกขึ้นแบล็คลิสต์จาก กสทช. ก็เป็นเหตุที่ทำให้นักลงทุนหลายคนยังคงมอง JAS ด้วยสายตาที่หวาดระแวงมาตลอด

ขณะเดียวกัน การที่ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียว (Exclusivity Right) ในครั้งนี้ ใช้เงินลงทุนกว่า 1.9 หมื่นล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีเงินสดในมือเพียง 4.7 พันล้านบาท ทำให้ JAS จำเป็นที่จะต้องระดมทุนเข้ามาเพิ่มอีกราว 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งดูแล้วอาจจะเป็นเรื่องยาก 
ขณะเดียวกัน นักลงทุนหลายคนก็เกิดความแคลงใจว่า การลงทุนใหญ่ในครั้งนี้ อาจเป็นการเดินตามรอยกรณีของการประมูลคลื่น 4G อีกครั้งก็เป็นได้

อย่างไรก็ตาม...เจ๊เมาธ์ยังมองว่า ควรรอฟังความเห็นของที่ปรึกษาการเงินอิสระ (IFA) ว่าจะมองไปทางไหน แต่ที่แน่ๆ หากต้องการความสบายใจก็รอไปเรื่อยๆ ก่อนได้นะคะ เจ๊เมาธ์ยังเชื่อว่าระดับ “เสี่ยพิชญ์” ยังมีอะไรมาให้เซอร์ไพรส์ได้อีกเยอะอยู่แล้วเจ้าค่ะ อิอิอิ